พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งนครลอส แอนเจลิส หรือ The Museum of Contemporary Art (MOCA Los Angeles) ประกาศเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2019 ว่าจะยกเลิกการเก็บค่าผ่านประตูเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี นับจากปีงบประมาณนี้เป็นต้นไป หลังจากได้รับเงินบริจาคจากประธานกรรมการบริหาร (MOCA board of trustees) คาโรลีน พาวเวอร์ส์ เป็นจำนวนเงินถึง 10 ล้านดอลลาร์
โดย คาโรลีน พาวเวอร์ส เป็นผู้ประกาศข่าวดีนี้ในงานเลี้ยงหาทุน ที่จัดขึ้นเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม ณ MOCA’s Geffen Conemporary ในลิตเติลโตเกียว ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสาขาของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย ที่ได้รับการยอมรับว่ามีผลงานศิลปะของศิลปินอเมริกันและยุโรปมากที่สุดในโลกแห่งนี้ โดยงานเลี้ยงดังกล่าว มีขึ้นในโอกาสที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดดำเนินงานมาครบ 40 ปี และมีแขกรับเชิญประมาณ 700 คน ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในวงการศิลปะ รวมถึงนักร้องและนักแสดง โดยทั้งหมดลุกขึ้นยืนและปรบมือกึกก้อง เมื่อประธานบอร์ดของ MOCA ประกาศข่าวดีนี้
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ MOCA แถลงเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมว่า การเลิกเก็บค่าผ่านประตู เป็นสิ่งที่ทางพิพิธภัณฑ์ต้องการทำ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถ “เข้าถึง” มากขึ้น เหมือนเช่นที่ทุกคนสามารถเดินเข้าห้องสมุดสาธารณะได้ แต่ทางพิพิธภัณฑ์ ไม่ได้ต้องการเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมให้มากจนรองรับไม่ไหว ดังนั้นจึงจะต้องมีมาตรการรองรับ เช่นจำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน ต่อไป
MOCA Los Angeles ก่อตั้งเมื่อปี 1979 และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการยอมรับว่า มีผลงานศิลปะร่วมสมัยจัดแสดงแบบถาวรมากและดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คือมีผลงานของศิลปินอเมริกันและยุโรปมากกว่า 7,000 ชิ้น จนต้องกระจายงานออกจัดแสดงในสามสาขา คือสาขาหลัก บนถนนแกรนด์, The Geffen Contemporary ในลิตเติลโตเกียว และ MOCA Pacific Design Center ย่านเวสท์ ฮอลลีวูด
โดยปกติแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คิดค่าผ่านประตู 15 ดอลลาร์สำหรับบุคคลทั่วไป, 8 ดอลลาร์สำหรับนักเรียนนักศึกษา, 10 ดอลลาร์สำหรับผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าฟรี โดยบัตรผ่านประตูดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งสามสาขา ภายในวันเดียวกัน.
.
.