สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับอันตรายของโรคร้าย ที่มียุงเป็นพาหะถึงสองข่าวในแคลิฟอร์เนียใต้ โดยข่าวแรกคือการพบผู้ป่วยด้วยไวรัสเวสท์ ไนล์ ในแอลเอ เคาน์ตี้ รายแรกของปี 2017 เป็นผู้อาศัยอยู่ในย่าน ซานเกเบรียล แวลเล่ย์ โดยข่าวบอกว่าเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาลตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และปัจจุบันได้หายเป็นปกติแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแอลเอ เคาน์ตี้ บอกว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา มีส่วนทำให้ปริมาณยุงเพิ่มมากขึ้นทั่วทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ไวรัสเวสท์ไนล์ สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนโดยมียุงเป็นพาหะ สามารถทำให้ผู้ติดเชื้อมีอันตตรายถึงชีวิตได้ โดยปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตในแอลเอ เคาน์ตี้ เพราะไวรัสอันตรายชนิดนี้ถึงห้าคน จากผู้ป่วยทั้งหมด 148 คน แต่ส่วนใหญ่อาการของผู้ป่วยจะไม่รุนแรงนัก โดยข่าวบอกว่าขณะนี้ยังไม่มีวัคซีน ที่สามารถป้องกันไวรัสเวสท์ไนล์ นี้
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขของแอลเอ เคาน์ตี บอกว่าในระยะนี้ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองถูกแมลงกัด และตรวจเช็คมุ้งลวดหน้าต่างประเทศว่ามีร่องรอยการฉีกขาดหรือไม่ หากต้องออกไปทำงานนอกบ้าน เช่นรดน้ำต้นไม้ ให้ติดเครื่องป้องกันยุง หรือแต่งกายมิดชิด รวมถึงรักษาบริเวณรอบบ้านให้สะอาด อย่าให้มีบริเวณน้ำขัง ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้
นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขของแอลเอ เคาน์ตี้ ยังเตือนประชาชนให้ระวังตัวจากไวรัสซิก้า ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้จากยุงเช่นกัน โดยบอกว่ามีการตรวจพบยุงลาย ที่เป็นพานะของไวรัสซิก้าเป็นครั้งแรกในเมืองลองบีช ทำให้ขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขของเมืองลองบีช อยู่ระหว่างการเร่งทำลายยุงต่างถิ่นชนิดนี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ยุงลายแพร่พันธ์ุได้ในชุมชนแห่งนี้ โดยแจ้งให้ประชาชนทราบด้วยว่าหากพบเห็นยุงลาย ซึ่งลำตัวมีลายสีขาวดำเหมือนเสือ และออกหากินในเวลากลางวัน ให้แจ้งเจ้าหน้าสาธารณสุขของเทศบาลด่วนที่หมายเลขฮอทไลน์ 562-570-7907
ทั้งนี้ นับจากปี 2011 เป็นต้นมา มีการตรวจพบยุงลายในหลายรัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนีย ทำให้เจ้าหนร้าที่ระดับกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในกำจัดยุงลาย ซึ่งเป็นพานหะของโรคร้ายหลายอย่าง เช่นไข้เหลือง และไวรัสซิก้า
โดยไวรัสชนิดนี้ ติดต่อกันได้ทั้งการถูกยุงที่มีเชื้อกัด และติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากได้รับเชื้อขณะตั้งครรภ์ เชื้อร้ายก็จะถูกถ่ายทอดไปยังเด็กในห้องให้คลอดมาในสภาพพิกลพิกาลด้วย
ข่าวบอกว่ายังไม่มีชาวแคลิฟอร์เนียรายได้ล้มป้วยจากไวรัสซิก้าเพราะถูกยุงกัด แต่ในรัฐนี้มีผู้ติดไวรัสร้ายระหว่างเดินทางไปยังประเทศต่างๆ มากถึง 561 คน และว่าในปี 2017 นับถึงวันที่ 16 มิถุนายน คงเหลือผู้ติดเชื้อดังกล่าวเพียง 57 คนเท่านั้น.