เตือนเที่ยวแคนคูน เม็กซิโก อันตราย

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนประชาชนเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2017 ถึงอันตรายที่อาจจะได้รับหากเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่แคนคูน และลอส คาโบส เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเม็กซิโก เพราะอยู่ในสองรัฐ คือ Quintana Roo และ Baja California Sur ที่คดีอาชญากรรมกำลังพุ่งสูงอย่างน่ากลัว

ประกาศเตือนฉบับนี้ บอกด้วยว่าคดีอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกตุ เป็นผลมาจากสงครามของกลุ่มอาชญากรที่กำลังทำสงครามแย่งพื้นที่ ที่ทวีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา เป็นผลให้มีประชาชนเสียชีวิตเพราะ “ลูกหลง” จากความขัดแย้งดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ข่าวบอกว่าประกาศเตือนนักท่องเที่ยวของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเม็กซิโก ที่รายได้จากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากเพื่อนบ้านอย่างอเมริกา ถือเป็นรายได้หลัก คือประมาณ 20 พันล้านดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)


จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ต้องจ่ายชดเชย 417 ล้าน

คณะลูกขุนของศาลซูพีเรีย ในลอส แอนเจลิส  มีคำสั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จ่ายค่าเสียหายจำนวน 417 ล้านดอลลาร์ แก่ นางอีวา เอเชเวอร์เรีย วัย 63 ปี ที่ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ เพราะใช้แป้งเด็กจอห์นสัน ทาที่บริเวณอวัยวะเพศต่อเนื่องกันหลายสิบปี

คำฟ้องของนางอีว่า เอเชเวอร์เรี่ย ที่กล่าวหาบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หรือเจแอนด์เจ ว่าไม่มีการเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองดังกล่าวนี้ ข่าวบอกว่าถือเป็นคดีฟ้องร้องที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาคดีฟ้องร้องในลักษณะเดียวกัน ที่มีมากกว่า 4,800 คดีทั่วประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ศาลรัฐมิสซูรีมีคำตัดสินให้เจแอนด์เจ จ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์หลายคน รวมจำนวนเงิน 307 ล้านดอลลาร์ โดยรายที่ได้ค่าเสียหายมากที่สุด คือ 110 ล้านดอลลาร์.

และว่าเงินชดเชยความเสียหาย 417 ล้านดอลลาร์ ที่ศาลสั่งให้ “เจแอนด์เจ” ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ของโลก ถูกแยกเป็นสองก้อน คือ 70 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าชดเชยความเสียหาย (compensatory damages) และอีก 347 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าเสียหายเพื่อเป็นการลงโทษ (punitive damages)
    
นาง อีว่า เอเชเวอร์เรีย กล่าวว่า เธอใช้แป้งเด็กจอห์นสันทุกวัน ในช่วงระหว่างปี 1950 จนถึงปี 2016 อันเป็นปีที่แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคมะเร็งรังไข่ระยะสุดท้าย โดยเธอให้ทนายความเป็นตัวแทนยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายจากผู้ผลิตแป้งเด็กจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว

คดีนี้ทีมทนายความของนางเอเชเวอร์เรีย ให้เหตุผลว่า เจแอนด์เจกระตุ้นให้ผู้หญิงใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท แม้จะรู้ว่าผลการศึกษาบ่งชี้ความเชื่อมโยงระหว่างมะเร็งรังไข่ กับการใช้แป้งฝุ่นบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ขณะที่ทีมทนายความของเจแอนด์เจโต้แย้งว่า ผลการศึกษาหลายชิ้น และหลายหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ ไม่พบว่าผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นทำให้เกิดมะเร็ง
    
อย่างไรก็ตาม โฆษกบริษัท เจแอนด์เจ กล่าวในแถลงการณ์ ว่า บริษัทจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลลอส แอนเจลิส เนื่องจากบริษัทมั่นใจในพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่สนับสนุนความปลอดภัยของแป้งเด็กจอห์นสัน.


คดีลอบยิงด้วย “เพนท์บอลล์” เพิ่มสามเท่า

แอลเอไทมส์ รายงานข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า คดีทำร้ายร่างกายด้วยปืนเพนท์บอลล์ (paintball attack) ในเขตลอส แอนเจลิส เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในย่านเซาท์ แอลเอ ที่นับจนถึงเดือนกรกฎษคม 2017 มีคดีทำร้ายร่างกายด้วยปืนเพนท์บอลล์ถึง 93 คดี หรือมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงสามเท่า (24 คดี) ส่วนตัวเลขคดีที่เกิดขึ้นทั่วเขตเมืองแอลเอ อยู่ที่ 116 คดี

ข่าวบอกว่าการใช้ปืนเพนท์บอลล์ สุ่มยิงเหยื่อของกลุ่มคนร้าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 14-18 ปีนั้น แม้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สามารถทำให้เหยื่อบาดเจ็บ หรือได้รับความเจ็บปวดรุนแรง เพราะปืนเพนท์บอลล์บางรุ่น สามารถยิงกระสุนได้รุนแรงถึง 300 ฟุตต่อวินาที นอกจากนี้ การยิงใส่รถยนต์ที่วิ่งสวนมา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้อีกด้วย

ข่าวอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า กลุ่มวัยรุ่นนิยมการถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ขณะลงมือโจมตีเหยื่อที่เดินอยู่ริมถนน ซึ่งมีทั้งประชาชนทั่วไป และโฮมเลส รวมถึงยิงใส่ผนังตึก แล้วโพสต์บนสื่อโซเชียลมีเดีย มีผลให้เกิดการเอาอย่างกันขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเตือนให้วัยรุ่น รวมถึงผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแลอย่าให้ลูกหลานมีพฤติกรรมดังกล่าว เพราะนอกจากจะต้องข้อหาอาญาฐานทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธแล้ว ปืนเพนท์บอลล์บางรุ่น มีสีดำ หรือคล้ายกับอาวุธปืนจริงๆ อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจผิด และลงเอยด้วยการถูกยิงเสียชีวิตด้วย.


โจรโสโครกโดนจับ เพราะอึไม่กดชักโครก

แอนดรูว์ เดวิด เจนเซ่น ถูกเจ้าหน้าที่เชอรีฟของเวนทูร่า เคาน์ตี จับกุมตัวเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากหลักฐานปรากฎแน่นหนาว่า หนุ่มวัย 42 ปีคนนี้ได้ลอบเข้าไปขโมยของในบ้านหลังหนึ่งในเมืองตาวซั่นด์โอ๊ค เมื่อปี 2016 เพราะ ดีเอ็นเอ ที่เจ้าหน้าที่ได้จาก “อุจจาระ” ในชักโครกที่เขาทำเรี่ยราดเอาไว้ในที่เกิดเหตุ

ข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองตาวซั่นโอ๊ค ได้ส่งตัวอย่างอุจจาระ ที่เชื่อว่าเป็นของผู้ต้องหาไปตรวจหาดีเอ็นเอ ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานคดีอาญา และใช้เวลาปลายเดือนจึงทราบผล อันนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

ขณะนี้ แอนดรูว์ เดวิด เจนเซ่น อยู่ระหว่างควบคุมตัวรอพิจารณาคดี โดยศาลตั้งเงินประกันเอาไว้ที่ 70,000 ดอลลาร์.