เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2025 ฟ็อกซ์ 5 ของซานดิเอโก้ เสนอข่าวเกี่ยวกับท่าทีของ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อกฎหมายภาษีและค่าใช้จ่ายขนาดมหึมา “Big Beautiful Bill”  ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผลักดันอย่างสุดความสามารถ จนผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และเขาสามารถลงนามรับรองไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ขณะที่ทรัมป์ยกย่องกฎหมายฉบับนี้ว่า เป็นศูนย์กลาง หรือ centerpiece ของนโยบายเศรษฐกิจของเขา แต่ นิวซัม กลับมองว่ากฎหมายนี้คือการ “ทำร้ายผู้ป่วยมะเร็ง แย่งอาหารจากเด็กๆ และขูดรีดครอบครัวที่ทำงาน เพื่อให้คนรวยและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ได้รับการลดหย่อนภาษีมากขึ้น”

“กับกฎหมายฉบับนี้ ชื่อเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้รับการตอกย้ำไปตลอดกาลว่า เป็นผู้สร้างความไม่เท่าเทียม สร้างหนี้สินและทำให้ชาวอเมริกันเสี่ยงอันตรายมากขึ้น, หน้าไม่อายจริงๆ” นิวซัมระบุ

สาระสำคัญของกฎหมายภาษีและค่าใช้จ่ายของทรัมป์ ฉบับนี้ คือการตัดลดรายจ่ายของรัฐบาลกลางเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ จากโครงการต่างๆ ที่เป็นสวัสดิการของผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ รวมถึงให้การรักษาพยาบาล ความช่วยเหลือด้านอาหาร ความช่วยเหลือด้านการศึกษา และทรัพยากรด้านความปลอดภัยสาธารณะ ขณะเดียวกันก็ให้การลดหย่อนภาษีของกลุ่มต่างๆ ตั้งแต่ภาษีจากค่าแรงล่วงเวลา, ค่าทิป ฯลฯ ไปจนถึงการลดหย่อนภาษีให้ผู้มีรายได้สูง และองค์กรธุรกิจต่างๆ ฯลฯ พร้อมการขยายเพดานหนี้ประเทศอีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ ($5 Trillion) ด้วย

โดยข้อมูลของสำนักงานผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุถึงผลกระทบรุนแรงที่รัฐแคลิฟอร์เนียจะได้รับจากกฎหมายฉบับนี้ในหลายๆ ประเด็น ดังนี้

-:ประกันสุขภาพ:

ตัดงบประมาณ Medicaid มูลค่า 28,400 ล้านดอลลาร์ในแคลิฟอร์เนีย 
ชาวอเมริกันประมาณ 17 ล้านคนทั่วประเทศ จะสูญเสียความคุ้มครองภายในปี 2034 
การตัดงบประมาณจำนวนมาก อาจส่งผลให้โรงพยาบาลในชนบททั่วรัฐต้องปิด หรือจำกัดการให้บริการลง

-:ตำแหน่งงาน

ประเมินว่าจะมีการสูญเสียตำแหน่งงานในแคลิฟอร์เนียถึง 686,000 ตำแหน่ง จากการยกเลิกเครดิตภาษีพลังงานสะอาดจากกฎหมายลดเงินเฟ้อ ปี 2022 (the Inflation Reduction Act.)
กลุ่มสหภาพแรงงานต่างๆ บอกว่ากฎหมายของทรัมป์ฉบับนี้ คือ “กฎหมายที่ทำลายตำแหน่งงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”

-:การช่วยเหลือด้านอาหารและครอบครัว:

ตัดความช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับประชากรกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ 
ขึ้นภาษีรายได้ สำหรับครอบครัวที่มีลูกในความดูแล

-:ความปลอดภัยสาธารณะ:

ตัดงบประมาณของ FEMA 646 ล้านดอลลาร์ ส่งผลกระทบต่อการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติ, 
ตัดงบประมาณของ FBI, DEA และ ATF ลดกำลังพลของเจ้าหน้าที่ และลดศักยภาพในการบังคับใช้กฎหมายลดลง 
ตัดงบประมาณเกือบ 500 ล้านดอลลาร์จากโครงการความปลอดภัยทางไซเบอร์ กระทบรุนแรงกับความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ

-:การศึกษา และความช่วยเหลือนักศึกษา: 

จำกัดการเข้าถึง Pell Grants และความช่วยเหลือทางการเงิน 
ยกเลิกทางเลือกเกี่ยวกับการยกหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษา และการเลื่อนชำระสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงิน

-:โครงการด้านสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ: 

ยกเลิกโครงการป้องกันไฟป่า ซึ่งเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ของแคลิฟอร์เนีย 
กำหนดบทลงโทษใหม่ (new penalties) กับเจ้าของรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดแรงจูงใจเกี่ยวกับพลังงานสีเขียว (เช่นเก็บค่าธรรมเนียมปีละ 250 ดอลลาร์สำหรับรถไฟฟ้า และ 100 ดอลลาร์สำหรับรถไฮบริด)

-:สิทธิในการสืบพันธุ์: 

ยกเลิกงบประมาณของ Planned Parenthood ซึ่งเป็นเอ็นจีโอที่ช่วยเหลือด้านคุมกำเนิด ทำแท้ง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตรวจเอชไอวี รวมถึงตรวจมะเร็งเต้านม-มดลูก ฯลฯ จึงส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยในแคลิฟอร์เนียมากกว่า 1.1 ล้านคน

-:ผู้อพยพ และความเสี่ยงที่ครอบครัวจะพลัดพราก

เพิ่มงบประมาณสำหรับการบุกจับผู้อพยพ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการพลัดพรากของครอบครัว และการบุกจับตามแหล่งงาน โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรกรรม

ฯลฯ

โดย เกวิน นิวซัม กล่าวหาประธานาธิบดีทรัมป์และผู้สนับสนุนของเขาว่า ใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อผลักดันวาระทางการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อคนรวย แต่ทำร้ายคนอเมริกันที่ทำงาน ขณะที่ทรัมป์ กลับมองชัยชนะทางการเมืองของเขาครั้งนี้ว่า เป็นชัยชนะของประชาธิปไตย.