นักกีฬาระดับ “ตำนาน” ร่วมโปร “แอลเอ 2024”

คาร์ล ลูอิส นักกรีฑาระดับตำนานของอเมริกา เป็นนักกีฬาคนแรกในวิดีโอซีรีย์ “ตำนานของแอลเอ” หรือ Legends of LA ที่คณะทำงานผลักดันให้ลอส แอนเจลิส เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2024 หรือ The committee leading Los Angeles’ bid for the 2024 Summer Olympics จัดทำขึ้น

ในวิดีโอที่เริ่มแพร่ภาพตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2016 เป็นภาพของ คาล์ล ลูอิส นักกรีฑาเก้าเหรียญทองโอลิมปิก เดินอยู่ในสนามกีฬา แอลเอ แมมโมเรียล โคลิเซี่ยม และพูดถึงความทรงจำเมื่อเขาร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรก ในปี 1984 ที่สนามแห่งนี้ รวมถึงแสดงความปรารถนาว่าอยากจะเห็นสถานที่แห่งนี้ เป็นสนามแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอีกครั้งในปี 2024 ด้วย

ซีรีย์ “Legends of LA” ดังกล่าวนี้ข่าวบอกว่าจะใช้นักกีฬาระดับตำนานของเมืองลอส แอนเจลิส หลายคน นอกจาก คาล์ล ลูอิส แล้ว ยังมี โคบี้ ไบรอัน (บาสเก็ตบอล), เวน เกรทซกี้ (ฮ็อคกี้น้ำแข็ง), เออร์วิน “เมจิก” จอห์นสัน (บาสเก็ตบอล) และโคบี้ โจนส์ (ฟุตบอล) ด้วย

ข่าวบอกว่า วิดีโอซีรีย์ชุด Legends of LA ดังกล่าวนี้ มีวัตถุประสงค์หลักในการชี้ให้เห็นถึงความพร้อมในทุกด้านของเมืองแอลเอ โดยเฉพาะสนามกีฬาระดับมาตรฐานโลก ทำให้เมืองแอลเอ สามารถลงทุนจัดการแข่งขันโอลิมปิกได้โดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุด

ขณะนี้ คู่แข่งสำคัญของลอส แอนเจลิส ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิก 2024 คือปารีส ของฝรั่งเศส โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล จะประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกเมืองเจ้าภาพโอลิมปิก 2024 ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้.

ยกเลิก “จอดรถฟรี” ที่สถานีนอร์ธ ฮอลลีวูด/ยูนิเวอร์แซล

นับจากวันที่ 24 เมษายน ที่จะถึงนี้ ขนส่งมวลชนเมโทร (MTA) จะไม่ให้ผู้โดยสารจอดรถฟรีที่สถานีรถไฟเมโทรสองแห่งในซานเฟอร์นานโด้ แวลเลย์ คือสถานีนอร์ธ ฮอลลีวูด และ สถานียูนิเวอร์แซล ซิตี้ อีกต่อไป แต่จะคิดค่าจอดรถวันละ 3 ดอลลาร์ ไม่เว้นเวลากลางคืนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ หากไม่จ่ายค่าจอด จะถูกปรับสูงถึง 53 ดอลลาร์

นับจากเปิดให้บริการเมื่อปี 2000 เป็นต้นมา สถานีรถไฟของเมโทรทั้งสองแห่ง ให้บริการที่จอดรถฟรี เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนที่อยู่ในย่านซานเฟอร์นานโด้ แวลเล่ย์ ใช้บริการขนส่งมวลชน (เรดไลน์) เข้ามาทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ในเมือง โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ เอ็มทีเอ ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะมีประชาชนจำนวนมาก เข้ามาใช้ที่จอดรถทั้งที่ไม่ใช้ผู้โดยสาร เป็นเหตุให้ลานจอดรถขนาด 619 คันของสถานีนอร์ธ ฮอลลีวูด และ 660 คันของสถานียูเวอร์แซล มีรถจอดเต็มตั้งแต่เช้า ทำให้เมโทรต้องสูญเสียผู้โดยสาร เป็นจำนวนมาก

เมโทรแถลงว่า ในช่วงแรกนี้ ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าจอดที่ตู้จ่ายเงิน (kiosks) โดยต้องกดหมายเลขทะเบียนรถ และเลขบัตรโดยสารของเมโทร ที่เรียกว่า TAP card ด้วย แต่เร็วๆ นี้ เมโทรจะมีแอพลิเคชั่นออกมา เพื่อให้ผู้โดยสารจ่ายค่าจอดรถผ่านโทรศัพท์มือตัวของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ส่วนผู้โดยสารที่เช่าที่จอดรถรายเดือน (reserved space) ที่ลานจอดรถทั้งสองแห่งอยู่แล้ว จะมีการปรับเปลี่ยนอัตราค่าจอดในอัตราใหม่โดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารของเมโทร ที่ไม่ต้องการจ่ายค่าจอดรถ สามารถจอดรถได้ฟรีที่สถานีต่างๆ ของเส้นทาง ออเรนจ์ ไลน์ (ซึ่งเชื่อมกับเรดไลน์ ที่สถานีนอร์ธฮอลลีวูด) เช่นสถานีแวนนายส์ (776 คัน), เซบพูลเวด้า (1,205 คัน) ฯลฯ เพราะลานจอดรถของสถานีเหล่านั้น มีรถจอดเฉลี่ยวันละ 27 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น.

ฉลามขาวสิบฟุตเกยตื้นที่ซานตาครูซ

เกิดเหตุการณ์ “ฉลามขาว” ขนาดยาวสิบฟุต เกยตื้นที่ชายหาดซานตาครูซ เมื่อบ่ายวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก โดยบางส่วนเข้าไปถ่ายรูปกับฉลามขาวที่ดิ้นรนอยู่บนชายหาดแบบใกล้ชิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะลากปลาฉลามขาวออกสู่ทะเลได้

อย่างไรก็ตาม ข่าวบอกว่าฉลามขาวเคราะห์ร้ายตัวนี้ เสียชีวิตหลังจากนั้นอีกไม่นาน และซากของมันถูกเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานประมงและสัตว์ป่าของรับแคลิฟอร์เนีย นำตัวไปตรวจสอบถึงสาเหตุของพฤติกรรมประหลาดดังกล่าวอยู่

ฌอน แวน ซัมเมอรัน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปลาฉลามแห่งสถาบัน the Pelagic Research Shark Foundation ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของซานตาครูซ ว่าการว่ายขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาด เป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมาก

“ยังบอกไม่ได้จนกว่าผลการตรวจอย่างละเอียดจะปรากฎออกมา แต่การหงายท้อง หรือดิ้นรนขึ้นมาบนชายหาดไม่ใช่พฤตกรรมปกติของปลาฉลาม” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว และว่าเป็นไปได้ว่าปลาฉลามตัวนี้อาจได้รับบาดเจ็บเพราะเบ็ดตกปลา หรือติดเชื้อที่ระบบประสาท

ฌอน แวน ซัมเมอร์รัน บอกด้วยว่าในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2017 มีปลาฉลามเสียชีวิตแล้วกว่าร้อยตัวในน่านน้ำของแคลิฟอร์เนีย และว่าฉลามขาวถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของกองทุนคุ้มครองสัตว์ป่า เพราะมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการถูกล่าเพื่อเอาครีบมาทำหูฉลาม และติดอวนลากของเรือประมง.

“ยุงยักษ์” บุกแคลิฟอร์เนียใต้

ประชาชนในย่านแอนติโลป แวลเล่ย์ และอีกหลายพื้นที่ต้องตื่นตระหนกกับฝูงยุงยักษ์ ที่บุกรุกเข้ามาให้เห็นในบริเวณรอบๆ บ้านตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องออกโรงมาควบคุมสถานการณ์ว่า ยุงยักษ์ดังกล่าวนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่ยุง แต่เป็นแมลงที่เรียกว่า เครนฟลาย (crane flies)

เครนฟลาย หรือบางคนเรียกว่า “คุณพ่อขายาว” Zdaddy long legs ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นยุงขนาดใหญ่เพราะมีลักษณะเหมือนยุง แต่ขายาวและตัวใหญ่กว่ายุงหลายเท่า โดยปกติจะพบเห็นได้น้อย ยกเว้นปีที่มีสภาพดินฟ้าอากาศที่เป็นใจ เป็นแมลงที่ค่อนข้างซุ่มซ่าม มักบินชนหน้าต่าง ประตู ผนังบ้าน รวมถึงตัวคน แต่ไม่กัด รวมถึงไม่เป็นพาหะของเชื้อโรคใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งมีอายุสั้นเพียงประมาณสองสัปดาห์เท่านั้น

ข่าวบอกว่ากระแสตื่น “ยุงยักษ์” ในแคลิฟอร์เนียที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิก้า และไวรัส เวสท์ไนล์ ที่มียุงเป็นพาหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากมีข่าวเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า มีทารกรายแรกของซานดิเอโก้ เคาน์ตี (รายที่ห้าของแคลิฟอร์เนีย) ที่เกิดมาในลักษณะศีรษะพิการเพราะมารดาติดเชื้อไวรัสซิก้า และจากคำเตือนของหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ว่ามีการตรวจพบยุงสองชนิด ที่ไม่ใช่พันธุ์พื้นเมืองของแคลิฟอร์เนีย คือ Aedes aegypti (the yellow fever mosquito) และ Aedes albopictus (the Asian tiger mosquito) ซึ่งเป็นพาหะของเชื้อซิก้า, ไข้ชิคุนกุนยา (chikungunya) และไข้เหลือง ในพื้นที่สิบเคาน์ตีของแคลิฟอร์เนีย คือเฟรสโน่, เคิร์น, อิมพีเรียล, ลอส แอนเจลิส, มาเดร่า, ออเรนจ์, ริเวอร์ไซด์, ซานเบิร์นนาดิโน่, ซานมาเทโอ และทูแลร์ (Tular) ด้วย.