หลังจากมีกระแสสนับสนุนจากชาวอเมริกันจำนวนมากให้โอปราห์ วินฟรีย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2020 เพราะสุนทรพจน์ที่เธอกล่าวหลังรับรางวัลเกียรติยศ “ซีซิล บี เดอมิลล์” ในงานประกาศผลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 75 เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2018 ซึ่งเจ้าแม่ทอล์คโชว์ชื่อดัง ได้กล่าวให้กำลังใจบรรดาสตรีที่กล้าออกมาพูดความจริงถึงความอยุติธรรมและการข่มเหงรังแกทางเพศ รวมทั้งเรียกร้องให้สังคมจัดการกับความไม่เท่าเทียมอย่างจริงจังนั้น ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็โจนเข้าร่วมกระแสดังกล่าวด้วย

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ พูดถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม หลังเสร็จการประชุมหารือเรื่องการปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองกับวุฒิสมาชิก โดยบอกว่า “ใช่ ผมจะชนะโอปราห์” และว่าหากโอปราห์ลงสมัครเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อชิงชัยกับเขาในการเลือกตั้งปี 2020 จริง ก็จะเป็นเรื่องที่สนุกมาก

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ บอกด้วยว่าเขาและโอปราห์ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานาน โดยเขาและครอบครัวเคยเป็นแขกรับเชิญในรายการ The Oprah Winfrey Show ของโอปราห์ วินฟรีย์ ทางเอบีซี ก่อนที่เธอจะยุบรายการเมื่อปี 2011 ด้วย

"ผมชอบโอปราห์นะ แต่ไม่คิดว่าเธอจะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีหรอก ผมรู้จักเธอดี”

ในอดีต โดนัลด์ ทรัมป์ เคยให้สกับภาษณ์กับ ซีเอ็นเอ็นว่า หากเขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอนาคต เขาจะชวน โอปราห์ วินฟรีย์ มาร่วมทีมในฐานะรองประธานาธิบดี โดยกล่าวแสดงความชื่นชม โอปราห์ วินฟรีย์ ว่าคนที่ได้รับความนิยมสูง ฉลาด และเป็นผู้หญิงมหัศจรรย์ "

และเมื่อปี 2015 หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เขายังกล่าวเสนออีกครั้งให้โอปราห์ร่วมลงชิงชัยในตำแหน่งรองประธานาธิบดี "ผมว่าโอปราห์น่ะเยี่ยมไปเลย ผมอยากได้ตัวเธอมาร่วมทีม เราจะชนะได้ง่ายมาก จริง ๆ นะ"

ด้านนางเกล คิง ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของโอปราห์ กล่าวแสดงความเห็นว่ากระแสสนับสนุนให้โอปราห์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ น่าจะทำให้โอปราห์เกิดความสนใจบ้าง แต่เท่าที่เธอทราบในตอนนี้ โอปราห์ยังไม่ได้คิดจริงจังในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วนอิวานกา ทรัมป์ บุตรสาวและที่ปรึกษาประจำทำเนียบประธานาธิบดีของนายทรัมป์ เป็นผู้หนึ่งที่แสดงความชื่นชมสุนทรพจน์ของโอปราห์ และได้ทวีตข้อความสนับสนุนกลุ่มรณรงค์ Time's Up ที่ประกาศต่อสู้กับการใช้อิทธิพลล่วงละเมิดทางเพศ แต่นางอิวานกากลับถูกวิจารณ์ตอบโต้ว่า พลังสนับสนุนของเธอที่มีให้โอปราห์และกลุ่มรณรงค์ดังกล่าว คงไม่มากเท่ากับที่เธอสนับสนุนบิดา ซึ่งมีประวัติถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศสตรีมาหลายคน

เชื่อกันว่านางอิวานกาต้องการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอนาคตเช่นกัน โดยในหนังสือ Fire and Fury: Inside the Trump White House ของ ไมเคิล วูลฟฟ์ ที่เพิ่งวางแผง บอกว่าเธอและสามีคือนายจาเร็ด คุชเนอร์ ทำข้อตกลงกันว่าจะสนับสนุนเธอให้ได้ลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในอนาคต.