เมื่อ 20 ต.ค.60 สื่อต่างประเทศรายงาน เอเรียนา ออสติน หญิงสาวชาวอเมริกัน วัย 33 ปี ผู้แสนจะโชคดี ได้เข้าพิธีวิวาห์อย่างหรูหรากับเจ้าชายแห่งเอธิโอเปียเมื่อเดือนก่อนจนเธอ กลายเป็นเจ้าหญิง เปิดใจถึงตำนานรักดุจเทพนิยาย ได้มาเจอเจ้าชายอย่างไม่คาดฝัน ว่า เธอได้พบกับเจ้าชายโจเอล ครั้งแรก ที่ไนต์คลับ เพิร์ล ในกรุงวอชิงตัน ดี ซี เมื่อธันวาคม ปี 2548 ซึ่งตอนนั้นเธอไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นเจ้าชาย เพราะเขาได้เข้ามาแนะนำตัวเองว่า ชื่อ โจเอล มาคอนเนน


ออสติน เล่าว่า หลังจากเจ้าชายโจเอลเข้ามาขอทำความรู้จักเธอแล้วนั้น ไม่ถึง 5 นาทีต่อมา เขาได้เอ่ยปากขอเธอเป็นแฟน และภายหลังได้ออกเดต คบหาเป็นแฟนอย่างจริงจังแล้ว โจเอล มาคอนเนน ซึ่งทำงานเป็นทนายความ จึงเพิ่งเปิดเผยความจริงกับเธอว่าเขาเป็นเจ้าชายแห่งเอธิโอเปีย


ตามรายงานของนิวยอร์ก ไทม์ส ระบุว่า เจ้าชายโจเอล เป็นพระราชปนัดดา (เหลน) แห่งอดีตจักรพรรดิองค์สุดท้าย ไฮเล เซลาสซี แห่งราชวงศ์ โซโลโมนิค แห่งเอธิโอเปีย ขณะที่ออสติน ก็มีสายเลือดผู้ดีเช่นกัน เพราะเธอเป็นหลานของตา ซึ่งเป็นท่านลอร์ดแห่งกูยานา เป็นนายกเทศมนตรีแห่งกรุงจอร์จทาว์น เมืองหลวงของกายานา ในทวีปอเมริกาใต้ และออสตินจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 


ข่าวแจ้งว่า หลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันมา 12 ปี ในที่สุด เจ้าชายโจเอล ได้เอ่ยปากขอแต่งงานและได้เข้าพิธีวิวาห์กับออสติน เมื่อ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมปฏิบัติของนิกายออร์โธดอกซ์เอธิโอเปีย ณ โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองเทมเปิลส์ รัฐแมริแลนด์ โดยในพิธีสมรส มีบาทหลวงมาประกอบพิธีแต่งงานถึง 13 คน มีการสวมมงกุฎและเสื้อคลุมของราชวงศ์เอธิโอเปียด้วย


ข่าวแจ้งว่า เจ้าชายโจเอล ทรงถือกำเนิดที่กรุงโรม เมืองหลวงอิตาลี เนื่องจากพระบิดา-พระมารดา เจ้าชายเดวิด มาคอนเนนและเจ้าหญิงเอเดย์ อิมรู มาคอนเนน ทรงถูกบังคับให้เสด็จลี้ภัยในต่างแดน หลังจากกองกำลังนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ก่อปฏิวัติในเอธิโอเปีย โดยพระบิดาของพระองค์ได้ทรงหนีเหตุรุนแรงนองเลือดในประเทศ เพราะขณะนั้นกำลังทรงศึกษาอยู่ในต่างแดน จากนั้นจึงทำให้ครอบครัวของพระองค์ได้ทรงพำนักอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ส่วนกษัตริย์ไฮเล เซลาสซี ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 225 และองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เอธิโอเปีย ประเทศทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ยาวนานถึง 40 ปี ก่อนจะถูกโค่นบัลลังก์ในปี 2517