คุณแม่สุชาดา ปทะวานิช เป็นผู้ที่ใฝ่ในบุญกุศล ตั้งแต่วัยสาว สมัยที่ท่านยังเป็นพยาบาลอยู่ในประเทศไทย คุณแม่สุชาดา เล่าว่า เคยมีคุณหมอ มาชอบพอท่านถึง 6 คน รวมทั้งนายทหารอีก 1 คน ที่มาชอบพอคุณแม่สุชาดา เช่นกัน
แต่เหตุผล ที่คุณแม่สุชาดา ตัดสินใจแต่งงานกับ คุณพ่อ นายแพทย์สรรเสริญ ปทะวานิช ก็เพราะท่านใช้หลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนามาประกอบการตัดสินใจในการเลือกคู่ครองเรือน
ท่านเล่าว่า ... วันหนึ่งท่านจะต้องไปเวียนเทียนเนื่องในวันพระใหญ่ แล้วคุณพ่อ นายแพทย์สรรเสริญ ก็อาสาที่จะขอติดตามไปเวียนเทียนด้วย โดยให้เหตุผลว่าเพื่อที่จะได้เป็นการสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันเอาไว้
นั่นคือเหตุผลสำคัญที่คุณแม่สุชาดาตัดสินใจ
ตามที่กล่าวมาแล้วว่า คุณแม่สุชาดา ปทะวานิช เป็นผู้ใฝ่ธรรมตั้งแต่วัยสาว ครั้นเมื่อท่านเดินทางมาใช้ชีวิต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประสบความสำเร็จจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งทำให้คุณแม่สุชาดา บังเกิดความมุ่งมั่น ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น
คนไทยในอเมริกามักได้ยินข่าวการกุศล ที่คุณแม่สุชาดา ปทะวานิช ให้การทำนุบำรุงวัดวาอารามต่างๆ อยู่เนืองๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ประเทศไทย สิงคโปร์ รัสเซีย
ทั้งสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ หอระฆัง เมรุเผาศพ ระเบียงธรรม มุขศาลา กุฏิวิหาร ซุ้มประตู หน้าต่าง หอฉัน เป็นเจ้าภาพในพิธีพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ตลอดทั้งเป็นเจ้าภาพในการอุปสมบทกุลบุตรผู้ขาดแคลนอยู่เสมอ
เหตุผลประการหนึ่ง ที่คุณแม่สุชาดาทุ่มเทชีวิตจิตใจ ในการสร้างบุญใหญ่อย่างสม่ำเสมอ ก็เพราะคุณแม่สุชาดามีหลักคิดที่ว่า บัดนี้ คุณพ่อ นายแพทย์ สรรเสริญ ปทะวานิช ผู้เป็นสามี ได้จากโลกนี้ไปแล้ว
ทั้งสองท่านมีบุตรสาวสืบสายโลหิตอยู่เพียงคนเดียว และ เป็นแพทย์หญิง ซึ่งสมรสกับนายแพทย์ชาวอเมริกัน โดยทั้งคู่ไม่มีบุตร ธิดา ด้วยกัน
ฐานะด้านการงาน การเงิน ของบุตรสาว และ บุตรเขย มั่นคงเป็นปึกแผ่นอยู่แล้ว จึงสนับสนุนให้คุณแม่สุชาดามีโอกาสทำบุญ ได้ตามความปรารถนา ตามกำลังทรัพย์ที่คุณแม่แสวงหามาได้โดยสุจริตและพากเพียร
ในแต่ละปีจึงมีวัดวาอารามต่างๆ ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากคุณแม่สุชาดาเพื่อสร้างถาวรวัตถุ ตามหลักการการบริจาคทรัพย์ของคุณแม่สุชาดา ปทะวานิช ที่ว่าเงินที่บริจาคเหล่านั้น จะต้องบันดาลให้เกิดถาวรวัตถุที่ปรากฏเห็นได้อย่างชัดเจน
เฉกเช่นเดียวกับ คหบดี หรือ คหปตานี ผู้ใจบุญเมื่อครั้งพุทธกาลที่นิยม สร้างวัดวาอาราม เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา จนศาสนาของเราดำรงอยู่ได้มาถึงปัจจุบัน แม้กาลเวลาจะพ้นผ่านมานานกว่าสองพันห้าร้อยปีแล้วก็ตาม
ในปี พ.ศ. 2565 คุณแม่สุชาดา ปทะวานิช ปวารณาตน เป็นประธานทอดกฐินทั้งหมดถึง 5 วัดด้วยกัน ได้แก่ วัดบ้านป่านาบุญ เมืองไวท์วอเตอร์ แคลิฟอร์เนีย โดยพระชลินทร์ ธมฺมวฑฺฒโน เจ้าอาวาส
วัดพระธาตุพนมอเมริกา เมืองยัคคา แวลเลย์ แคลิฟอร์เนีย โดย พระมหาเลอเดช วรวํโส เปรียญธรรม 9 ประโยค เจ้าอาวาส วัดป่าพุทธญาณ เมืองชูการ์แลนด์ เท็กซัส โดย พระเดชพระคุณ หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระอมรโสภณ เจ้าอาวาส
วัดพระธาตุดอยเล็ง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ วัดสวยบนดอยสูง โดย พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระเมธีวชิรธรรม หรือ พระอาจารย์ดอกเตอร์บุญชิต อติธัมโม เจ้าอาวาส และ วัดมัชฌิมาวาส ต.หนองแวง อ. สมเด็จ จ. กาฬสินธุ์ โดย ท่านพระครูปริยัตยาภรณ์ หรือ พระครูธีรวัฒน์ ธีรวณฺโณ เจ้าอาวาส
ในแต่ละปี คุณแม่สุชาดา ปทะวานิช สละทรัพย์ที่แสวงหามาได้ตลอดทั้งชีวิต เพื่อเกื้อกูลพระพุทธศาสนา ปีละหลายล้านบาท ด้วยความปลื้มปีติ และ อิ่มเอมในผลแห่งบุญญาภินิหารที่ปรากฏ
สุโขปุญฺญสฺส อุจฺจโย
การสั่งสมบุญ ย่อมนำความผาสุกมาให้
พระชลินทร์ ธมฺมวฑฺฒโน
วัดบ้านป่านาบุญ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา