เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 ระหว่างการแถลงข่าวเรื่องแผนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่าเขาจะผลักดันมาตรการจัดเก็บภาษีตอบโต้ (reciprocal tax) กับประเทศคู่ค้าที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากสหรัฐฯ แบบไม่เป็นธรรม

"เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้คนจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศของเรา และปล้นเรา และคิดภาษีจากเราจำนวนมาก ขณะที่เราไม่ได้เรียกเก็บภาษีจากพวกเขา" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว และว่า "ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมากต่อจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และกับอีกหลายๆประเทศ แต่เราจะเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยจะมีการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ประเทศอื่นๆ ซึ่งบางประเทศเรียกว่าเป็นพันธมิตรของเรา แต่พวกเขากลับไม่ได้เป็นพันธมิตรทางการค้า" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตอบโต้ดังกล่าว

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้กล่าวถึงกรณีบริษัทฮาร์เลย์-เดวิดสัน อิงค์ ประกาศสร้างโรงงานในประเทศไทย ว่าเป็นตัวอย่างของการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมของไทย โดยฮาร์เลย์-เดวิดสัน ตัดสินใจตั้งโรงงานในประเทศไทย เนื่องจากมองว่ามีความคุ้มค่ากว่า เมื่อเทียบกับการนำเข้าบิ๊กไบค์จากสหรัฐ เนื่องจากไทยมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าบิ๊กไบค์จากสหรัฐสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์

ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศยกย่องบริษัท ฮาร์เลย์ฯ ว่าเป็น “ตัวอย่างอันยอดเยี่ยม” ของบริษัทที่สร้างงานเพื่อชาวอเมริกัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ฮาร์เลย์ฯ ก็เริ่มเลย์อ๊อฟคนงานเป็นระลอก เช่น 118 คนในเดือนเมษายน 2017 และอีก 180 คนในเดือนมิถุนายน อันเป็นช่วงเดียวกับการก่อสร้างโรงงานผลิตบิ๊กไบค์ในประเทศไทย


ข่าวบอกว่ายอดขายบิ๊กไบค์ของฮาร์เลย์-เดวิดสัน ในปี 2017 อยู่ที่ 241,000 คัน ถือว่าลดลงจากปี 2016 ประมาณ 5,000 คัน และปีนี้ คาดว่ายอดขายจะลดลงเหลือ 231,000 -236,000 คันเท่านั้น โดยวิเคราะห์กันว่าเป็นเพราะลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย คือคนหนุ่มสาว ในตลาดอเมริกา ที่ให้ความสนใจกับบิ๊กไบค์นั้น มีจำนวนลดลง

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่มีแผนการอย่างเป็นทางการที่จะดำเนินการจัดเก็บภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าที่ไม่เป็นธรรม ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เอาไว้แต่อย่างใด

"ยังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นทางการในขณะนี้เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีดังกล่าว" เจ้าหน้าที่กล่าว และว่าท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ ดังกล่าว คือการย้ำถึงจุดยืนของเขาในการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเท่านั้น.

โดยบริษัท ฮาร์เลย์-เดวิดสัน แถลงในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วว่า บริษัทจะสร้างโรงงานผลิตบิ๊กไบค์ในประเทศไทยเพื่อรองรับความต้องการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีน ซึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของฮาร์เลย์-เดวิดสัน ระบุว่า โรงงานดังกล่าว ซึ่งจะเปิดในปลายปี 2018 จะช่วยให้บริษัทไม่ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า 60 เปอร์เซ็นต์ ของไทย และบริษัทยังได้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางด้านภาษี เมื่อมีการส่งออกบิ๊กไบค์ ไปยังประเทศในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ตามข้อตกลงอาเซียนด้วย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของฮาร์เลย์ฯ ยังระบุด้วยว่า บิ๊กไบค์ที่มีการผลิตในไทยจะมีความเป็นของแท้ และให้ความรู้สึกเหมือนกับที่ผลิตในสหรัฐ และการขยายการผลิตบิ๊กไบค์ในไทย จะไม่ส่งผลให้มีการปรับลดการผลิตในสหรัฐแต่อย่างใด

และเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 บริษัทฮาร์เลย์ฯ ได้ประกาศว่าจะทำการปิดโรงงานผลิตบิ๊กไบค์ ในแคนซัส ซิตี้ ในปี 2019 เพราะความต้องการสินค้าในอเมริกาลดลง โดยจะไปขยายกำลังการผลิตที่โรงงานในเมืองยอร์ค รัฐเพ็นซิลเวเนีย แทน ซึ่งการปิดโรงงานครั้งนี้จะทำให้มีคนตกงานประมาณ 800 ตำแหน่ง แต่จะมีการเพิ่มตำแหน่งงานที่โรงงานเมืองยอร์คประมาณ 450 ตำแหน่ง

โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของฮาร์เลย์ฯ ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะทำให้ฮาร์เลย์ฯ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 65-75 ล้านดอลลาร์ต่อปี นับจากปี 2020 เป็นต้นไป.