ดูโลก ดูธรรม และดูใจ
โดย ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา
ท่าทีต่อภาพศิลป์ “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน”








สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทุกคนกำลังใจจดใจจ่อ อยู่กับข่าวน้ำท่วมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนหลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอิสาน และข่าวการที่คนไทยใจดีทั้งหลายได้ร่วมกันเสียสละกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ พลันก็มีข่าวใหญ่ที่ทำให้ทุกคนที่ติดตามข่าวคราวทางการเมืองและสังคมต้องหันกลับมามองข่าวใหม่อย่างฉับพลัน ข่าวเด่นที่ว่านี้มีสาระสั้นๆว่า นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดนครราชสีมาคนหนึ่ง ได้วาดภาพกึ่งพระพุทธรูปกึ่งอุลตร้าแมนออกมาแสดงที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา หลังจากภาพชุดนั้นถูกแสดงไม่นาน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ดังกระหึ่มไปทั่วโซเชียลและสื่ออื่นๆอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว

ในฐานะผู้ติดตามข่าว ที่สามารถหาได้อย่างจำกัดไม่ครบถ้วนจึงไม่กล้าจะยืนยันฟันธงลงไปได้ชัดๆว่า การนำเสนอศิลปะที่เกี่ยวพระพุทธรูปและการ์ตูนญี่ปุ่นผสมกันครั้งนี้ จะถูกหรือผิดอย่างไร จึงขอติดตามข่าวตามประสาผู้บริโภคข่าวและความเห็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในระยะห่างๆ เพราะถ้าเข้าใกล้เกินไปและร่วมแสดงควาเห็นด้วยอย่างจริงจัง อาจจะเจอรังสีอำมหิตของชาวโซเชียลผู้รักเสรีภาพในการแสดงความเห็นอย่างไม่มีทางเลี่ยง ครั้นจะปิดหูปิดตาไม่รู้ไม่ชี้ก็ดูจะปล่อยปละละเลยจนเกินไป เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นถึงจะอยู่ไกลเป็นหมื่นไมล์ แต่อยู่ใกล้ชิดจิตใจเหลือเกิน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธปฏิมาที่กราบไหว้อยู่วันละสิบกว่าครั้งก่อนและหลังอาหาร
   
หลังจากได้รับข่าวและอ่านคำวิจารณ์ทางสื่อออนไลน์ผ่านๆ ก็พบว่า สงครามทางความคิดเห็นเกิดขึ้นแล้ว คนที่มีความเห็นด้วยและเห็นต่างกำลังโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน วจีทุจริตไม่ว่าจะเป็น พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียดหรือพูดเพ้อเจ้อถูกนำมาใส่ในคำถกเถียงโต้แย้งอย่างไม่ยั้ง เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้หวนคิดถึงคติธรรมที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านได้ให้ไว้หลายปีแล้วว่า บางครั้งเวลามีปัญหาท้าทายใดๆ ไม่ว่า ทางสังคม การเมือง หรือ ศาสนา ประชาชนมักจะใช้ความคิด ความเห็นในการตัดสินความถูกผิด มากกว่าจะใช้ความรู้และความจริง เมื่อใช้เพียงความคิดและความเห็น ก็จะไม่มีหลัก จึงพบว่า เวลามีปัญหาที่จะต้องเผชิญ ตัดสินหรือแก้ไข ต้องทำไปอย่างไร้หลัก จึงต้องเสียหลักกันบ่อยๆ
   
 อาตมาระลึกถึงคติธรรมนี้ได้จึงพยามเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายในเวลาจำกัด จึงได้ภาพรวมที่พอจะสรุปข้อถกเถียงกันได้ว่า

1 พุทธศาสนิกชนบางกลุ่มเมื่อติดตามข่าวเหล่านี้ด้วยความเพลิดเพลินแล้ว ระลึกได้ว่า คำสอนอันเป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่องหนึ่งชาวพุทธควรตระหนักและปฏิบัติ คือ เรื่องความปล่อยวาง ต่อกรณีนี้ เมื่อได้รู้ได้เห็นแล้วก็ยกใจให้อยู่เหนือความยินดีและยินร้าย เพียงรับ รู้ ดู เห็น แล้วปล่อยวางไป ไม่ต้องมีปฏิกิริยาใดๆไม่ว่าบวกหรือลบ เพราะถ้าเข้าถึงการปล่อยวางย่อมอยู่เหนือบวกและเหนือลบ พุทธศาสนิกชนกลุ่มนี้แสดงความเห็นว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวางมิใช่หรือ จะยึดถึอไปทำไมให้หนัก วางลงเสีย จะได้เบาใจ ไม่ทุกข์ไม่ร้อน

