ข่าวเด่นเมืองไทย
ข่าวเด่นเมืองไทย
จ่อหมายจับลูกกระทิงแดง ได้สถานะ’ผู้ร้ายข้ามแดน'





แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ทายาทกระทิงแดงจ่อได้สถานะเป็น “ผู้ร้ายข้ามแดน” เมื่ออัยการขีดเส้น ต้องปรากฏตัวภายใน 28 เมษายน หากยังเมินจะประสานตำรวจออกหมายจับ “บอส วรยุทธ” คดีซิ่งรถชนตำรวจเสียชีวิต หลังคดีล่าช้ามานานกว่า 5 ปี ขณะเจ้าตัวเสพสุขอยู่ที่อังกฤษ

เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 27 เมษายน ว่าเรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด, นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทผู้ก่อตั้งเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555

โดยเรือโทสมนึกกล่าวว่า ตามที่อัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้นัดตัวนายวรยุทธให้มาพบในวันนี้ ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา นายวรยุทธได้ส่งทนายความมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีออกไปอีก โดยอ้างเหตุเร่งด่วนไปจัดการธุรกิจที่ประเทศต่างๆ ซึ่งอัยการเห็นว่านายวรยุทธผู้ต้องหาได้ส่งทนายความขอเลื่อนคดีด้วยเหตุลักษณะเดียวกันนี้อย่างต่อเนื่องหลายครั้งแล้ว มีเจตนาประวิงคดีและหลบหนี 


ดังนั้น นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีตามที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด มีคำสั่งกำชับไม่ให้ผู้ต้องหาเลื่อนคดีอีก ซึ่งอัยการก็ให้เวลานายวรยุทธเข้ามาพบอัยการภายในเวลา 16.00 น. วันที่ 27 เมษายน หากนายวรยุทธ ผู้ต้องหาเดินทางมาพบอัยการ หรือเจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาได้ อัยการคดีอาญากรุงเทพใต้นำตัวยื่นฟ้องต่อศาลได้ทันที เนื่องจากอัยการเตรียมสำนวนคำฟ้องเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว หากไม่มา ในวันที่ 28 เมษายน จะให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีหนังสือไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป


เรือโทสมนึกกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา นายสุทธิ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ได้ส่งสำนวนพร้อมผลการสอบสวนเพิ่มเติมพยานผู้เชี่ยวชาญตามที่ฝ่ายผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม ไปยังอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมาว่าคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง 


ประกอบกับพนักงานอัยการได้พิจารณาให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาตลอดมา และเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว หากการพิจารณาสั่งคดียังล่าช้าอาจเกิดความเสียหายแก่คดี และเป็นที่เคลือบแคลงต่อสังคม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดได้ ซึ่งอัยการสูงสุดได้พิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ฉบับที่ผู้ต้องหาร้องมาฉบับสุดท้ายลงวันที่ 6 มีนาคม 2560 ให้สั่งไม่ฟ้องเพราะตนเองไม่ได้ขับรถโดยประมาท โดยอ้างคำให้การของพยานผู้เชี่ยวชาญ และอ้างรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 


"ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ได้พิจารณากรณีเหตุร้องขอความเป็นธรรมแล้ว เห็นว่าความเห็นของพยานผู้เชี่ยวชาญไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานเดิม จึงให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรม และให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ แจ้งพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวนายวรยุทธ ผู้ต้องหา มาฟ้องตามคำสั่งฟ้องต่อไป"


ขณะที่นายอำนาจกล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดไว้ชัดเจนว่า หากมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา ต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ตัวมาดำเนินคดี และหากอยู่ต่างประเทศ ก็จะต้องดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งตามขั้นตอนพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนต้องแจ้งพนักงานสอบสวนติดตามตัว โดยส่งคำขอไปยังศาล ว่าผู้ต้องหามีเจตนาหลบหนีขอศาลออกหมายจับ และเมื่อศาลออกหมายจับแล้ว จะต้องติดตามจับให้ก่อนคดีขาดอายุความ และหากผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศ ตำรวจต้องสืบสวนให้ชัดเจนก่อนว่าผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ที่ใด และอยู่ในประเทศอังกฤษตามที่สื่อนำเสนอหรือไม่ 


"หากระบุที่อยู่ได้ชัดเจนแล้ว พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมคำสั่งฟ้องของอัยการ ประกอบการพิจารณาอัตราโทษตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ที่มีเงื่อนไขระบุโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป คดียังไม่หมดอายุความ และไม่เป็นคดีความผิดทางการเมืองและการทหาร ย่อมสามารถเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้" โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุ


นายอำนาจกล่าวต่อว่า ซึ่งที่ผ่านเราเคยมีผู้ต้องหาคดีขับรถชนตายที่ประเทศอังกฤษหนีเข้ามาอาศัยในไทย และอังกฤษขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาแล้ว เราก็ดำเนินการให้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าข้อหาดังกล่าวเคยมีการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกัน แต่ถ้าประเทศอังกฤษปฏิเสธคำขอของไทยด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง เราก็จะใช้ พ.ร.บ.ความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศ ขอให้ประเทศอังกฤษเริ่มดำเนินคดีใหม่ที่ประเทศอังกฤษได้เช่นกัน โดยเราเป็นผู้ส่งหลักฐานไปให้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสามารถกระทำได้กับทุกประเทศที่มีสนธิสัญญา และเคยมีการดำเนินการมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางอัยการสูงสุดได้กำชับว่าจะไม่ละเว้นการติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้ต้องหามีการย้ายประเทศพำนักอาศัยบ่อยๆ นอกจากการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว เรายังสามารถใช้วิธีการประสานตำรวจสากลได้หรือไม่ นายอำนาจกล่าวว่า การขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เราได้เตรียมตั้งคณะทำงานไว้รองรับแล้ว หากเราได้รับคำร้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและครบองค์ประกอบที่จะขอผู้ร้ายข้ามแดนได้ เราสามารถที่จะยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ภายใน 7 วัน เมื่อคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปถึงประเทศปลายทาง ก็จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามเงื่อนไข ซึ่งเราก็มีตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) คอยเป็นผู้ชี้เป้าว่าตัวผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน ก่อนประสานตำรวจประเทศนั้นเป็นผู้จับกุม 


"หากผู้ต้องหาไหวตัวทันย้ายประเทศที่พำนัก เราก็จะมีการดำเนินการติดตามตัวทำคำร้องส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศนั้นต่อไป แต่คำร้องส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เราเคยส่งไปก็ยังมีผลบังคับใช้ ทำให้ผู้ต้องหาไม่สามารถกลับมาพำนักยังประเทศเดิมได้ ส่วนกรณีถ้าหากนายวรยุทธมีการขอสัญชาติอังกฤษนั้น ยอมรับว่าจะทำให้เงื่อนไขการส่งตัวยากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน" นายอำนาจระบุ


ด้านนายประยุทธกล่าวว่า คดีนี้ต้องยืนยันหนักแน่นว่าคดียังไม่ขาดอายุความ โดยความผิดขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อายุความ 15 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.2570 ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดก็ยังดำเนินการได้ และอยากจะฝากสื่อมวลชนถึงผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายวรยุทธ ผู้ต้องหาที่ฟังอยู่ว่า ความผิดโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยถือว่าไม่มีเจตนา พูดภาษาง่ายๆ เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่การกระทำเจตนาไปฆ่าคน 


"หากศาลฟังได้ว่าผู้ต้องหารายใดก็ตามที่กระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไปดูแลญาติฝ่ายผู้สูญเสียเต็มที่ และเป็นที่พอใจ ศาลก็จะให้โอกาสเหมือนกับคดีตัวอย่างของนายศรราม เทพพิทักษ์ เมื่อเขาดูแล กระบวนการยุติธรรมก็ให้โอกาส ดังนั้นเรียกร้องให้นายวรยุทธเดินเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วดูแลญาติฝ่ายผู้สูญเสียเต็มที่ ก็น่าเชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดควรจะดำเนินการ” นายประยุทธกล่าว


เมื่อถามว่า หากครบกำหนดอายุความยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหามา จะถือเป็นความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรม และเป็นบทเรียนที่จะต้องแก้ไขในส่วนใด นายประยุทธกล่าวว่า ไม่ถือเป็นความล้มเหลว และเป็นการร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ไม่ใช่เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
21-02-2021 วงการบันเทิงสูญเสีย ไพโรจน์ ใจสิงห์ นักแสดงมากฝีมือ (0/13982) 
30-10-2019 แจงระงับสิทธิจีเอสพี กระทบแค่1,800ล้าน (25/5257) 
16-10-2019 ส่งออกข้าววืดเป้า9ล้านตัน ถูกเวียดนามตามบี้ทุกตลาด (0/2888) 
25-09-2019 รายงานหน้าหนึ่ง : ดอกเตอร์จากฟินแลนด์ ยัน รมช.ไทยลอกวิทยานิพนธ์ (2/3199) 
19-09-2019 รายงานหน้าหนึ่ง : ปลดล็อค”น้ำดอกไม้สีทอง”สู่อเมริกา (0/2063) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข