“เวเนซูเอล่า หรือแคลิฟฯ ดรีม” จอห์น ค็อก ถาม

หลังจากทราบว่าตนเองได้รับคะแนนเสียงจากชาวแคลิฟอร์เนียมากเป็นอันดับสองในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน และผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน ร่วมกับ เกวิน นิวซัม ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ที่ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง จอห์น ค็อค ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ก็ได้กล่าวโจมตี เกวิน นิวซัม ทันทีว่าเป็นนักการเมือง “ซ้ายจัด” ที่จะทำให้ระบบการปกครองของรัฐแคลิฟอร์เนียล้มเหลว

“การดีเบทที่จะเกิดขึ้นต่อไป จะทำให้เห็นตัวเลือกที่ชัดเจน ระหว่าง เวเนซูเอล่า ซึ่ง เกวิน นิวซัม ต้องการให้แคลิฟอร์เนีย เป็น กับแคลิฟอร์เนีย ดรีม ที่ผมพยายามสร้างขึ้นมาใหม่” จอห์น ค็อค กล่าวกับ ฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อเช้าวันพุธที่ 6 มิถุนายน

จอห์น ค็อก วิจารณ์ เกวิน นิวซัม ที่สนับสนุนสิทธิของผู้อพยพและนโยบายภาษี ที่เขาเห็นว่าจะเปลี่ยนแคลิฟอร์เนียให้กลายเป็นเวเนซูเอล่า ประเทศในอเมริกาใต้ที่เศรษฐกิจพังทลาย ประชาชนขาดแคลนทั้งอาหารและพลังงาน เพราะการบริหารประเทศแบบเผด็จการ

นอกจากนี้ จอห์น ค็อค ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ช่วยเหลือเขาโดยการประกาศสนับสนุนผ่านทวิตเตอร์ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง และว่าการเลือกตั้งใหญ่ปลายปี เขาจะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ด้วยการเอาชนะการเลือกตั้งในรัฐของพรรคเดโมแครต เป็นชัยชนะแบบไม่มีใครคิดเหมือนเช่นที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เคยทำเอาไว้เมื่อสองปีที่แล้ว

แอลเอ งง ชื่อผู้เลือกตั้งหายกว่าแสนชื่อ

แอลเอไทมส์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนว่า คณะผู้บริหาร (Board of Supervisors) ของ ลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ กำลัง “สอบสวน” ถึงสาเหตุที่ทำให้รายชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากกว่า 118,000 รายชื่อหายไปจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ในวันเลือกตั้ง 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ดีน ซี โลแกน หัวหน้าฝ่ายทะเบียนของแอลเอ เคาน์ตี้ (County Clerk) เข้าให้การด้วย

ข่าวบอกว่า ดีน ซี โลแกน ให้การว่า ปัญหาเกิดจากกำลังคนไม่เพียงพอ และเครื่องปรินซเตอร์ ขัดข้อง ทำให้รายชื่อในบัญชีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 2.3 เปอร์เซ็นต์ และสถานที่เลือกตั้งประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ หายไป แต่ยืนยันว่าความผิดพลาดเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว ไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม้จะไม่พบชื่อของตัวเอง แต่ผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์แล้วก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งได้เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์ไวเซอร์ เจนีซ ฮาห์น แสดงความไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าเป็นเรื่องที่ “ยอมรับไม่ได้” และว่าตนจะไม่ยินยอมให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้อีกเป็นอันขาด.

ดีไซเนอร์ดัง ฆ่าตัวตายที่นิวยอร์ค

เคท สเปด ดีไซเนอร์วัย 55 ปี ผู้ออกแบบกระเป๋าถือสตรีแบรนด์ “เคท สเปด นิวยอร์ค” ฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอตนเองเมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายน ที่อพาร์ทเมนท์ของเธอในย่านแมนฮันตัน กลายเป็นข่าวใหญ่ที่บรรดาผู้นำนิยมแฟชั่นกระเป๋าถือตกตะลึงไปทั่วประเทศ

ข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุและไปถึงที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 10.10 น. และว่ามีการตรวจพบจดหมายลาตาย ที่ดีไซเนอร์ดังเขียนถึงลูกสาววัย 13 ปี ทิ้งเอาไว้ในที่เกิดเหตุด้วย