2 พุทธศาสนิกชนกลุ่มที่ 2  ถือธรรมเป็นใหญ่ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นพระตถาคต” พระพุทธเจ้าองค์ธรรมหรือองค์จริง ไม่ใช่อิฐ ปูน หรือ ภาพวาด แต่มีในใจทุกดวงที่รู้ ตื่น เบิกงาน เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็ไม่ควรไปถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน แต่ควรจะมองว่า พระพุทธเจ้าองค์แท้อยู่ที่ใจ ไม่ควรจะนำเรื่องนี้มาทะเลาะวิวาทกัน เพราะถ้าเชื่อมั่นในพระคุณของพระพุทธเจ้าจะไม่ถกเถียง หรือ กล่าวร้ายด้วยเรื่องวัตถุภายนอกให้เสียเวลาและเสียพลังงาน กลับมาหาพระพุทธเจ้าภายใน ตามที่พระองค์ตรัสไว้เถิด ไม่มีใครทำร้ายพระพุทธเจ้าได้เลย เมื่อธรรมะเป็นอมตะ พระพุทธเจ้าก็เป็นอมตะ ดั่งคำว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา นั่นเอง

3 พุทธศาสนิกชนอีกกลุ่มหนึ่งที่นิยมกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวัดวาอาราม ศาสนสถานหรือในบ้านเรือน แสดงความคิดเห็นว่า การนำพระพุทธรูปไปวาดออกมาเป็นกึ่งพระพุทธรูปกึ่งการ์ตูน เป็นการกระทำที่ไม่สมควร แม้จะเป็นจินตนาการแต่ค่อนข้างจะเป็นจินตนาการที่วิตถาร ที่ศิลปินยิ่งใหญ่ในอดีตไม่เคยทำมาก่อน คนที่วาดภาพจะต้องฉุกคิดก่อนว่า ทำไมศิลปินใหญ่อย่างอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งเป็นศิลปินตัวพ่อจึงไม่สร้างงานที่หลุดกรอบในแนวนี้บ้าง งานของอาจารย์เฉลิมชัย มีแต่ความอ่อนช้อยมองแล้วสงบเย็นประหนึ่งได้สัมผัสพระคุณอย่างลึกล้ำ สถานะแห่งพระพุทธรูปของชาวพุทธส่วนใหญ่ คือ พระพุทธปฏิมา แปลว่า สิ่งแทนพระพุทธเจ้า คือได้กราบพระพุทธรูปเมื่อใดให้นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติ แต่ถ้าภาพนี้ออกมาจะนำไปวางไว้กราบไหว้บูชาจะเหมาะสมไหม เมื่อได้กราบไหว้แล้ว มิต้องรำลึกถึงอุลตร้าแมนไปด้วยหรือ แทนที่กราบพระพุทธเจ้าแล้วใจสงบ กลับต้องนึกถึงการ์ตูนผู้ปกป้องโลกให้ฟุ้งซ่านไปอีก

