รายงานข่าวจากเฟสบุ๊คทีวีสีช่อง 3 ว่า  เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 18 มกราคม 2562 ได้มีคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน แต่งกายชุดดำคล้ายทหาร ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ บุกเข้าไปภายในวัดรัตนานุภาพ หรือ วัดโคกโก ซึ่งตั้งอยู่บ้านโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส แล้วได้กระจายกำลังใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่กุฏิพระ ส่งผลทำให้พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และเป็นเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ มรณภาพพร้อมพระลูกวัด รวม 2 รูป และมีพระลูกวัดได้รับบาดเจ็บอีก 2 รูป  

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณด้านนอกของประตูวัด เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพบชายฉกรรจ์แต่งชุดดำคล้ายทหาร ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่หลังกันมา เมื่อขี่เข้าประตูวัดได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กุฎิจำนวนหลายสิบนัด จนเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะๆ ชาวบ้านจึงได้พากันหวีดร้องและวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ ตชด.447 ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดมาตรวจสอบ แต่พบว่าคนร้ายได้พากันหลบหนีไปแล้วหลังก่อเหตุเสร็จ

รายชื่อพระสงฆ์ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ประกอบด้วย

ศึกษาประวัติและคำสนทนากับญาติโยมของท่านที่บันทึกไว้ ชี้ให้เห็นว่า ท่านมีความพยายามและเสียสละอย่างแรงกล้า ที่จะทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกฝ่าย เพื่อนำสันติภาพกลับสู่แดนใต้ให้ได้ ท่านออกจากบ้านเพื่อแสวงหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาและศาสตร์ต่างๆ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์แดนใต้ เมื่อท่านจบการศึกษาแล้ว แม้มีโอกาสย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นที่ปลอดภัยได้แทบจะทั่วทุกมุมโลกในฐานะพระธรรมทูต แต่ท่านเลือกที่จะกลับบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน เนื่องจากท่านมีความรู้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งท่านให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งนับเป็นเจ้าคณะอำเภอหนุ่มที่จะทำงานพระพุทธศาสนานำความผาสุกมาสู่ประชาชนแดนใต้ได้อีกนาน

ชาวบ้านเรียกท่านด้วยความสนิทสนมว่า ท่านสว่าง ช่างเป็นชื่อที่สอดคล้องกับปณิธานและงานของท่านจริงๆ คือเป็นแสงสว่างท่ามกลางไฟสงคราม ที่ผู้ก่อการร้ายมักจะใช้ความรุนแรงเข่นฆ่าคนดีมานับไม่ถ้วน คนดีที่ไปเพื่อดับไฟใต้ต้องล้มตายลงจากฝีมือผู้ก่อการร้ายศพแล้วศพเล่า แทนที่ไฟใต้จะมอดดับกลับกลายเป็นลมกระพือโหมไฟให้ร้อนแรงไหม้ลามยิ่งขึ้น ท่านสว่างก็เป็นนักสันติอีกท่านหนึ่งที่หวังจะลดความรุนแรงของไฟใต้ให้มอดลง โดยใช้ความเมตตาและความอดทนเป็นน้ำหยดเล็กๆ ประพรมลงไปอย่างไม่ย่อท้อ หวังว่าวันหนึ่งไฟสงครามมอดลงบ้าง  แต่เป็นที่น่าเศร้าสลด ท่านต้องกลับมาเป็นเหยื่อของความรุนแรงเสียเอง ยิ่งประชานรักเคารพท่านเพียงใด ผู้ก่อการร้ายก็หมายชีวิตท่านมากเท่านั้น เพราะผู้ก่อการร้ายไม่เคยเข้าใจว่า ความเมตตากรุณาเป็นอย่างไร ความเจ็บปวดจากความสูญเสียเป็นอย่างไร