เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2024 สมาร์ทแอสเซ็ท บริษัทที่ปรึกษาการเงินของอเมริกา รายงานผลศึกษาเรื่อง “ค่าแรง” ของชาวอเมริกัน ทั้งแบบค่าแรงที่พออยู่ได้ (living wage) และค่าแรงแบบอยู่ได้สบายๆ (comfortable wage) ซึ่งหากมองเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย และอีกหลายรัฐที่ค่าครองชีพสูงแล้ว ค่าแรงทั้งสองแบบนั้น ถือว่าสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นอัตราค่าแรงที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับ หลายเท่าตัว

โดยค่าแรงแบบอยู่ได้สบายๆ” หรือ comfortable wage สำหรับครอบครัวที่มีลูกสองคนนั้น รัฐแคลิฟอร์เนีย ติดอันดับห้า คือครอบครัวจะต้องมีรายได้รวมกันไม่ต่ำกว่า 276,723 ดอลลาร์ต่อปี จึงจะมีสิทธิ์ “อยู่แบบสบายๆ” ในรัฐนี้ได้

แต่สำหรับ “คนโสด” แล้ว รัฐแคลิฟอร์เนียถือเป็นรัฐที่ “แพงที่สุด” ของอเมริกา โดยบอกว่าคนโสดจะอยู่แบบสบายๆ ได้ก็ต่อเมื่อมีเงินเดือนอย่างน้อย 114,000 ดอลลาร์ต่อปี เทียบเท่ากับต้องได้ค่าแรงชั่วโมงละ 55 ดอลลาร์ขึ้นไป

แต่หากมองแค่ค่าแรงแบบพออยู่ได้ หรือ living wage นั้น คนโสดในแคลิฟอร์เนีย จะต้องมีค่าแรง 27.32 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือปีละ 56,800 ดอลลาร์ ส่วนสามี-ภรรยาที่ทำงานทั้งคู่ และมีลูกสองคน จะต้องมีค่าแรงปีละ 138,361 ดอลลาร์ หรือต้องได้ค่าแรงคนละ 33.26 ต่อชั่วโมงขึ้นไป

ทั้งนี้ ค่าแรงขั้นต่ำของรัฐแคลิฟอร์เนียตามกฎหมายกำหนดนั้น อยู่ที่ 16 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงเท่านั้น

ผลศึกษาดังกล่าว สมาร์ทแอสเซ็ท บอกว่าใช้สูตรการจัดสรรงบประมาณแบบ 50/30/20 คือรายได้ 50 เปอร์เซ็นต์ จัดสรรไว้สำหรับสิ่งจำเป็น เช่นบ้าน ประกันสุขภาพ ค่าน้ำมัน และอาหาร, 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสิ่งที่ “อยากได้” เช่นเดินทางท่องเที่ยว หรือจับจ่ายใช้สอยต่างๆ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์คือเงินออม และบิลต่างๆ และใช้ เครื่องมือคำนวนหาค่าแรงแบบอยู่ได้ หรือ Living Wage ของสถาบัน เอ็มไอที (คลิก) ที่สามารถบอกได้ว่าค่าแรงที่อยู่ได้จริงๆ ในแต่ละรัฐ ควรจะมากเท่าไหร่

หากมองเฉพาะ ลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ นั้น ค่าแรงแบบ living wage สำหรับสามีภรรยาที่มีลูกสองคน จะต้องอยู่ที่ 138,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือคนละ 33.24 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่สำหรับคนโสด ค่าแรงแบบอยู่ได้จริง จะอยู่ที่ 26.63 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือปีละ 55,300 ดอลลาร์.

โดยผลการศึกษาบอกด้วยว่า รัฐแมสซาชูเส็ตต์ และฮาวาย เป็นรัฐที่ “แพงที่สุด”​สำหรับคนโสด ส่วนเวสท์ เวอร์จิเนีย และอาร์คันซอส์ เป็นรัฐที่ค่าครองชีพต่ำสุดสำหรับคนโสด.