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับดีไซเนอร์ดัง บอกว่า เคท สเปด มีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต มีอาการเครียดมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่กล้ารับการรักษา เพราะเกรงวาจะมีผลกระทบกับภาพพจน์ของสินค้า อีกทั้งมีปัญหาถึงขั้นแยกทางกับสามี แอนดี้ สเปด ด้วย

เคท สเปด เริ่มก่อตั้งอาณาจักร “เคท สเปด นิวยอร์ค” ในปี 1993 และเปิดร้านแรกในแมนฮัทตันหลังจากนั้นสามปี ก่อนจะเพิ่มเป็น 175 สาขาทั่วโลก เฉพาะในแคลิฟอร์เนีย มี “เคท สเปด นิวยอร์ค” ถึงเก้าสาขา

ในปี 1999 เธอและสามี ขายหุ้น 56 เปอร์เซ็นต์ ของ “เคท สเปด นิวยอร์ค” มูลค่า 33.6 ล้านดอลลาร์ให้กับ นีแมน มาร์กัส ก่อนที่ ลิซ แคลร์บอร์น จะเทคโอเวอร์แบรนด์นี้ทั้งหมดในปี 2007 และเมื่อปี 2017 บริษัทโคช (Coach) แบรนด์กระเป๋าระดับไฮเอ็นท์ แถลงว่าจะซื้อแบรนด์ เคท สเปด ด้วยมูลค่าสูงถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์.

“มันช์กิ้น” คนสุดท้ายเสียชีวิตแล้ว

โรงภาพยนตร์ ทีแอลซี ไชนีส เธียร์เตอร์ ซึ่งเป็น “แลนด์มาร์ค” สำคัญของลอส แอนเจลิส จะทำการหรี่ไฟที่ลานหน้าโรงภาพยนตร์ ในค่ำวันที่ 6 มิถุนายน เพื่อแสดงความอาลัยกับการจากไปของ เจอร์รี่ มาเรน ผู้รับบทเป็น มันช์กิ้น ในภาพยนตร์ปี 1939 เรื่อง The Wizard of Oz

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวัย 98 ปี เจอร์รี่ มาเรน ได้ชื่อว่าเป็น “มันช์กิ้น” คนสุดท้าย โดยหลานชายของเขายืนยันข่าวนี้กับเว็บไซต์ ทีเอ็มซี ว่า เจอร์รี่ มาเรน เสียชีวิตที่บ้านพักคนชราในซานดิเอโก้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม และสั่งเสียให้ฝังร่างของเขาในฮอลลีวูด

แม้ว่าจะมีคนแคระร่วมแสดงในภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง The Wizard of Oz เป็นจำนวนมาก แต่ เจอร์รี่ มาเรน ถือว่าได้บทเด่นที่สุด เพราะเป็นหนึ่งในสามของมันช์กิ้น ในนามของสมาคมอมยิ้ม (Lollipop Guild) ออกมาร้องเพลงต้อนรับ โดโรธี (จูดี้ การ์แลนด์) ในวันแรกที่เดินทางไปถึงดินแดนแห่งอ๊อซ

ในปี 2013 ขณะอายุ 93 ปี เขาได้รับเกียรติ ให้ประทับรอยมือและเท้าบนซีเมนต์เปียกหน้า ทีแอลซี ไชนีส เธียร์เตอร์ ในโอกาสครบรอบ 75 ปีของภาพยนตร์เรื่อง The Wizard of Oz และก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2007 เขาและเพื่อน มันช์กิ้น ที่ยังมีชีวิตในขณะนั้นรวม 7 คน ได้ร่วมในพิธีประดับดาวของกลุ่ม บนฮอลลีวูด วอล์ค ออฟ เฟม ด้วย

นอกจาก he Wizard of Oz แล้ว เจอร์รี่ มาเรน มีผลงานภาพยนตร์และซีรีย์มากมาย เช่น At the Circus (1939) ,Planet of the Apes 1968 และซิดคอม Seinfeld เมื่อปี 1997 ที่เขาได้พูดวลีดัง “Yada, yada, yada รวมถึงเป็นผู้อยู่ในชุด “เมเยอร์ แม็กชีส” ในโฆษณาของ แม็กโดนัลด์ หลายชิ้นในยุค 70s ด้วย.