เมื่อวันที่ 4 เมษายน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งสารแสดงความเสียใจถึงนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย และนายเซร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ตามลำดับ โดยสารของนายกรัฐมนตรีมีใจความว่า “ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ผมขอแสดงความแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังคุณ และไปยังครอบครัวของผู้บริสุทธิ์เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์โจมตีที่หน้าขนลุกใส่ระบบรถไฟใต้ดินของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 3 เมษายน เราขอส่งกำลังใจและสวดภาวนาร่วมไปกับชาวรัสเซียในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้”
“ไทยในฐานะมิตรประเทศของรัสเซียขอประณามพฤติกรรมรุนแรงที่ไร้สำนึกและน่าขนลุกนี้ และขอย้ำพันธสัญญาที่จะร่วมมือกับรัสเซียในประชาคมนานาชาติในการต่อสู้กับความรุนแรงและการก่อการร้ายในแทบทุกรูปแบบ และป้องกันไม่ให้พฤติกรรมที่ไม่อาจยอมรับได้เช่นนี้เกิดขึ้นอีก” สารของนายกรัฐมนตรีระบุ
ขณะที่สารของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ส่งถึงรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียมีใจความว่า “ผมรู้สึกตกตะลึงและโศกเศร้าที่ได้ทราบถึงเหตุการณ์วางระเบิดรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก”
“ไทยในฐานะมิตรประเทศของรัสเซีย ขอร่วมกับรัสเซียและประชาคมนานาชาติ ในการประณามพฤติกรรมรุนแรงที่เลวร้ายนี้ รัฐบาลไทยของสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียในความพยายามต่อสู้กับความรุนแรงทุกรูปแบบ ผมขอแสดงความแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังคุณ และไปยังครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ เราขอยืนเคียงข้างอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับรัสเซียและประชาชนชาวรัสเซียในระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ตามที่เมื่อวันที่ 3 เมษายน เวลาประมาณ 14.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ได้เกิดเหตุระเบิดในขบวนรถไฟใต้ดินที่สถานีเซนนายาสแควร์และสถานีเทคโนโลจิเชสกี อินสติติวท์ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย (อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 700 กิโลเมตร) นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์และพัฒนาการอย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ซึ่งได้ประสานกับกลุ่มคนไทยและสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กว่า ขณะนี้ ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป
ภายหลังเกิดเหตุ ทางการรัสเซียได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉพาะสนามบินปุลกาวา นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโก และสนามบินวนูกาวา ในกรุงมอสโก อย่างไรก็ดี ขอแนะนำให้ประชาชนชาวไทยที่พำนักอยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และที่กำลังจะเดินทางไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารของทางการสหพันธรัฐรัสเซียได้ที่หน้าเฟซบุ๊กเพจของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่ https://www.facebook.com/rtemoscow หรือจากช่องทางอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้อย่างใกล้ชิด เพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงและสามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้ที่หมายเลข +7 916 939 2155 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
อนึ่ง มีคนไทยอาศัยอยู่ในสหพันธรัฐรัสเซียประมาณ 2,000 คน