พายุนี้กลายเป็นระเบิดไซโคลนเพราะว่ามีแรงดันมหาศาลจากการปะทะกันระหว่างมวลอากาศเย็นในอาร์กติกและร้อนในมหาสมุทร และรวดเร็วเทียบได้กับความรุนแรงของระเบิด อุณหภูมิที่ลดต่ำเป็นประวัติการณ์นี้ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุในสวนสาธารณะ น้ำในสระว่ายน้ำ และทะเลสาบ จนมีการเปรียบเทียบว่าอากาศที่สหรัฐฯหนาวเหน็บยิ่งกว่าอากาศที่ดาวอังคารอีก
ไซโคลนระเบิดเมื่อวันพุธที่ผ่านมายังทำให้เกิดหิมะตกที่เมืองแทลลาแฮสซี เมืองหลวงของมลรัฐฟลอริดาที่ได้รับฉายาว่ารัฐแห่งแสงแดด เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีด้วย ชาวเมืองพากันถ่ายภาพหิมะพร้อมกับติดแฮชแท็ก #snowmageddon ทางการสหรัฐได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในมลรัฐฟลอริดา, จอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา และเวอร์จิเนีย และหน่วยงานด้านสภาพอากาศยังได้ออกคำเตือนพายุหิมะตั้งแต่ชายแดนแคนาดา เรื่อยลงใต้มาจนถึงรัฐเวอร์จิเนีย
สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นดับเบิลยูเอส) พยากรณ์ด้วยว่าพื้นที่รอบเมืองบอสตันจะมีหิมะตกหนาราว 1 ฟุตในวันพฤหัสบดี และยังทำนายว่าจะมีหิมะตกหนักในระดับเดียวกันที่นิวยอร์กซิตีและมีลมแรง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่โรงเรียนใน 2 เมืองนี้ได้รับคำสั่งให้ปิดการเรียนการสอน
ล่าสุดสหรัฐฯเผชิญวิกฤติ ความหนาวยะเยือกสุดขั้วหัวใจ หลายรัฐเจอจุด เยือกแข็งชนิดทำลายสถิติในรอบ 100 ปี บางเมืองที่เคยเป็นเขตอบอุ่นก็ปรากฏหิมะตกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เผยหญิงชราวัย 96 ปี นั่งแข็งตายที่สวนสาธารณะ ส่วนยอดคนหนาวตาย 16 ศพ สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯ รายงานด้วยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยหนาวตลอดสัปดาห์ครั้งนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 16 ศพแล้ว ยังรายงานว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วสหรัฐฯ ยังคงอยู่ที่ -12.7 องศาเซลเซียส