ศศิกานต์ เล่าว่า ได้ร่วมกับน้องชายทำเสื้อผ้าแบรนด์ Sibling มาได้ประมาณ 8 เดือน โดยเปิดร้านอยู่ที่ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของดีไซน์เนอร์ไทย เพราะทางห้างเปิดพื้นที่ให้กับเหล่าดีไซน์เนอร์คนไทย ได้มาโชว์ผลงานเปิดร้านกันที่นี่ และเป็นช่องทางการขาย ที่ชาวต่างชาติและคนไทยนิยมมาเดินชอปปิ้ง เพื่อเลือกเสื้อผ้าแบรนด์ดีไซน์เนอร์ ซึ่งตรงกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้

          ที่ผ่านมาพื้นที่บนชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ นั้นหาพื้นที่ว่างได้ยากมาก เพราะดีไซน์เนอร์หลายคนก็ต้องการพื้นที่ตรงจุดนี้ ซึ่งกว่าเราจะได้พื้นที่ก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน และค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง แต่จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริงๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เหมือนเป็นการทดสอบตลาดด้วยว่าต่างชาติ โดยเฉพาะคนเอเชีย ให้ความสนใจกับเสื้อผ้าที่เราออกแบบมากน้อยแค่ไหน เพราะในอนาคตวางแผนที่จะไปเปิดตลาดในประเทศแถบเอเชีย และที่สำคัญการเปิดร้านที่นี่ทำให้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง ดีไซน์เนอร์คนไทยด้วยกัน

          ส่วนจุดเด่นเสื้อผ้าแบรนด์ดีไซน์เนอร์คนไทย คนเอเชียด้วยกันจะเข้าใจแบบเหมาะสมกับแฟชั่นคนเอเชีย ซึ่งปัจจุบันสังเกตเห็นว่าคนเอเชียแต่งตัวเก่งกว่าคนในแถบยุโรปด้วยซ้ำ ดูได้จากแฟชั่นการแต่งตัวของคนทั่วไปตามท้องถนน โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือ แม้แต่คนไทย ก็แต่งตัวแฟชั่นมากกว่าในอดีตมาก ในขณะที่คนยุโรป ปัจจุบัน ไม่ค่อยแต่งตัวมากรูปแบบเป็นแบบดูเรียบง่าย ดังนั้น เราจึงมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าในแถบเอเชียด้วยกันมากกว่า และงานออกแบบแฟชั่นของร้านเรา ออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเอเชีย และคนไทย และสิ่งสำคัญเสื้อผ้าดีไซน์เนอร์จะมีแบบที่ไม่ซ้ำกันมากนัก แต่ละแบบจะตัดเย็บมาเพียงไม่กี่ตัว ดังนั้นคนซื้อไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ซ้ำกับใคร

          สำหรับในวงการแฟชั่นเสื้อผ้า ปัจจุบันเริ่มได้เห็นผลงานการออกแบบของดีไซน์เนอร์คนไทย เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และศูนย์การค้าหลายแห่ง ก็ให้การยอมรับและเปิดพื้นที่ให้กับดีไซน์เนอร์เหล่านี้ ได้มาใช้พื้นที่โชว์สินค้าและโลดเล่นอยู่ในวงการแฟชั่นเมืองไทย ในส่วนของร้าน Sibling เราต้องการเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าให้การยอมรับ ในผลงานและคุณภาพ เสื้อผ้ามากกว่าที่มาซื้อเพราะเห็นว่าเราเป็นดารานักแสดง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นร้านของเราก็จะอยู่ได้ไม่นาน

          Sibling เป็นแบรนด์ ที่เราสองพี่น้องทำร่วมกัน ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะทำผลิตภัณฑ์ในส่วนอื่นๆ อีกหลายอย่างภายใต้แบรนด์ดังกล่าวนี้ด้วย แต่ในส่วนของร้านเสื้อผ้าที่เปิดอยู่ในขณะนี้ น้องชายไม่ได้ออกแบบเฉพาะเสื้อผ้า แต่มีเครื่องแต่งกายครบชุด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผู้หญิง ผู้ชาย รองเท้า เครื่องประดับ กระเป๋า ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกเสื้อผ้า เครื่องระดับ และรองเท้า ในสไตล์ของ Sibling

           “โดยเสื้อผ้าที่เราออกแบบ จะเน้นให้สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเราสองคนจะช่วยกันออกแบบ โดยน้องชายจะได้ประสบการณ์จากการทำงานด้านการออกแบบอยู่แล้ว ส่วนเอ๊ะก็อยู่ในวงการแฟชั่น เป็นนางแบบ ก็ได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้มาบ้าง เหมือนเป็นเรื่องใกล้ตัว ก็นำมาปรับใช้กับร้านเสื้อผ้าได้บ้าง แต่หลักๆน้องชายจะเป็นคนดูแล โดยจะให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกผ้า หรือแม้แต่กระดุมเราก็ใส่ใจ ไปจนถึงขั้นตอนการตัดเย็บมีช่างตัดเย็บที่มีฝีมือ ดังนั้นเสื้อผ้าของเราไปอยู่ตรงไหนเราก็จะจำได้เสมอ”

          ทั้งนี้ ในส่วนของรูปแบบจะมีการออกคอลเลคชั่นใหม่ทุก 5 เดือน เหมือนกับดีไซน์เนอร์ทั่วไป แต่ถ้าในช่วงระหว่างรอออกคอลเลคชั่นใหม่ เราก็มีคอลเลคชั่นย่อย ออกมาตามความพึ่งพอใจ ของดีไซน์เนอร์ คือ เราพอใจแบบนี้ต้องการจะตัดเย็บมาขายที่ร้านอาจจะทำออกมาเพียง 1-2 ตัว เพื่อให้ลูกค้าประจำที่ได้เห็นรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเวลา กลุ่มลูกค้าเฉลี่ยอายุประมาณ 20 ปีไปจนถึง 35 ปี

          “แรงบันดาลใจเกิดมาจาก ตนเองเป็นดาราและได้ใกล้ชิดกับเรื่องราวของแฟชั่น การแต่งตัวมาตลอด ทำให้พอรู้เรื่องของแฟชั่นเสื้อผ้าอยู่บ้าง ประกอบกับน้องชายมีความรู้เรื่องของงานออกแบบ โดยเรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์ จาก Raffles Design Institutle ทำให้สามารถทำงานตรงนี้ได้อย่างลงตัว และเราสองคนก็มีความสุขเพราะได้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบ เป็นธุรกิจส่วนตัวไม่ต้องมีเจ้านาย ส่วนโอกาสคืนทุนตั้งไว้ 3-5 ปี ซึ่งเราให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับการช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมการส่งออก ตามนโยบายผลักดันดีไซน์เนอร์คนไทยไปเปิดตลาดต่างประเทศในรูปแบบของการสร้าง แบรนด์ด้วย”