4 พุทธศาสนิกชนอีกกลุ่มหนึ่งฟันธงลงไปตามอารมณ์ที่ขุ่นมัวเคืองแค้นว่า  การวาดภาพออกมาแบบนี้มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธเจ้าเป็นแน่นอน เป็นการลดพระเกียรติของพระองค์ที่เป็นศาสดาของโลกซึ่งประวัติศาสตร์ยืนยันว่า เป็นมหาบุรุษที่ประกาศคำสอนเพื่อสร้างสันติภาพให้แก่มวลมนุษย์ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ลงมาเท่ากับการ์ตูนญี่ปุ่นตัวหนึ่ง มองภาพภายนอกผ่านเครื่องแต่งกายพระองค์ทรงสบงจีวรอันเป็นเครื่องหมายของสมณะ แต่ภาพนี้ได้นำเอากางเกงของอุลตร้าแมนมาสวมใส่แทน ซึ่งกลุ่มที่เคารพบูชาพระพุทธเจ้าผ่านพระพุทธปฏิมาที่คุ้นเคยกับเครื่องทรงเช่นนี้มาชั่วลูกชั่วหลาน ก็จะรับไม่ได้ หรือดูง่ายๆ ประเทศญี่ปุ่นเองเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัดวาอาราม มีพระพุทธรุปใหญ่น้อยมากมาย แม้จะเป็นบ้านเกิดของอุลตร้าแมน แต่ไม่เคยมีศิลปินใหญ่คนไหน หรือไม่เคยมีเยาวชนญี่ปุ่นคนไหนเคยวาดภาพแบบนี้มาก่อน

มองในเชิงอุดมคติที่ผู้เขียนภาพให้เหตุผลว่า อุลตร้าแมน ปกป้องคุ้มครองโลกเหมือนพระพุทธเจ้า ฟังดูแล้วน่าจะฟังได้ แต่ในเรื่องของการคุ้มครองรักษานั้น วิธีการคนละอย่างเป็นเส้นขนานกันทีเดียว พระพุทธเจ้าใช้ธรรมาวุธปราบปรามกิเลสภายใน มิได้รบราฆ่าฟันกับใคร มีแต่สอนให้เมตตาต่อกัน พระองค์สอนว่า เมตตากรุณา ความละอายชั่วกลัวบาป คือ คุณธรรมที่จะป้องกันคุ้มครองโลก พิทักษ์รักษามนุษย์ เป็นการเดินตรงสู่สันติภาพ ส่วนอุลตร้าแมนแม้จะมีเจตนาพิทักษ์รักษาโลก จากผู้รุกราน แต่อุลตร้าแมนใช้ความรุนแรงในการพิทักษ์ ซึ่งแรงบันดาลใจของคนสร้างอุลตร้าแมน น่าจะมาจากบทเรียนการที่ญี่ปุ่นเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยสงครามอย่างรุนแรงตลอดมา จึงต้องการสร้างผู้พิทักษ์ขึ้นมาเป็นกำลังใจให้ชาวญี่ปุ่นดำเนินชีวิตอย่างมั่นใจ เพราะมีผู้พิทักษ์ให้พ้นภัยได้ แต่แรงบันดาลใจของคนที่วาดหรือปั้นพระพุทธรูปตั้งแต่ยุคโบราณกาลมาวางอยู่บนฐานแห่ง พระมหากรุณาธิคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณ

บางคนกล่าวว่า การวาดภาพพระพุทธรูปผสมอุลตร้าแมน ไม่เพียงหลบหลู่ดูหมิ่นเท่านั้น แต่ยังเข้าขั้นทำลายทีเดียว นั่นก็คือ ทำลายเอกลักษณ์ของพระพุทธรูป และทำลายเอกลักษณ์ของอุลตร้าแมนไปพร้อมๆกัน บางทีคนรักอุลตร้าแมนอาจจะไม่ยอมก็ได้ เพราะคนเขียนภาพได้ทำศัลยกรรมอุลตร้าแมนจนหัวหายไป ต้องนำเศียร พระพุทธรูปมาใส่แทน ลองคิดดูซิว่า ถ้าคุณนับถือฮีโร่คนใด แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาถูกจับไปตัดหัวแล้วเอาหัวคนอื่นมาแทน ถ้าคุณรักจริงคุณจะเสียใจไหม ขอให้ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ไว้ด้วยก็แล้วกัน ไปนำอุลต้าแมนวีรบุรุษาของเขามาตัดต่อพันธุกรรมแบบนี้ จะเป็นการลอกแบบมาไม่หมดจะเจอเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์แล้วจะทำอย่างไร แม้ชาวพุทธกลุ่มนี้จะรู้สึกว่าไม่สบายใจถึงขั้นให้เธอขอขมา เป็นมาตรการที่ยังมีเมตตากรุณาต่อกัน ดังที่ท่านเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ กล่าวในการรับขมาจากเธอว่า เมื่อสำนึกผิดก็ต้องให้อภัย อย่าไปถือโทษโกรธกัน เป็นอันว่าทั้งเจ้าของผลงานและท่านเจ้าคณะจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว  การหันหน้าเข้าหากันทำความเข้าใจกัน การที่ต่างฝ่ายต่างได้สติ เรียนรู้ร่วมกันแล้วปล่อยให้เรื่องร้ายๆผ่านไปตามกาลเวลา ย่อมเป็นการแก้ปัญหาแบบวิถีพุทธที่หวังว่า ความสงบจบเรื่องจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

