ตระเวนแอลเอ
ตระเวนแอลเอ 423

.

.


เงินสะพัดกว่า “พันล้าน” ในศึกเลือกตั้งแคลิฟอร์เนีย

เอพีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ว่าบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงกลุ่มสนับสนุนทางการเมืองต่างๆ (Political Action Committees หรือ PACs) ใช้เงินมากกว่า 1.033 พันล้านดอลลาร์ในการหาเสียง และสนับสนุน/คัดค้านต่างกฎหมายต่างๆ ในศึกเลือกตั้งมิดเทอมครั้งนี้

ตัวเลขดังกล่าว เอพีอ้างจากผลสำรวจขององค์กรที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองชื่อ แคลิฟอร์เนีย ทาร์เก็ต บุ๊ก ที่บอกว่าเงินจำนวน 1.033 พันล้านดอลลาร์ดังกล่าว หากเทียบกับจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งในรัฐแล้ว จะเท่ากับหัวละ 50 ดอลลาร์เลยทีเดียว

แคลิฟอร์เนีย ทาร์เก็ต บุ๊ก บอกว่าเงินส่วนใหญ่ คือ 366 ล้านดอลลาร์จะใช้กับการสนับสนุนร่างกฎหมาย หรือ proposition ทั้ง 11 ฉบับ โดยกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมาย 8 จ่ายเงินมากถึง 111 ล้านดอลลาร์ในการดีสเครดิตร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมาย 10 อันเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมค่าเช่าที่พักอาศัย  (rent control) ก็ใช้เงินจำนวน 75 ล้านดอลลาร์ในการเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง “โหวตโน” ร่างกฎหมายฉบับนี้

สนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแคลิฟอร์เนีย มีการใช้จ่ายเงินหาเสียงประมาณ 307 ล้านดอลลาร์ โดยการโจมตีซึ่งกันและกันของ ยัง คิม (รีพับลิกัน) และ กิล ซิสเนโรส์ (เดโมแครต) ในสนามเลือกตั้งเขต 39 ของออเรนจ์ เคาน์ตี้ ใช้เงินมากที่สุดคือ 35 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยคู่ของ ดาน่า โรห์รบาเชอร์ และผู้ท้าชิง ฮาร์ลี โรด้า ในสนามเลือกตั้งเขต 48 ที่ใช้เงินประมาณ 33 ล้านดอลลาร์

ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระดับรัฐ (State Assembly) นั้น ผู้สมัครและกลุ่มสนับสนุนใช้เงินร่วมกันประมาณ 114 ล้านดอลลาร์ ในการเลือกตั้งทั้งหมด 80 ตำแหน่ง นำโดยการเลือกตั้งนเขต 32 (ใกล้เบเกอร์ฟิลด์) ของ รูดี้ ซาลัส (เดโมแครต) และผู้ท้าชิงจากรีพับลิกัน จัสติน เมนเดส ที่กลุ่มแคลิฟอร์เนีย ทาร์เก็ต บุ๊ก บอกว่าใช้เงินหาเสียงรวมกันประมาณ 5.5 ล้านดอลลาร์.




แห่ช่วย “ครูชกนักเรียน” กว่าเก้าหมื่น

เอพี รายงานข่าวเมื่อวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนว่าบรรดาผู้ปกครองและประชาชนในเมืองเมย์วูด ย่านเซาท์อีสต์ของแอลเอ รวมถึงจากต่างรัฐ ได้ร่วมบริจาคเงินผ่านเพจ GoFundMe ให้กับ มาร์ตัน ไรลีย์ ครูผิวดำ ผู้สอนวิชาดนตรีของโรงเรียน เมย์วูด อะคาเดมี่ ไฮสกูล สำหรับใช้ต่อสู้คดีทำร้ายเด็ก (Child abuse) ซึ่งเป็นข้อหาอาญาร้ายแรง เป็นเงินมากถึง 90,960 ดอลลาร์แล้ว

ทั้งนี้ มาร์ตัน ไรลีย์ ได้ก่อเหตุทำร้ายนักเรียนวัย 14 ปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภาพการชกและทุบตีนักเรียนด้วยโทรศัพท์มือถือ ถูกนักเรียนถ่ายเป็นคลิปวิดีโอและนำออกเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นเหตุให้ครูผิวดำถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้จับกุมและตั้งข้อหาทำร้ายเด็กแก่ครูวัย 64 ปี ได้แถลงรายละเอียดว่า การทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นหลังจากที่ครูได้ตำหนินักเรียนที่แต่งตัวผิดระเบียบ แต่ถูกด่ากลับด้วยถ้อยเหยียดผิว และขว้างบาสเก็ตบอลใส่ครูด้วย โดยพยานและหลักฐานระบุชัดว่าครูเป็นฝ่ายเดินหนีตลอดเวลา ก่อนจะทนไม่ไหว และลงมือทำร้ายเด็กนักเรียน ดังที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งผลจากการทุบด้วยโทรศัพท์มือถือ ทำให้นักเรียนศีรษะแตก ต้องเย็บหลายเข็ม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเห็นใจ มาร์ตัน ไรลีย์ รวมถึง ซิซีเลีย ดิเอซ จิมิเนซ ซึ่งเป็นผู้เปิดเพจขอรับบริจาคเงินสำหรับสู้คดีให้กับ มาร์ตัน ไรลีย์ ด้วย โดยในเบื้องต้นนั้น ซิซีเลีย ตั้งเป้าเอาไว้เพียง 50,000 ดอลลาร์เท่านั้น

มาร์ตัน ไรลีย์ ซึ่งอยู่ระหว่างประกันตัว มีกำหนดขึ้นศาลเมโทรฯ ของแอลเอ เคาน์ตี้ เพื่อรับฟังข้อหาในวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยข่าวบอกด้วยว่าขณะนี้ (6 พฤศจิกายน) ผู้บริหารของโรงเรียนและตัวแทนผู้ปกครองกำลังอยู่ระหว่างประชุมหารือว่าจะมีการลงโทษ ครูผิวดำคนนี้หรือไม่ อย่างไร.




สองนักโทษประหารตายปริศนาในคุก

ข่าววันที่ 5 พฤศจิกายน รายงานว่านักโทษประหารสองคนในคุก ซาน ควินติน ได้เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยในเบื้องต้นเชื่อว่านักโทษทั้งสองคนลงมือฆ่าตัวตายเอง

นักโทษรายแรกเป็นอดีตทหารรือชื่อ แอนดรูว์ ออร์เดียเลส วัย 54 ปี ถูกตัดสินโทษประหารเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจากการฆาตกรรมผู้หญิงถึงห้าคน ทั้งในริเวอร์ไซด์ และที่อื่นๆ ในแคลิฟอร์เนีย มีผู้พบศพเขาในห้องขัง (เดี่ยว) เมื่อเวลา 23.15 น. ของวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน ส่วนรายที่สอง ชื่อ วิคเตอร์ โกวิน วัย 51 ปี ถูกตัดสินประหารชีวิตตั้งแต่เดือนมกราคม 2005 ถูกพบเป็นศพในห้องขัง (เดี่ยว) เมื่อเวลา 22.15 น. ของวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าการเสียชีวิตของทั้งสอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน

ข่าวบอกด้วยว่า นับจากปี 1978 ซึ่งเป็นปีที่รัฐแคลิฟอร์เนียรับรองโทษประหารชีวิต มีนักโทษประหาร ฆ่าตัวตายทั้งสิ้น 25 คน โดยขณะนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียมีนักโทษรอประหารอยู่มากถึง 740 คน.




