อยู่แอลเอแบบแฮปปี้ ต้องเงินเดือน 205K
ข่าวนี้คงทำให้ชาวแอลเอ ค่อนเมือง “ไม่แฮปปี้” เพราะเนื้อข่าวบอกว่าถ้าจะอยู่ในแอลเอ แบบชิวๆ คุณต้องมีเงินเดือนประมาณปีละ 204,855 ดอลลาร์
โดยซีบีเอส รายงานข่าวนี้เมื่อวันที่ 26 พฤศจกายนที่ผ่านมา โดยอ้างถึงผลสำรวจความเห็นประชาชน จัดทำโดย Purdue University ในรัฐอินเดียน่าและเว็บไซต์ GoBankingRates.com ที่ตั้งคำถามเอาไว้ถึง “จำนวนเงิน” ที่จะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าชีวิตอยู่ในจุดที่พึงพอในทุกๆ ด้าน (life satisfaction) ซึ่งผู้ทำสำรวจระบุว่า เป็นจุดที่มีอิทธิพลจากการตั้งเป้าหมายสูงสุดของชีวิต และการเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ลอส แอนเจลิส ไม่ใช่เป็นเมืองที่ต้องใช้เงินมากที่สุดในการสร้างความรู้สึก “พึงพอใจ” ในทุกด้านให้กับชีวิต เพราะอันดับหนึ่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย คือซานฟรานซิสโก ที่ผลสำรวจพบว่าจะต้องมีเงินเดือนสูงถึงปีละ 320,000 ดอลลาร์ หรือเดือนละ 26,600 ดอลลาร์ จึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้แบบมีความสุขสูงสุด
ผลการสำรวจพบว่ เงินเดือนปีละ 204,855 ดอลลาร์ คือจำนวนเงินที่ “จำเป็น” หากต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในลอส แอนเจลิส
ขณะที่เมือง ลองบีช เป็นเมืองที่ผู้คนมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเงินมากนัก กล่าวคือมีเงินเดือนปีละ 186,000 ดอลลาร์ก็เพียงพอ ถือว่าเป็นยอดเงินที่แพงกว่าซานดิเอโก้ (186,000 ดอลลาร์) เล็กน้อย
ส่วน เฟรสโน่ ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย เป็นเมืองที่ความสุขมีราคาถูกที่สุด เพราะผลสำรวจบอกว่าผู้คนสามารถมีความสุขในเมืองเกษตรกรรมแห่งนี้ได้ด้วยเงินเดือนเพียง 113,000 ดอลลาร์เท่านั้น
ลดค่าธรรมเนียม “รับเลี้ยงหมา-แมว” ช่วงแต๊งส์กีฟวิ่ง
หากคุณมีแผนที่จะรับอุปการะน้องหมาหรือน้องแมวนักตัว ช่วงนี้คือช่วงที่เหมาะที่สุด โดยสำนักงานดูแลสัตว์ของลอส แอนเจลิส (L.A. Animal Services) แถลงเมื่อต้นสัปดาห์ว่า จะทำการลดราคาค่าธรรมเนียมในการรับอุปการะสัตว์เป็นกรณีพิเศษ ในช่วงสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าปีนี้
โดยตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน เรื่อยไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม ผู้ยื่นขอรับอุปการะสุนัข จะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 52 ดอลลาร์ หรือหากเป็นลูกสุนัข จะขยับขึ้นมาเป็น 75 ดอลลาร์ บวกกับค่าใบอนุญาตเลี้ยงสุนัข (license fee) อีก 20 ดอลลาร์
ส่วนแมว และลูกแมวนั้น สามารถขอรับอุปการะได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยสำนักงานดูแลสัตว์ของเทศบาล บอกว่าสามารถทำได้เพราะได้รับเงินกองทุนมาจากสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งอเมริกา สำหรับการนี้โดยเฉพาะ
ส่วนกระต่ายนั้น สามารถขอรับอุปการะได้โดยเสียค่าธรรมเนียมเพียง 57.50 ดอลลาร์
ทั้งนี้ สัตว์ที่ได้รับการอุปการะทุกตัว ทางสำนักงานฯ จะทำการฉีดวัคซีนที่จำเป็น, ทำหมัน และฝังไมโครชิป ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
รายละเอียดอื่นๆ ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ laanimalservices.com.
