ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟ็อกซ์ 11 สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของลอส แอนเจลิส ได้นำเสนอข่าวการโจรกรรมทรัพย์สินในร้านนวดหลายแห่งในลอส แอนเจลิส โดยเน้นมาที่ร้านนวดแผนไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่เปิดให้บริการมากมายในลอส แอนเจลิส
เนื้อข่าวได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้าน บลูโลตัส ไทย มาสสาจ ถนนวอชิงตัน ในเมืองคัลเวอร์ ซิตี้ ของคุณจุรี ทิพย์เพ็ชร เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม โดยคุณจุรี บอกว่าคนร้าย ซึ่งเป็นชายผิวดำ ได้เดินเข้ามาในร้านและบอกว่าต้องการใช้บริการนวด แต่ขอรอภรรยา ซึ่งกำลังเดินทางมา โดยหลังจากนั่งรอประมาณสิบนาที คนร้ายก็ใช้ห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านในร้าน เมื่อเธอพาไปและยังไม่ออกมาเฝ้าหน้าร้าน คนร้ายก็รีบเดินออกมาและขโมยกระเป๋าเงินของเธอไป
สยามทาวน์ยูเอส ได้พูดคุยกับคุณจุรี ทิพย์เพ็ชร ทราบว่าคนร้ายเดินเข้ามาในร้านเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. โดยตอนที่คนร้ายขอเข้าห้องน้ำหลังร้านนั้น ตัวเองเป็นคนพาไป และว่าจังหวะนั้น พนักงานในร้านกำลังให้บริการลูกค้า อีกคนกำลังอยู่ในช่วงพัก โดยคนร้ายเข้าห้องน้ำและเปิดไฟ แต่แอบย่องออกมาหน้าร้านในช่วงที่ตนเองเผลอ และขโมยกระเป๋าเงินที่วางอยู่บนเก้าอี้ที่เคาน์เตอร์
ส่วนจำนวนเงินที่ถูกขโมยไปนั้น คุณจุรี ทิพย์เพ็ชร บอกว่ามีมากถึง 4,000 ดอลลาร์ เพราะเพิ่งเบิกมาเป็นค่าแรงประจำสัปดาห์ของพนักงานในร้าน รวมถึงบัตรเครดิต และบัตรสำคัญอื่นๆ หลายอย่าง แต่ตนได้โทรแจ้งเพื่อระงับทั้งหมดแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม คนร้ายคนเดียวกันได้ก่อคดีที่ร้าน อนันตา สปา ซาวน่า แอนด์ ไทย มาสสาจ เมืองรีดอนโด้ บีช ของคุณณภัฐนันท์ บุตรศรี หรือคุณไอด้า ซึ่งบอกกับสยามทาวน์ยูเอส ว่าคนร้ายใช้วิธีเดียวกัน คือบอกว่าขอเข้ามารอภรรยาที่กำลังเดินทางมานวด โดยเข้ามาในเวลาประมาณ 13.30 น. โดยเธอจำเสียงได้ว่าคนร้ายรายนี้ได้โทรมาจองเวลานวดสองชั่วโมงในช่วงดังกล่าว ทำให้เธอเชื่อว่าคนร้ายมีการวางแผนล่วงหน้า คือเป็นการป้องกันไม่ให้มีลูกค้ามากเกินไปในช่วงเวลาดังกล่าว
หลังจากทำทีเป็นรอภรรยาประมาณ 30 นาที คนร้ายก็ยินยอมเข้าไปใช้บริการนวดและบำรุงหน้า โดยจ่ายเงินค่าบริการ 80 ดอลลาร์บวกค่าทิปอีก 30 ดอลลาร์ล่วงหน้า เมื่อเสร็จสิ้น คนร้ายก็บอกกับคุณไอด้าว่าภรรยาเดินทางมาถึงแล้ว และว่าภรรยาขออาบน้ำก่อนรับบริการ คุณไอด้าจึงเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเตรียมชุดคลุมและอุปกรณ์ต่างๆ เป็นโอกาสให้คนร้ายขโมยกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงินสด 600 ดอลลาร์ และบัตรเครดิตสิบกว่าใบ อีกทั้งมีเครื่องประดับอีกจำนวนหนึ่งด้วย
คุณไอด้าเล่าด้วยว่า ภายในเวลาประมาณสองชั่วโมง คนร้ายได้นำบัตรเครดิตของเธอไปใช้ที่ เบสท์บาย, ฟินิช ไลน์ และโฮมดีโป รวมเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี กล้องวงจรปิดในร้านได้บันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงได้มอบให้กับตำรวจ รวมถึงนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นการเตือนร้านนวดไทย รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้ได้
โดยเหตุโจรกรรมที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคนไทยในลักษณะนี้ ทำให้สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา โดยคุณวรนุช บุญประกอบ ประธานที่ปรึกษาของสมาคมฯ ได้เปิดกลุ่มไลน์ ชื่อ “โจรกรรมแอลเอ” ขึ้น เพื่อใช้เป็นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยกลุ่มไลน์ ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่า “ด่วน โจรกรรม only” มีสมาชิกแล้วมากกว่าสองร้อยคนภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
“เพราะว่าร้านนวดนี่ มันเกิดเรื่องบ่อยๆ ไง ที่ไม่รู้ก็อีกเยอะ ก็เลยได้ไอเดียว่าเราเปิดกลุ่มไลน์ดีกว่า เอาไว้บอกกล่าว เตือนภัยกัน ซึ่งพอรูปมันถูกแชร์กันทั่วๆ ไปนี่ คนร้ายก็ลงมือลำบาก เพราะเรารู้ และระวังตัว แล้วตอนนี้ ที่เข้ามานี่ไม่ใชเฉพาะร้านนวดนะคะ ร้านอาหาร หรือคนทั่วไปที่เขาสนใจก็มี”
และผลจากการแชร์รูปของคนร้ายในกลุ่มไลน์ และทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้ร้านนวดไทยชื่อ สุรินทร์ เดย์ สปา ในเมืองอีเกิลร็อค สามารถป้องกันตัวไม่ให้คนร้ายคนนี้กระทำการโจรกรรมได้ เพราะเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้ชายทราบล่วงหน้าและจับตามองอย่างไม่คลาดสายตา จนกระทั่งคนร้ายต้องกลับออกไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ประธานที่ปรึกษาของสมาคมนวดไทยฯ บอกว่าเมื่อมีคนเข้ามามาก ทำให้วัตถุประสงค์ของกลุ่ม คือเพื่อเตือนภัย และแจ้งเบาะแสข้อมูลคนร้าย ถูกบิดเบือนไปบ้าง
“ก็พยายามขอกันอยู่ว่ามันเป็นกลุ่มเตือนภัย กลุ่มโจรกรรม อยากจะให้เป็นแบบนี้เท่านั้น ไม่ใช่เช้าขึ้นมาก็ส่ง สวัสดียามเช้ามา หรือมาทักทายคุยกัน ถามไถ่เรื่องโน้นเรื่องนี่ แบบนี้ก็อยากให้ไปคุยกันหลังไมค์”
อย่างไรก็ดีคุณวรนุช บุญประกอบ บอกว่ายินดีต้อนรับทุกคนเข้าร่วมกลุ่ม “ด่วน โจรกรรม only” โดยสามารติดต่อตนเอง หรือสมาชิกของสมาคมนวดไทยฯ ให้แอดชื่อได้ตลอดเวลา.