ใครที่ได้เห็นภาพ “สาวงามระดับโลก” สองคนสวมกอด ทักทาย ชื่นชมซึ่งกันและกันในวันนั้นแล้ว ก็ให้ปลื้มใจ เพราะทั้งสองต่างเป็นผู้หญิงไทยที่งามพร้อมทั้งกายและใจ โดยใช้ความงามของตัวเองเป็นพื้นฐานในการทำงานช่วยเด็กน้อยด้อยโอกาสในเมืองไทยเหมือนๆ กัน
แถมยังเป็น “คนแอลเอ” เหมือนกันอีกด้วย...
น้องนิโคล กลับมาอเมริกาเป็นครั้งแรก หลังจากกลับไปปักหลักเตรียมขึ้นเวทีเมื่อกว่าสองปีที่ผ่านมา เป็นการเดินทางมา “ทำงาน” ในตำแหน่งมิสเวิร์ล เอเชีย ซึ่งเธอได้รับมาจากการประกวดมิสเวิร์ล ที่ประเทศจีน
“สำหรับตำแหน่งมิสเวิร์ลเอเชียนะคะ นิโคลก็จะต้องทำงาน beauty with a purpose world tour ซึ่งคือการทัวร์ไปกับมิสเวิร์ลแต่ละทวีป ไปช่วยทำงานจิตอาสา นิโคลเพิ่งกลับมาจากงาน Variety Telethon ที่ไอโอว่า เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ไปรับโทรศัพท์ในงาน ฟันด์เรสซิ่งค่ะ ได้เงินประมาณสี่ล้าน ยูเอสดอลลาร์ รู้สึกภูมิใจมาก และก็จะมีกิจกรรมแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ ค่ะ”
งาน Variety Telethon ที่ไอโอว่า ที่น้องนิโคลพูดถึง เป็นงานระดมทุนที่บรรดามิสเวิร์ลของทุกทวีป ทั้งเอเชีย, หมู่เกาะคาริบเบี้ยน, อเมริกา และกลุ่มประเทศโอเชียเนีย ร่วมกับมิสเวิร์ล 2018 วาเนสซ่า ปอนเช่ เดอ ลีออน และมิสเวิร์ล 2016 สเตฟานี่ เดล แวลลี่ ร่วมกันทำงานหาทุนเพื่อช่วยเด็กทุพลภาพและเด็กด้อยโอกาสในรัฐไอโอว่า
เสร็จงานแล้ว น้องนิโคลก็ถือโอกาส “เวเคชั่น” ช่วงสั้นๆ ในแอลเอ เพื่ออยู่กับครอบครัวญาติมิตร และเยี่ยมขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนเธอในช่วงประกวดมิสไทยแลนด์ยูเวิร์ส, มิสไทยแลนด์เวิร์ล และมิสเวิร์ล ที่ประเทศจีน
ถามว่าอยากจะพูดอะไรถึงคนไทยในแอลเอ ที่เชียร์และลุ้นตัวโก่งกับน้องนิโคลในทุกเวที เธอบอกว่า รู้สึกภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับความรัก ความเมตตาจากคนไทยในแอลเอ
“ดีใจมากๆ ที่มีคนสนับสนุน ดีใจมากๆ ที่มีคนช่วยเชียร์ ช่วยโหวต ช่วยเป็นกำลังใจให้นิโคล นิโคลรู้สึกถึงพลังของทุกๆ คนที่ส่งไปให้นิโคลตอนไปประกวดที่จีน รู้สึกดีใจมากๆ และปลื้มมากๆ อยากขอบคุณคนไทยในแอลเอ ทุกท่านนะคะที่ช่วยโหวตช่วยเป็นกำลังใจ ช่วยทำอะไรๆ ที่เชียร์นิโคล นิโคลรู้สึกดีใจมากๆ ขอบคุณนะคะ”
น้องนิโคลบอกด้วยว่า เธอดีใจมากกับตำแหน่งต่างๆ ที่ได้รับมา เพราะถือว่าสามารถทำความฝันของตัวเองได้สำเร็จไประดับหนึ่ง แต่ยังมีความฝันที่ยังจะต้องเดินหน้าทำต่อไปอีก นั่นคือโครงการ “Love for All” ที่น้องนิโคล ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กออทิสติก และเด็กด้อยโอกาสในเมืองไทย
“มีโครงการที่นิโคลได้สร้างขึ้นมา ตั้งแต่ก่อนที่นิโคลประกวดมิสไทยแลนด์เวิร์ล คือโครงการ เลิฟ ฟอร์ ออล ทำงานกับเด็ก ออทิสติก ช่วยเรื่องการเรียนและการทำงานของเด็กออทิสติก และทุกวันนี้นิโคลก็ยังทำงานนี้อยู่ ดีใจมากๆ เพราะว่า ณ ตอนนี้โครงการของเราก็มีกองทุนของตัวเองแล้ว อยู่ภายใต้มูลนิธิออทิสติกไทย แล้วอยากจะสร้างให้เป็นโครงการที่แข็งแรงที่เมืองไทยและก็ขยายไปถึงเอเชียและมาถึงอเมริกาด้วยค่ะ”
โดยโปรเจ็กส์ล่าสุดของน้องนิโคล ในการหาทุนเข้าโครงการ เลิฟ ฟอร์ ออล ก็คือการทำ Charity box set ออกจำหน่าย เป็นกล่องไม้ที่วาดลวดลายโดยเด็กออสทิสติก บรรจุโปสการ์ดภาพของน้องนิโคลขณะทำกิจกรรมการกุศลที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และนิตยสาร เลิฟ ฟอร์ ออล ที่รวบรวมภาพแฟชั่นของน้องนิโคล และเพื่อนๆ จากเวทีเดียวกัน เช่น แพรววนิต เรืองทอง รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013, เฮเลน่า บุช รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018, ฉัตรฑริกา สิทธิพรม รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014, ธันยชนก มูลนิลตา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015, จิณณ์ณิตา บุดดี มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016, ณัฐกมล สุวรรณศิลป์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 จำหน่ายในราคาชุดละ 330 บาท
น้องนิโคลบอกว่า Charity box set ชุดนี้จำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ thaiticketmajor.com แต่คงไม่มีการจัดส่งมาถึงอเมริกา ดังนั้นหากคนไทยในแอลเอ ต้องการจะสนับสนุนน้องนิโคล คงต้องฝากญาติมิตรที่เมืองไทยจัดการให้...
เจอน้องนิโคลคราวนี้ นอกจากความงามแบบผู้หญิงวัย 20 ปีบริบูรณ์ จะทำให้เรารู้สึกผิดตาไปจากภาพของเด็กวัยรุ่นแสนสวยที่เราคุ้นตาแล้ว ความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาไทยของเธอที่แทบจะไม่แตกต่างจากคนที่เกิดและโตในเมืองไทย... ก็ทำให้เรารู้สึกทึ่งในตัวเธอไม่น้อย
“ใช่ค่ะ ไปอยู่เมืองไทย อยู่กับคนไทย ถูกสัมภาษณ์บ่อยๆ ก็เลยรู้สึกชินมากขึ้น ก็เลยได้ฝึก และเริ่มอ่านด้วย”
ภาษาไทยที่ชัดเจนแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าหากเธอคิดที่จะยึดอาชีพนักแสดง หรืออาชีพอื่นใดในวงการบันเทิงบ้านเราก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
“จริงๆ แล้ว ตอนนี้นิโคลทำงานอยู่กับช่องสาม กับบีอีซีเทโร ค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะเล่นกับช่องสาม แต่ตอนนี้ นายของนิโคล คือคุณไบรอัน (ไบรอัน มาร์การ์) ของบีอีซี เทโร เขาอยากให้นิโคลทำงานภายใต้มิสไทยแลนด์เวิร์ล ให้จบก่อน แล้วเขาค่อยป้อนละคร ป้อนงานอะไรต่างๆ ให้”
น้องนิโคลบอกว่าอยากลองงานทุกอย่าง ทั้งงานแสดงละคร เพราะเธอโตมากับละครไทย (เธอยืนยันแบบนี้) หรืองานพิธีกร ก็อยากจะลอง
กระนั้นก็ดี เด็กแอลเอ คนนี้ยืนยันว่าจะไม่ทิ้งเรื่องเรียนอย่างแน่นอน
“แต่ยังไงๆ อาชีพในวงการนี้มันไม่ได้มั่นคงนะคะ เราก็ต้องหาทำโน่นทำนี่ และนิโคลก็ยังเรียนอยู่ ก็ทำงานไปเรียนไป เรียนที่หอการค้า เรียนธุรกิจระหว่างประเทศค่ะ”
และทั้งหมดนี้ก็คือการพูดคุยช่วงสั้นๆ กับน้องนิโคล พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิร์ล 2019 และลูกหลานไทยในแอลเอ ที่นำความภาคภูมิใจมาให้กับพวกเราที่นี่อย่างแท้จริง...