รัฐบาลทรัมป์ “โจมตี” มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตแอลเอ (UCLA) อีกเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ โดยพยายามบังคับให้สถาบันฯ จ่ายค่าปรับ 1 พันล้านดอลลาร์จากข้อกล่าวหาว่ายินยอมให้มีการชุมนุม “ต่อต้านชาวยิว” ในมหาวิทยาลัย

แอลเอไทมส์ นำเสนอข่าวนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม หรือหนึ่งสัปดาห์หลังจากทรัมป์สั่งระงับเงินทุนสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยกว่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยบอกว่าหากยูซีแอลเอ ยินยอมจ่ายเงินยอมความ 1 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลกลางจะคืนเงินสนับสนุน 500 ล้านดอลลาร์ให้เหมือนเดิม

เจมส์ มิลลิเคน อธิการบดีของระบบยูซีฯ บอกว่ากำลังหาทางเจรจากับรัฐบาลกลาง เพื่อป้องกันมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ของรัฐฯ ไม่ให้ถูกทำลาย หรือได้รับความเสียหายใหญ่หลวงต่อนักศึกษาและชาวแคลิฟอร์เนียทุกคน 

“ชาวอเมริกันทั่วประเทศ ต่างพึ่งพางานสำคัญของยูซีแอลเอ และระบบยูซี ในด้านเทคโนโลยีและการแพทย์ที่ช่วยชีวิตคน พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และปกป้องความมั่นคงของชาติ” อธิการบดีของยูซี ระบุ

ก่อนหน้านี้ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมาประณามทรัมป์ที่กำลังรังแกสถาบันการศึกษาของรัฐ โดยบอกว่าระบบมหาวิทยาลัยของรัฐฯ ไม่ควร “คุกเข่า-ก้มหัว” ให้ทรัมป์เด็ดขาด

“เราไม่ใช่บราวน์ เราไม่ใช่โคลัมเบีย และผมจะไม่ได้เป็นผู้ว่าการรัฐ ถ้าเราทำแบบนั้น” นิวซัมกล่าว “ผมจะสู้สุดใจเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้น”