นับจากวันที่ 1 พฤษภาคม 2016 เป็นต้นไป รัฐแคลิฟอร์เนียจะเป็นรัฐแรกของอเมริกา ที่ให้สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลสำหรับผู้มีรายได้น้อย (Medi-Cal) แก่เยาวชนต่างชาติอายุต่ำกว่า 19 ปี ที่อยู่ในอเมริกาอย่างไม่ถูกต้อง โดยมีการประเมินว่าแคลิฟอร์เนีย มีเยาวชนที่มีสิทธิ์รับสวัสดิการใหม่นี้มากถึง 170,000 คน โดยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อาศัยอยู่ใน ลอส แอนเจลิส เคาน์ตี และออเรนจ์ เคาน์ตี
ทั้งนี้ สวัสดิการใหม่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียจะมอบให้กับลูกหลานของ “โรบินฮูด” ดังกล่าวนี้ เป็นผลมาจากกฎหมายชื่อ The The Health for All Kids Act ที่ผ่านรัฐสภาเมืองซาคราเมนโต้ และได้รับการลงนามโดยผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 ซึ่งข่าวบอกว่ากฎหมายฉบับนี้ผ่านรัฐสภาโดยไม่มีแรงคัดค้านจากพรรครีพับลิกันมากนัก เพราะเป็นเรื่องของสวัสดิการสำหรับเด็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีแรงจูงใจด้านอารมณ์ (emotional appeal) สูง ต่างกับความพยายามที่จะให้สวัสดิการ “เมดิ-แคล” คุ้มครองมาถึงบรรดาผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งข่าวบอกว่ายังจะต้องอาศัยแรงผลักดันอีกมาก
ข่าวบอกด้วยว่า สวัสดิการที่รัฐมอบให้กับลูกหลานโรบินฮูดครั้งนี้ นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เพราะผู้ว่าการรัฐฯ เจอร์รี่ บราวน์ ให้สัญญาว่าจะตัดงบประมาณของรัฐจำนวน 20 ล้านดอลลาร์เพื่อคุ้มครองเยาวชนที่เป็นลูกหลานโรบินฮูดในรัฐ ระหว่างเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงวันสิ้นปีงบประมาณนี้ และอีก 143 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณต่อไป หมายถึงรัฐแคลิฟอร์เนียจะดูแลค่าใช้จ่ายของ เมดิ-แคล ที่เพิ่มขึ้นมาเองทั้งหมด โดยไม่พึ่งงบประมาณสนับสนุนของรัฐบาลกลาง เหมือนเมดิ-แคล ทั่วไป
ส่วนคุณสมบัติของเยาวชนที่มีสิทธิ์ขอรับเมดิ-แคล ใหม่นี้ จะต้องอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 53,625 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับครอบครัวสามคน หรือ 75,650 ดอลลาร์ต่อปี สำหรับครอบครัวห้าคน
ที่ผ่านมา เยาวชนในลอส แอนเจลิส เคาน์ตี ที่อยู่แบบไม่ถูกต้องและไม่มีสิทธิ์ขอรับสวัสดิการอื่นๆ สามารถยื่นขอรับรับการคุ้มครองด้านสุขภาพจากโปรแกรมชื่อ My Health L.A. ได้ (แต่ต้องมีอายุตั้งแตหกปีขึ้นไป) โดยข่าวบอกว่าเยาวชนที่อยู่ในโปรแกรมนี้ ซึ่งมีประมาณ 10,000 คน จะได้รับการบรรจุ (rolled) เข้าโปรแกรม เมดิ-แคล ใหม่นี้โดยอัตโนมัติในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป (แต่จะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม) เช่นเดียวกับเยาวชนกลุ่มนี้ ที่เคยใช้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน (emergencies) ซึ่งโปรแกรม เมดิ-แคล ไม่สามารถปฏิเสธได้ (แต่จะคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เป็นเรื่องฉุกเฉินเท่านั้น) ก็จะได้รับการบรรจุเข้าสู่โปรแกรม เมดิ-แคล ใหม่โดยอัตโนมัติเช่นกัน โดยเยาวชนกลุ่มนี้ ประเมินว่ามีอยู่ประมาณ 115,000 คน
ส่วนเยาวชนที่ไม่เคยมีชื่ออยู่ในระบบของเมดิ-แคล หรือโปรแกรม My Health L.A. ของเคาน์ตี จะต้องทำการยื่นสมัครขอรับเมดิ-แคล โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของแผนกประกันสุขภาพของรัฐแคลิฟอร์เนีย (CA Department of Health Care Services) ที่ www.dhcs.ca.gov
ผู้ปกครองท่านใดที่ต้องการความช่วยเหลือในการติดต่อรับเมดิ-แคล ให้กับลูกหลาน สามารถขอความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำจากองค์กรของคนไทยที่มีอยู่หลายแห่ง เช่นศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน 323-661-2008, ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย 323-468-2555 หรือศูนย์เอเชียนแปซิฟิกเฮลท์แคร์เวนเจอร์ (สุธาดา นันทพันธ์) ที่หมายเลข 323-644-3882
ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ชื่อว่าเป็นรัฐแรกที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพกับเยาวชนที่อยู่อย่างผิดกฎหมายทั่วทั้งรัฐ ส่วนรัฐอื่นๆ เช่น แมสซาชูเส็ทท์, อิลลินอยส์, นิวยอร์ค, วอชิงตัน และวอชิงตัน ดีซี มีเพียงโปรแกรมเสริมสำหรับดูแลเยาวชนในกลุ่มนี้เท่านั้น ไม่ได้ผ่านเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ทั่วทั้งรัฐเหมือนแคลิฟอร์เนีย.