ผวา “อีโคไล” ในผักกาดอีกรอบ
ผักกาดโรเมน (Romaine Lettuce) สร้างกระแสกวาดผวาให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้อีกครั้ง หลังพบปนเปื้อนเชื้อ อีโคไล ซึ่งข่าวเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกาย ระบุว่ามีผู้ป่วยจากเชื้ออีโคไล ในผักกาดโรเมนแล้วถึง 67 รายในหลายรัฐ มากที่สุดคือรัฐวิสคอนซิน (21 ราย) โอไฮโอ 12 ราย และแคลิฟอร์เนีย 4 ราย
โดยผักกาดโรเมน ที่ก่อปัญหาครั้งล่าสุดนี้ เป็นผักที่ปลูกในเมืองซาลินาส เมืองเกษตกรรรมในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ดังนั้นจึงมีการเตือนผู้บริโภคว่าอย่าบริโภคผักที่ปลูกในพื้นที่ดังกล่าวนี้ ทั้งที่จำหน่ายทั้งต้น (head), ใบอ่อนด้านใน (hearts of romaine), ออร์กานิก, ผักสลัดรวม (salad mixes) หรือผักที่หั่นมาแล้ว (precut lettuce)
ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของรัฐบาลกลาง ระบุว่าผักที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จะมีป้ายบ่งชี้ถึงแหล่งที่มา และแนะนำผู้บริโภคตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อ และไม่มีป้ายดังกล่าว ให้พยายามหลีกเลี่ยง เพราะการนำผักมาล้างหรือปรุงด้วยความร้อน จะไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคอันตรายชนิดนี้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
คำแนะนำดังกล่าวรวมไปถึงการตรวจสอบผักในตู้เย็นด้วย หากไม่แน่ใจว่าเป็นผักจากพื้นที่ไหน ควรทิ้งลงถึงขยะ รวมถึงแนะนำให้ผู้บริโภคทำความสะอาดช่องเก็บผักในตู้เย็นด้วย
ที่ผ่านมา เชื้ออีโคไลน์ เคยระบาดรุนแรงหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในหลายรัฐเมื่อช่วงเดียวกันของปี 2018 และจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเพราะเหตุใด เชื้อโรคที่มีต้นกำเนิดจากอุจจาระของสัตว์ จึงระบาดได้แทบทุกปี
โดยเชื้อแบคทีเรียอีโคไล มีฤธิ์ทำให้ปวดท้องรุนแรง ท้องร่วง ถ่ายเป็นเลือด คลื่นไส้อาเจียน และอาจเกิดอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (Hemolytic Uremic Syndrome –HUS) ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก จนกระทั่งไตวายเฉียบพลัน.
เปิดช่องวิ่งจักรยานแบบ “ทูเวย์” ในดาวน์ทาวน์
เมื่อเช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน 2019 สมาชิกสภาเมือง โฮเซ่ ฮุยซาร์ และเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของแผนกขนส่งมวลชนของเทศบาลเมืองแอลเอ อีกหลายคน ร่วมกันทำพิธีเปิดทางวิ่งรถจักรยานแบบ “ทูเวย์” จุดที่สอง ในดาวน์ทาวน์ ลอส แอนเจลิส
เลยช่องวิ่งของรถจักรยานแบบสวนกันได้ดังกล่าวนี้ จะเชื่อมต่อเป็นวงกลมกับจุดแรก บนถนนสปริง ที่เปิดให้ประชาชนได้ใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยช่องวิ่งจักรยานแบบทูเวย์ดังกล่าว ถือว่าเป็นส่วหนึ่งของโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพการจราจร รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยของคนเดินถนน รถจักรยาน และประชาชนทั่วไปบน บริเวณถนนเมนและสปริงในดาวน์ทาวน์ ที่เรียกว่า Main and Spring Forward มูลค่า 2.3 ล้านดอลลาร์ของเทศบาล.