เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2017 นางอรุณรัศมี อัมพุนันทน์ ผู้จัดการสุสาน พิมานไทย ในเมืองแวนนายส์ ซึ่งตามข่าวบอกว่าจะให้บริการฌาปนกิจร่างของน้องกอล์ฟ ภคพล ชัยรัตนทรงพร และน้อง มิน ทิวาดี แสงสุริยฤทธิ์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ได้เปิดเผยกับสยามทาวน์ยูเอส ว่าขณะนี้ ยังไม่ทราบกำหนดที่แน่นอนว่าจะสามารถส่งรถไปรับร่างของสองนักศึกษาไทยจากสถานชันสูตรของเฟรสโน่ เคาน์ตี ได้เมื่อไหร่ แต่ตนเชื่อว่าอย่างช้า ไม่น่าจะเกิดวันพฤหัสฯ ที่ 7 กันยายน 2017
“เพราะหลังจากกู้ร่างน้องสองคนขึ้นมาได้แล้ว ก็เป็นวันหยุดยาวของที่นี่ คือเลเบอร์เดย์ ถ้าเขาลงมือทำงานกันวันอังคาร กว่าจะเสร็จก็น่าจะเป็นวันพฤหัสฯ ค่ะ นี่อย่างช้านะคะ อาจจะเร็วกว่านี้ แต่ถ้าเป็นวันพฤหัสฯ เราไม่สามารถทำพิธีได้ในวันศุกร์ เพราะคนไทยเราไม่เผากันวันนั้น ก็คงจะเป็นวันเสาร์ค่ะ”
นางอรุณรัศมี อัมพุนันทน์ บอกด้วยว่าหากมีการประกอบพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์จริง ก็จะสามารถเก็บอัฐิได้ในวันจันทร์ที่ 11 กันยายน โดยตนจะบรรจุอัฐิของน้องทั้งสองในโกฎิอย่างดี แล้วส่งให้กับญาติและกงสุลใหญ่ฯ เพื่อนัดหมายประชาชนไทย ไปทำพิธีทางศาสนา ณ วัดไทย ลอส แอนเจลิส ต่อไป
โดยพิธีฌาปนกิจ ณ สุสานพิมานไทยในเมืองแวนนายส์นี้ ผู้จัดการสุสานบอกว่า ทางญาติขอร้องให้เป็นพิธีการภายใน คือมีเฉพาะญาติๆ และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น โดยตนเองจะนิมนต์พระสงฆ์หนึ่งรูปจากวัดไทย ลอส แอนเจลิส มาประกอบพิธีทางศาสนาด้วย
ผู้จัดการ สุสานพิมานไทย บอกว่าพิธีฌาปนกิจแบบประหยัด ดังที่จะจัดให้กับน้องกอล์ฟและน้องมินนั้น โดยปกติจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 214,500 บาทต่อราย
“ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายปกติ คือค่าไปรับศพ ค่าฉีดน้ำยารักษาศพ ค่าแต่งหน้าศพ ค่าแต่งเสื้อผ้า ค่าโลง ค่าเก็บในห้องเย็น และค่าฌาปนกิจ ค่าเก็บกระดูก โดยจะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนาด้วยนะคะ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นกรณีพิเศษจริงๆ เป็นการช่วยกัน เพราะหากต้องไปรับศพไกลๆ แบบนี้ ค่าใช้จ่ายจะมากกว่านี้ เพราะทางสุสานจะให้บริการในรัศมีแค่ 50 ไมล์ หากไกลกว่านี้จะคิดตามระยะทาง”
ในกรณีของน้องกอล์ฟนั้น มารดาคือนางกัลยา แสงสุริยฤทธิ์มีความประสงค์ให้ทำพิธีลอยอังคารที่อเมริกา เพราะเห็นว่าลูกชายรักประเทศนี้มาก ซึ่งทางสุสานพิมานไทยก็จะดูแลเรื่องนี้ให้ด้วยเช่นกัน
“น้องกอล์ฟนี่ เป็นพุทธวจน ด้วย เราจะทำพิธีพุทธวจนให้น้องกอล์ฟหนึ่งวัน คือวันอาทิตย์ (17 กันยายน) ที่บ้านของพี่ หลังจากนั้นก็จะไปลอยอังคาร โดยการเช่าเรือ เห็นครอบครัวบอกว่าจะไม่มีมากกว่าไปกว่า 35 คน อาจจะไปลอยที่ลองบีช หรือที่ซานเปโด้ ออกไปจากฝั่งประมาณห้าไมล์ค่ะ ทางสุสานจะดูแลให้หมดทุกขั้นตอนจนคืนกลับสู่ธรรมชาติค่ะ“
ขณะที่ นายราล์ฟ ทอร์เรส เจ้าของและผู้อำนวยการสุสานพิมานไทย หรือ Torres Mortuary บอกว่าตนยินดีให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ กับครอบครัวของนักศึกษาไทยทั้งสอง โดยให้เหตุผลว่า “หัวใจ” บอกให้ทำเช่นนั้น
“เป็นความรู้สึกจากหัวใจ ว่าผมจะต้องทำอะไรสักอย่างให้กับสองครอบครัวนี้ เพราะนึกภาพออกว่า หากเป็นลูกชายและลูกสาวของผม ตกไปอยู่ก้นเหว และต้องรอนานขนาดนี้ จะต้องเป็นเรื่องร้ายแรงสุดจะทน แล้วหากจะต้องมาเสียค่าใช้จ่ายก้อนโตในการประกอบพิธีฌาปนกิจอีก ก็คงจะมากเกินไป ผมจึงตัดสินใจว่าจะดูแลสองครอบครัวนี้ เพราะเชื่อว่า คนทำดีย่อมได้ดี ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้... มันมาจากหัวใจที่อยากจะทำอะไรให้กับสองครอบครัวนี้ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้เขาได้บ้าง” เจ้าของและผู้อำนวยการสุสานพิมานไทย กล่าวในที่สุด