สำนักข่าวเอพี เมื่อวันอังคารที่ 20 มีนาคม 2018 โดยอ้างแถลงของ นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กล่าวยืนยันว่า ในช่วงเช้าของวันดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ถึง วลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อแสดงความยินดีปูติน ที่ชนะการเลือกตั้ง ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2018 ทำให้ปูตินสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้อีกหกปี

ขณะที่ทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผู้นำทั้งสองยังได้หารือกันถึงความจำเป็นในการ "ประสานความพยายาม เพื่อจำกัดการแข่งขันด้านอาวุธ" และร่วมมือกันใกล้ชิดมากขึ้น ทางด้านเสถียรภาพยุทธศาสตร์ และต่อต้านการก่อการร้าย
    
แถลงการณ์ของเครมลิน กล่าวอีกว่า ผู้นำทั้งสองได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการจัดประชุมสุดยอดทวิภาคี และต่างแสดงความพึงพอใจ ที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือดูเหมือนจะลดลง

โดยนายดมิตรี เพสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า ทรัมป์กับปูตินไม่มีการพูดถึงการโจมตีด้วยสารพิษต่อนายเซอร์เก สกรีพัล อดีตสายลับรัสเซียในอังกฤษ
    
ก่อนหน้านี้มอสโกกล่าวซ้ำหลายครั้งว่า ต้องการความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสหรัฐ ภายใต้รัฐบาลของทรัมป์ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังคงตึงเครียด ท่ามกลางข้อกล่าวหารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 เพื่อช่วยเหลือให้ทรัมป์ ได้รับชัยนะเหนือนางฮิลลารี คลินตัน และการสอบสวนเกี่ยวกับความเกี่ยวพันระหว่างทีมงานหาเสียงของทรัมป์กับรัสเซีย

ซึ่งการออกมาแสดงความยินดีกับชัยชนะแบบถล่มทลายของประธานาธิบดีปูติน ครั้งนี้ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ทั้งจากบรรดานักการเมืองสังกัดเดโมแครต และรีพับลิกัน รวมถึงที่ปรึกษาความมั่นคง ของประธานาธิบดีทรัมป์เองด้วย

ข่าวบอกว่านักการเมืองในสังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคเดียวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างระบายอารมณ์ความรู้สึกไม่พอใจเหตุที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสายโทรศัพท์แสดงความยินดีต่อการชนะเลือกตั้งของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อย่างรุนแรง

นายมิตซ์ แม็กคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมาในวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันรวมทั้งบรรดา ส.ว.คนอื่นๆ แสดงความไม่พอใจ ที่ทรัมป์โทรศัพท์แสดงความยินดีกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อสองวันที่แล้ว เนื่องจากยังมีการสอบสวนกรณีรัสเซียอาจมีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2016 ประกอบกับยังมีกรณีอดีตสายลับรัสเซียในอังกฤษถูกลอบวางยาพิษจนนำไปสู่กับขับไล่นักการทูตรัสเซียออกจากอังกฤษด้วย

"ประธานาธิบดีทรัมป์จะต่อสายโทรศัพท์ถึงใครก็ได้ แต่ไม่ควรไปแสดงความยินดีในการเลือกตั้งของพวกเผด็จการ" นายแม็กคอนเนลกล่าว  ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่านายทรัมป์และปูตินได้พูดคุยร่วมกันในอีกหลายประเด็น แต่ไม่ได้ระบุถึงกรณีการแทรกแซงการเลือกตั้ง หรือกรณีการขับไล่นักการทูตอังกฤษแต่อย่างใด

นอกจากบรรดานักการเมืองแล้ว พลเอก เอช อาร์​แม็กมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์เอง ก็แนะนำอย่างแข็งขันว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ควรแสดงความยินดีกับปูติน

ซัคคารี โคเฮน ผู้สื่อข่าวด้านความมั่นคงของซีเอ็นเอ็น ออกมาประนามประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้นำโลกเสรีคนแรกที่ออกหน้าสนับสนุนผู้นำของประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มองได้ว่าเป็นการดูถูกประชาชนชาวรัสเซีย ที่ “ไม่มีสักคน” ที่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ และว่าบนโลกใบนี้ คงมีเพียง คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีทรัมป์ เท่านั้น ที่ออกมาแสดงความยินดีกับปูตินแบบนี้

โดยหนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2018 ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีไปยังนายวลาดิเมียร์ ปูติน หลังสามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของรัสเซียได้อีกสมัย โดยผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่า "มิตรภาพ" ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย "ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและแน่นแฟ้น ด้วยความปราถนาดีของประชาชนจากทั้งสองประเทศ"

ในส่วนของประเทศไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศ  แถลงเมื่อวันพุธที่ 21 มีนาคม ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อความสารแสดงความยินดีถึงนายวลาดิมีร์ ปูติน ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซียต่อเนื่องอีกวาระ จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2016.