ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2019 ว่าแผนการบุกจับกุมผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายครั้งใหญ่ของ ไอซ์ ในหลายๆ เมืองใหญ่ของอเมริกา ตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดขึ้นตามแผน โดย ไอซ์ แถลงว่าจนถึงขณะนี้มีการจับกุมผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายเพียง 35 คนเท่านั้น โดยกว่าครึ่งของผู้ถูกจับกุม คือ 18 คน เป็นสมาชิกของครอบครัวผู้ที่มีหมายจับ

แอนดรูว์ อัลเบนซ์ รักษาการผู้อำนวยการของไอซ์ ยืนยันข้อมูลดังกล่าว แต่ไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นการจับกุมจากที่ไหนบ้าง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ไอซ์ ในพื้นที่

รักษาการ ผ.อ.ของไอซ์ กล่าวด้วยว่า การบุกจับกุมครั้งใหญ่ตามแผนเดิม เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง รวมถึงที่อยู่ของผู้มีหมายจับ เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

อย่างไรก็ดี กระแสความหวาดกลัวในกลุ่มผู้อยู่แบบไม่ถูกต้องยังคงไม่จางหายไป และล่าสุดรัฐบาลกลาง ได้ประกาศใช้นโยบายใหม่ ที่เชื่อว่าจะทำให้สามารถเนรเทศผู้อยู่แบบผิดกฎหมายได้มากขึ้น

โดยกระทรวงโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ ได้ประกาศว่านโยบายใหม่ดังกล่าว จะมีผลในเชิงปฏิบัติตั้งแต่วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม นั่นคือจะทำการเนรเทศแบบเร่งด่วน (expedite deportations) สำหรับบุคคลที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอยู่ในประเทศอเมริกานานกว่าสองปีขึ้น ซึ่งเชื่อว่า นโยบายใหม่ดังกล่าวนี้จะมีผลกับกลุ่มผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายเกือบ 300,000 คน

ข่าวบอกว่า ภายใต้นโยบายใหม่นี้ ผู้ถูกจับกุมโดยไอซ์ จะต้องแสดงหลักฐานว่าอาศัยอยู่ในอเมริกาต่อเนื่องกันสองปี ก่อนที่จะถูกจับกุม มิฉะนั้นจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการเนรเทศแบบเร่งด่วน ที่มีขั้นตอนของกระบวการยุติธรรมน้อยมาก

นโยบายดังกล่าวนี้ ถูกต่อต้านโดยกลุ่มที่เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และสิทธิของผู้อพยพทุกกลุ่ม โดยมีการแสดงเจตจำนงค์ชัดเจนว่าจะยื่นฟ้องศาลให้มีคำสั่งยุตินโยบายเนรเทศแบบเร่งด่วนนี้

“ภายใต้แผนการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายนี้ ผู้อพยพที่อยู่ในประเทศนี้เป็นปีๆ จะถูกเนรเทศโดยมีกระบวนการทางศาล น้อยกว่าคนที่ต้องขึ้นศาลจราจรเสียอีก” หนึ่งในนักเคลื่อนไหวเพื่อผู้อพยพกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของไอซ์ ได้ทำการจับกุมผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากเรียกรถของเป้าหมายให้จอดกลางถนน ย่านเอคโค่ ปาร์ค ของเมืองลอส แอนเจลิส โดยผู้เห็นเหตุการณ์ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ด้วย

อลิเซีย ริเวอร์ร่า คือผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบอกว่าผู้ถูกจับกุมคือเพื่อนบ้านของเธอ มีลูกสองคน ซึ่งอยู่ในรถขณะที่เธอถูกจับกุมด้วย ส่วนสาเหตุที่ใช้โทรศัพท์ถ่าพภาพเหตุการณ์ รวมถึงยืนขวางรถ เอสยูวี สีดำของเจ้าหน้าที่ ด้วยนั้น เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไอซ์ จับกุมเพื่อนบ้านของเธอโดยไม่มีการแสดงหมายจับ ซึ่งภาพจากวิดีโอของเธอ แสดงให้เห็นชัดว่าเธอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่แสดงหมายจับหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการใส่ใจจากเจ้าหน้าที่

“พวกเขาพาเพื่อนบ้านฉันไป โดยทิ้งรถของเธอกับเด็กๆ ไว้กลางถนน เอากุญแจรถไปด้วย” อลิเซีย ริเวอร์ร่า กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ไอซ์ ได้ออกแถลงการเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนกรที่ถูกต้อง และไม่เปิดเผยชื่อของสตรีที่ถูกคุมตัวแต่อย่างใด.
.
.