สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหารของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กำลังพิจารณาที่จะออกคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ สั่งให้มีการสอบสวนด้านการค้าที่อาจนำไปสู่การเก็บค่าอากรเพิ่มเติมในผลิตภัณฑ์บางประเภท

นายทรัมป์เคยประกาศให้การลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพื่อสร้างงานในภาคการผลิตเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจที่จะเจรจาข้อตกลงด้านการค้ากับจีนและเม็กซิโกใหม่

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเปิดเผยเมื่อเย็นวันที่ 9 เมษายนว่า คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ที่หากว่ามีการออกมานี้จะค้นหาว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐในสินค้าประเภทนั้นๆ เป็นผลมาจากการนำเข้าแบบทุ่มตลาดที่ราคาต่ำกว่าทุน และการได้รับเงินอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลต่างชาติหรือไม่

ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม แต่การตัดสินใจใดๆ ก็ตามในเรื่องการกำหนดมาตรการลงโทษจะขึ้นอยู่กับผลสอบที่ออกมา ไม่ใช่ข้อสรุปที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุว่า “ฝ่ายบริหารจะใช้ผลการสอบสวนเพื่อพิจารณาถึงวิธีการที่ดีที่สุดในอนาคต ซึ่งจะสรุปรวมทุกอย่างตั้งแต่ไม่มีมาตรการใดๆ เลย ไปจนถึงการเก็บค่าอากรเพิ่มเติม”

ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ข่าวแอ็กซิออส อ้างคำเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐระบุว่า คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับนี้ดูเหมือนว่าจะพุ่งเป้าไปที่เหล็กกล้าและอลูมิเนียม ซึ่งเป็น 2 ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการการปกป้องมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการนำเข้าจากจีน แอ็กซิออสยังระบุว่า คำสั่งฉบับนี้อาจพุ่งเป้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่บริษัทผู้ผลิตของเกาหลีใต้กับโรงงานในจีนครอบครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ด้วย

ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับนี้ซึ่งแยกออกจากฉบับเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่นายทรัมป์ให้เวลา 90 วันกับกระทรวงพาณิชย์ในการศึกษาการประพฤติมิชอบทางการค้าและผลกระทบที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้า

ข่าวเรื่องการพิจารณาเตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริการฉบับใหม่นี้ มีขึ้น 2 วันหลังจากการพบปะกันครั้งแรกระหว่างนายทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่รัฐฟลอริดา ซึ่งผู้นำทั้ง 2 เห็นพ้องกันที่จะมีแผนเจรจาหารือทางการค้าเป็นเวลา 100 วันที่พุ่งเป้าเพิ่มปริมาณการส่งออกของสหรัฐไปยังจีนเพื่อลดการขาดดุลการค้าให้จีนของสหรัฐ

ข่าวระบุว่า อุตสาหกรรมเหล็กได้รับการปกป้องอย่างเข้มข้นด้วยมาตรการเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดและต่อต้านการจ่ายเงินอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีนและชาติอื่นๆ ขณะที่อุตสาหกรรมอลูมิเนียมกำลังต่อสู้เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองแบบเดียวกัน

นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของสหรัฐ เวิร์ลพูลคอร์ป ยังได้รับการคุ้มครองจากมาตรการเก็บภาษีต่อต้านการจ่ายเงินอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมที่ให้บังคับใช้กับเครื่องซักผ้าของ 2 บริษัทเกาหลีใต้คือซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์กับแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในจีน

ทว่านายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากนายทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนด้านการเจรจาการค้าของสหรัฐ ระบุว่า จะศึกษามาตรการทางการค้าต่อไปเพื่อหยุดยั้งการนำเข้าอย่างไม่เป็นธรรม

หนึ่งในทางเลือกที่คาดว่าจะนำมาใช้คือมาตรการด้านการค้าภายใต้มาตรา 301 ของรัฐบัญญัติพิกัดอัตราภาษีศุลกากร ค.ศ.1930 ซึ่งเป็นข้อบัญญัติที่ใช้อย่างเข้มข้นในยุคทศวรรษที่ 1980 เพื่อเก็บภาษีเพิ่มและจำกัดโควตาสินค้านำเข้าบางชนิดจากญี่ปุ่นรวมถึงเหล็กและรถจักรยานยนต์ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าว ไม่ถูกบังคับใช้นับตั้งแต่มีการก่อตั้งองค์การการค้าโลกในปี ค.ศ.1995 (พ.ศ.2538)