5 เมื่อประมวลเหตุการณ์ต่างๆมาให้ฟังแล้ว อาตมามีความเห็นว่า ความคิดความเห็นและบทวิจารณ์ต่างๆ ทำให้เจ้าของผลงานชิ้นนี้รู้สึกชอบชังสลับกันไปตามข้อมูลข่าวสารที่ได้รับหลายวันติดต่อกัน อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ปรมาจารย์และศิลปินใหญ่ที่มีผลงานเชิงพุทธศิลป์เป็นที่ประจักษ์เป็นห่วงว่า เจ้าของผลงานชิ้นนี้จะตกใจ หวาดหวั่นจนไม่กล้าแสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งอาจารย์กล่าวว่า ความกลัวนี้จะขยายไปยังคนอื่นๆ ที่กำลังสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ต้องหวาดกลัว และหยุดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมา

อาตมาเห็นด้วยกับอาจารย์ทุกประการ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของผลงานว่า สติเท่านั้น ที่ใช้ได้ดีทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลารุ่งเรือง หรือ วิกฤต ดั่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า สติ จำปรารถนาในที่ทั้งปวง แปลว่า ไม่ว่าเวลาไหน สถานที่ใด พกพาสติไปด้วยได้ช่วยกลั่นกรองป้องกันความผิดพลาด

และ ขอฝากหลักธรรมประจำชีวิตศิลปินที่จะต้องก้าวเดินต่อไป ธรรมะที่จะให้นี้จะเป็นยันต์เกราะเพชร ป้องกันตัวได้... ทุกครั้งที่จะสร้างงานใหม่ๆ จงระลึกไว้เสมอว่า งานที่กำลังจะลงมือทำและเสนอออกไปยังชนหมู่มากนี้ จะทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ จะทำให้ตนเป็นทุกข์ไหม จะทำให้ทั้งตนและคนอื่นเป็นทุกข์ไหม จะเพิ่มทุกข์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตไหม ถ้าสร้างงานไปแล้ว ไม่เข้ากรอบนี้ เป็นการสร้างงานนอกกรอบที่ไม่เบียดเบียนใคร ทำได้เลย ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสว่า “สติมโต สทา ภัททัง แปลว่า ผู้มีสติ เป็นผู้เจริญทุกเมื่อ” ต้องเดินทางเจริญ แล้วพบความเจริญแน่ๆ

ประมวลความคิดเห็นต่างๆมาเล่าสู่กันฟังยาวพอสมควร ต้องขอยุติไว้แค่นี้ ท่านทั้งหลายอ่านกันแล้ว ช่วยกันสรุปให้ด้วย ท่ามกลางเสียงแห่งความขัดแย้ง มีความสวยงามประการหนึ่งโผล่ขึ้นมากลางวงแห่งความขัดแย้งคือ ทุกความคิดเห็นมาจากความปรารถนาดีตามวิถีที่ตนเห็นว่า ควรจะเป็น หากได้นำเอาความเห็นแย้งกันครั้งนี้มาพิจารณาให้ดี รอบคอบ พร้อมเปิดใจกว้างปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสม ความเจริญรุ่งเรืองในด้านภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์จะพัฒนาไปไม่น้อยเลย

วันที่ 9 กันยายน 2019, 9/9/19 เวลา 17.05 น.
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
.
.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
12-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 50 สุดทางสายบาลี (0/2827) 
06-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 49 ฝึกฝนตนที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ (0/656) 
28-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 48 สอบได้แต่แม่เสีย (0/622) 
20-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 47 สอบเปรียญธรรม 7 ประโยคได้ (0/689) 
07-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 46 กราบหลวงพ่อปัญญานันทะ (0/676) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข