เว็บไซต์สยามรัฐ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมาว่า นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้กล่าวถึงการนวดแผนไทยที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาว่า ที่ผ่านมากรมฯ ได้มีการผลักดันมาตรฐานการนวดให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก รวมถึงได้ยื่นเสนอให้องค์การยูเนสโก พิจารณาเป็นมรดกวัฒนธรรมอันจับต้องไม่ได้ (Intangible Heritage) ของมวลมนุษยชาติ เหมือนที่ยูเนสโก้ได้ประกาศยอมรับโขนของไทยไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา
“เราจะเสนอทับศัพท์ ว่า Nuad Thai โดยขณะนี้ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้จัดเตรียมรายละเอียดต่างๆ เพื่อส่งต่อให้ทางกระทรวงวัฒนธรรม เสนอให้อยูเนสโกพิจารณา เราได้รวบรวมข้อมูล ทั้งของนักวิชาการของกรมฯ และนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับทางภูมิปัญญาท้องถิ่นของกระทรวงวัฒนธรรมมาช่วยดู เพื่อให้เห็นว่านวดไทยแตกต่างจากนวดของที่อื่นอย่างไร เราก็ได้มีการค้นคว้าว่า ของไทยมีการนวดที่เรียกว่า นวดเส้นประธานสิบ ซึ่งเป็นตำรานวดแผนโบราณ และเป็นการนวดที่ทั่วโลกรู้จักดี เช่นเดียวกับมวยไทย” นพ.มรุต กล่าว
นพ.มรุต กล่าวอีกว่าวิธีการนวดตอกเส้น นวดขิดเส้น ล้วนเป็นหลักการนวดของไทย หากต่อไปใครจะเอานวดไทยไปต่างประเทศ เปิดโรงเรียนนวดที่ต่างประเทศก็ต้องผ่านการอบรมเป็นครูในประเทศไทยและไปสอนที่ต่างประเทศ โดยจะรวบรวมเกี่ยวกับเรื่องราว ประวัติการนวดเส้นประธานสิบ และมาตรฐานการนวดไทย พร้อมทั้งจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับที่พระบาทสนเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการจารึกเรื่องการนวดของไทยเอาไว้ที่ศาลาราย ซึ่งรายล้อมข้างผนังภายในวัดโพธิ์ นับเป็นหลักฐานใหญ่ว่านี่คือ ภูมิปัญญาความรู้ของประเทศไทย โดยกรมจะทำเป็นหลักฐานรายละเอียดว่านี่คือ ภูมิปัญญาของไทย
"การพิจารณาของยูเนสโก น่าจะมีขึ้นประมาณเดือนพศจิกายน แต่ในระหว่างนี้เราก็จะร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมในการพิจารณา ซึ่งการเตรียมทางกรมแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและประชุมกันหลายรอบแล้ว และจะมีการเชิญทางวัดโพธิ์ มหาลัยต่างๆ หลายๆแห่งที่ทำรวมทั้งศิริราช มาร่วมกันจัดทำเป็นมาตรฐานร่วมกัน และวางแผนในการพัฒนา”
เมื่อถามว่าเกี่ยวกับภาพจำที่อาจเป็นแง่ลบของการนวดไทย จะมีการแก้ไขอย่างไร อธิบดีฯ กล่าวว่า จะไม่ใช้คำว่า Thai massage แต่จะใช้ทับศํพท์ว่า นวดไทย (Nuad Thai) ไปเลย เพราะเมื่อพูดถึง Thai massage แล้วยังมีคนมองไปถึงการนวดที่มีกามารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง คงต้องมีการดูแลในส่วนนี้ให้ดี หากตั้งเป็นร้านนวดก็ต้องเป็นนวดเพื่อรักษาหรือนวดเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่นวดเพื่อกามารมณ์ ซึ่งในปีนี้เราจะเดินหน้าในเรื่องมาตรฐาน ร้านไหนผ่านก็จะมีโลโก้ ซึ่งทางกรมฯ ได้ประสานและขอทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาไว้แล้ว จะใช้ทั้งในและต่างประเทศ.