Lowe's ปิด 47 สาขาในยูเอสและแคนาดา

โลวส์ (Lowe’s) ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ของอเมริกา แถลงเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่าจะทำการปิดสาขาที่ผลประกอบการไม่ดี จำนวน 47 แห่งทั่วภูมิภาคอเมริกาเหนือ ทั้งนี้เพื่อทุ่มเทความสนใจให้กับสาขาที่ทำกำไรให้บริษัท ให้มากขึ้น

ข่าวบอกว่า โลว์ส ประสบปัญหาเหมือนกับร้านขายปลีกขนาดใหญ่หลายแห่ง ที่ต้องปิดตัว หรือปิดสาขาลงเป็นจำนวนมาก เช่น เซียร์, เคมาร์ท และทอยส์อาร์อัส เพราะเสียลูกค้าให้กับร้านค้า “ออนไลน์” โดยเฉพาะ amazon.com แต่ที่โลว์ส ได้รับผลกระทบหน่อยกว่าร้านขายปลีกอื่นๆ เพราะ amazon ไม่ขายสินค้าขนาดใหญ่ หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เช่นไม้ หรืออุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ

นอกจากต้องเผชิญกับคู่แข่ง ออนไลน์ แล้ว โลว์ส ยังต้องแข่งขันกับ Home Depot ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างคู่แข่ง ซึ่งมีผลประกอบการดีกว่า โดยยอดขายของโฮม ดีโพ เมื่อปีที่ผ่านมาสูงกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่โลว์ส มีรายได้ในช่วงเดียวกันเพียงไม่ถึง 70 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของโลว์ส ต่ำกว่าโฮม ดีโพ ไปด้วย

ทั้งนี้ โลว์ส จะปิดสาขาในประเทศอเมริกา 20 แห่ง และในแคนาดาอีก 27 แห่ง ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ศกหน้า โดยสาขาที่ถูกปิดส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะ 10 ไมล์ของอีกสาขา ทั้งนี้โลว์ส บอกว่าพนักงานส่วนใหญ่จะไม่ตกงาน เพราะสามารถทำงานกับสาขาที่อยู่ใกล้เคียงได้

ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีโลว์ส ถูกปิดสี่สาขา คือ 26501 Aliso Creek Rd, Aliso Viejo, 13300 Jamboree Rd, Irvine, 720 Dubuque Ave, South San Francisco และ 750 Newhall Dr, San Jose.




ไมเคิล ดักลาส (เพิ่ง) ได้รับการประดับดาว!

ไมเคิล ดักลาส ดาราและโปรดิวเซอร์ชื่อก้องโลก ได้รับการประดับดาวบน ฮอลลีวูด วอล์ค ออฟ เฟม เมื่อวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน ถือเป็นดาวดวงที่ 2,648 อยู่บริเวณมุมถนนฮอลลีวูดและไวน์

ไมเคิล ดักลาส วัย 74 ปี เดินทางมาร่วมในพิธีประดับดาวดังกล่าวพร้อมกับพ่อ เคิร์ค ดักลาส นักแสดงระดับตำนานของฮอลลีวูด ซึ่งปัจจุบันอายุ 101 ปี โดยดวงดาวของไมเคิล ดักลาส อยู่ห่างจากดาวของพ่อเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น นอกจากนั้นยังมี เจน ฟอนด้า “นางเอก” ของเขาจาก China Syndrome และภริยา แคทเทอรีน ซีต้า-โจนส์ มาร่วมแสดงความยินดีกับเกียรติประวัติครั้งนี้ด้วย

ไมเคิล ดักลาส มีผลงานเป็นที่รู้จักของแฟนภาพยนตร์ทั่วโลกมากมาย เช่น Fatal Attraction, Basic Instinct, Romancing the Stone, The Jewel of the Nile, The American President ฯลฯ โดยผลงานสร้างชื่อเรื่องล่าสุดคือ Ant-Man และ Ant-Man and  the Wasp ที่เขารับบทเป็น ดร.แฮงค์ พิม

โดยวันที่เขาได้รับการประดับดาวบนฮอลลีวูด วอล์ค ออฟ เฟม นี้ ถือเป็นวันที่เขาทำงานในวงการบันเทิงมาครบ 50 ปีพอดี

ไมเคิล ดักลาส ได้รับรางวัลออสก้าร์ดารานำชายเมื่อปี 1988 จากบทนักค้าหุ้นเลือดเย็น กอร์ดอน เก็กโก้ ในเรื่อง Wall Street ถือเป็นออสก้าร์ตัวที่สอง หลังจากที่เคยได้รับในฐานะโปรดิวเซอร์ของ One Flew Over the Cuckoo’s Nest ซึ่งได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของปี 1976.





 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข