ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผลสำรวจปัญหาการจราจรโลกเผยแพร่ออกมาสองฉบับในเวลาใกล้เคียงกัน โดยฉบับแรกเรียกว่า อินริกซ์ โกลบอล ทราฟฟิก สกอร์การ์ด 2017 จัดทำโดย อินริกซ์ บริษัทข้อมูลด้านการจราจร ในเมืองเคิร์คแลนด์ รัฐวอชิงตัน ที่ระบุว่า ใน 2016 นั้น ลอส แอนเจลิส ถือเป็นเมืองที่มีปัญหารถติดมากที่สุดในบรรดาเมืองใหญ่ 1,064 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก โดยชาวเมืองแอลเอ ต้องสิ้นเปลืองเวลาไปกับการขับรถไปมาบนท้องถนนเฉลี่ยมากถึงปีละ 104 ชั่วโมง โดยมี มอสโคว ของรัสเซียตามมาเป็นอันดับสอง ที่ 91 ชั่วโมงต่อปี และนิวยอร์ค เป็นอันดับสาม 89 ชั่วโมงต่อปี
ผลสำรวจบอกด้วยว่า ใน “ท็อปเท็น” เมืองที่มีปัญหารถติดมากที่สุดในโลกนั้น มีเมืองใหญ่ของอเมริกาติดอันดับอยู่ถึงห้าเมือง คือนอกจาก แอลเอ และนิวยอร์ค ในอันดับหนึ่งและสามแล้ว ยังมีซานฟรานซิสโก ติดอยู่ในอันดับสี่, แอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ในอันดับห้า และไมอามี ฟลอริด้า ติดอันดับสิบ ทำให้อเมริกากลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีปัญหารถติดร้ายแรงที่สุดในโลกแถมอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยอินริกซ์ บอกว่า ชาวอเมริกันใช้เวลาเฉลี่ยบนท้องถนน 42 ชั่วโมงต่อปีในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
โดยการเสียเวลากับปัญหารถติดดังกล่าว ทำให้ชาวอเมริกันต้องเสียเงินโดยสูญเปล่าประมาณคนละ 1,400 ดอลลาร์ หรือเกือบ 300 พันล้านดอลลาร์ทั่วประเทศ และว่าสาเหตุที่ทำให้ปัญหารถติดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คือการเติบโตอย่างคงที่ของสภาพเศรษฐกิจ, อัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น, การขยายตัวของเมืองใหญ่ และราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของ อินริกซ์ วิเคราะห์ว่าสถานการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แปลว่าปัญหารถติดของอเมริกาจะยังไม่เบาบางลงในระยะเวลาอันใกล้นี้
โดยในสิบอันดับของเมืองที่มีปัญหารถติดสูงสุดในโลกนั้น นอกจากเมืองใหญ่ห้าเมืองของอเมริกาแล้ว ก็มีมอสโควของรัสเซีย ในอันดับสอง, โบโกต้า ของโคลัมเบีย ในอันดับห้า, เซาท์ เปาโล อันดับหก ลอนดอน อันดับเจ็ด ปารีส อันดับเก้า
ส่วนกรุงเทพฯ ซึ่งชาวไทยที่อาศัยในลอส แอนเจลิส เห็นพ้องกันว่ามีปัญหารถติดรุนแรงมากกว่าแอลเอ หลายเท่านั้น กลับติดอยู่ในอันดับที่ 12 ของ อินริกซ์ โกบอล ทราฟฟิก สกอร์การ์ด 2017 เท่านั้น โดยอินริกซ์ บอกว่าคนกรุงเทพฯ ต้องเผชิญปัญหารถติดปีละ 64.1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี อินริกซ์ บอกว่าการวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรที่รวบรวมจากเมืองใหญ่ 1,064 แห่งใน 38 ประเทศนี้ ไม่รวมญี่ปุ่น และประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีปัญหารถติดรุนแรงอีกประเทศหนึ่ง
และในเวลาใกล้เคียงกัน ซีเอ็นเอ็นได้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2017 ถึงการจัดอันดับเมืองที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดในโลกประจำปี 2017 ของ “ทอมทอม” บริษัทผลิตอุปกรณ์จีพีเอสชื่อดัง ซึ่งสำรวจจากเมืองใหญ่ 390 เมืองจาก 48 ประเทศ ซึ่งปรากฏว่า กรุงเทพฯ ของประเทศไทย ติดอยู่ในอันดับหนึ่ง จากที่เมื่อปี 2016 เคยอยู่ในอันดับสอง รองจากแม็กซิโก ซิตี้
นิค คอห์น ผู้เชี่ยวชาญด้านการจราจรของทอมทอม ระบุว่า การที่กรุงเทพฯ ทะยานขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในปีนี้ เป็นเพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการที่คนหันมาใช้รถส่วนตัวกันมากกว่าเดิมมาก และเมื่อรถบนท้องถนนเพิ่มขึ้น ๆ ก็เกิดการจราจรติดขัดที่แก้ไขได้ยาก
สำหรับการจัดอันดับปีนี้ ประเทศจีนติดโผถึง 6 เมืองจาห 15 อันดับ ตามมาด้วยรัสเซียที่มี 2 เมืองติดอันดับ
ส่วนเม็กซิโกซิตี แม้จะเสียแชมป์ให้กรุงเทพฯ ไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีการจราจรที่โหดสาหัสไม่ต่างไปจากเดิม โดย นิค คอห์น ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาของเม็กซิโก ซิตี ว่าเกิดจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในเมือง ซึ่งถือว่าไม่ต่างจากกรุงเทพฯ เท่าไรนัก และแม้ว่าเม็กซิโก ซิตี้ จะมีระบบรถไฟใต้ดิน แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
โดย 15 อันดับเมืองที่รถติดมากที่สุดในโลกประจำปี 2016 จากการจัดทำของ “ทอมทอม” มีดังนี้
1. กรุงเทพฯ ประเทศไทย
2. เม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก
3. บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย
4. จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
5. มอสโก ประเทศรัสเซีย
6. ฉงชิ่ง ประเทศจีน
7. อิสตันบูล ประเทศตุรกี
8. เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
9. จู้ไห่ ประเทศจีน
10. ซานติอาโก ประเทศชิลี
11. กวางโจว ประเทศจีน
12. ฉือเจียจวง ประเทศจีน
13. เสิ่นเจิ้น ประเทศจีน
14. ลอส แอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
15. ปักกิ่ง ประเทศจีน