“นิรโทษกรรมสากล” ชี้รัฐใช้ “เอไอ” สปายนักเรียนต่างชาติ
แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : “นิรโทษกรรมสากล” กล่าวหารัฐบาลทรัมป์ ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สอดแนมนักศึกษาต่างชาติในสหรัฐอเมริกา
องค์กรนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในอังกฤษ ระบุเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังใช้ ปัญญาประดิษ หรือ เอไอ ในการสอดนามพฤติกรรมของนักศึกษาต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของ “ปฏิบัติกาตต่อต้านผู้อพยพ” ของรัฐบาลอเมริกา
“ทางการสหรัฐฯ กำลังใช้ระบบตรวจสอบที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยจงใจกำหนดเป้าหมายกับผู้ที่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์” แถลงของนิรโทษกรรมสากลระบุ
นิรโทษกรรมสากลบอกว่าข้อกล่าวหาดังกล่าว มาจากการตรวจสอบเอกสารที่เป็นบันทึกสาธารณะของกระทรวงความมั่นคงภายใน, เอกสารการจัดซื้อ เอไอ เรียกว่า Babel X ของ Babel Street และ Immigration OS ของ Palantir ซึ่งมีความสามารถในการติดตาม เฝ้าระวัง และประเมินบุคคลจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลใช้ เอไอ ทั้งสองรายการสำหรับติดตามเป้าหมายที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจับแล้วเพิกถอน (วีซ่า) หรือ Catch and Revoke ของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์” แถลงของนิรโทษกรรมสากล ระบุ
โดยโปรแกรม Catch and Revoke นั้น นิรโทษกรรมสากลระบุว่าเป็นโปรแกรมที่ขับเคลื่อนโดยเอไอ ที่จัดหาโดย Babel Street และ Palantir เพื่อตรวจสอบโซเชียลมีเดีย การติดตามสถานะวีซ่า และการประเมินภัยคุกคามอัตโนมัติของบุคคลต่างชาติที่ถือวีซ่า โดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติ ทำให้รัฐบาลสามารถระบุตัวบุคคล รวมถึงพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วเพื่อพิจารณาว่าควรเพิกถอนวีซ่าหรือไม่
“เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังใช้เทคโนโลยี AI รุกล้ำความเป็นส่วนตัวในบริบทของการเนรเทศครั้งใหญ่และการปราบปรามการแสดงออกที่สนับสนุนปาเลสไตน์ ซึ่งนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนมากมาย” นิรโทษกรรมสากล ระบุ และว่าประสิทธิภาพของเอไอ ทำให้เกิดการคุกคามและล่วงละเมิดสิทธิของประชาชนครั้งใหญ่ ซึ่งจะนำไปสู่การกักขังและการเนรเทศแบบผิดกฎหมายครั้งใหญ่ ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวรุนแรงขึ้นในชุมชนผู้อพยพและนักศึกษาต่างชาติในสถาบันต่างๆ”
แถลงการณ์ยังโจมตีปฏบัติการบุกจับกุมชาวต่างชาติโดยไม่มีเหตุผลที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันนี้ด้วยว่า เป็นการเพิกเฉยต่อสิทธิมนุษยชน เป็นการละเมิดสิทธิความเท่าเทียมและการเลือกปฏิบัติอย่างเปิดเผย
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความจำเป็นในการนำเอไอ เข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานของรัฐบาล แต่ไม่ได้ระบุถึงวัตถุระสงค์เกี่ยวกับ “การสอดแนม” ชาวต่างชาติ ดังที่องค์การเนรเทศสากลกล่าวหาแต่อย่างใด.
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส