ราคาไข่ไก่ในประเทศอเมริกา ซึ่งปรับขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อมาได้ระยะหนึ่งแล้วนั้น กำลังจะถูกปรับสูงขึ้นอีกรอบ จากปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก หรือ Avian Influenza ในพื้นที่เลี้ยงไก่ของหลายรัฐ เป็นเหตุให้ต้องมีการฆ่าไก่ทิ้งเป็นจำนวนมหาศาล

รายงานข่าวเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2022 บอกว่าขณะนี้ ฟาร์มไก่ไข่ใน 24 รัฐ กำลังประสบปัญหาโรคหวัดนก ครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี ทำให้ต้องมีการกำจัดไก่ไปแล้วมากกว่า 20 ล้านตัว

นอกจากจะกระทบกับรายจ่ายของครัวเรือน และต้นทุนของร้านอาหารแล้ว ข่าวบอกว่าการปรับราคาไข่ไก่ครั้งใหญ่ ส่งผลกระทบแรงที่สุดกับร้านเบเกอรี่ ที่ต้องใช้ไข่ไก่เป็นส่วนผสมหลักของแทบทุกเมนู โดยอ้างถึงร้านเบเกอรี่ชื่อ สวีท คอนเน็กชั่น ในชิคาโก้ ที่บอกว่าจำเป็นต้อง “ขึ้นราคาสินค้า” ประมาณ 30-35 เปอร์เซ็นต์จากราคาเดิม

ข่าวบอกว่าในแต่ละเดือน ร้าน สวีท คอนเน็กชั่น ต้องจ่ายเงินค่าไข่ไก่ประมาณ 50,000-60,000 ดอลลาร์ สำหรับเค้ก พาย คุ๊กกี้ และขนมอบอื่นๆ โดยต้นทุนดังกล่าว อาจจะปรับขึ้นได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับราคาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

โดยปัญหา “ไข่แพง” ไม่ใช่ภาระหนักของร้านเบเกอรี่ในอเมริกาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สภาวะเงินเฟื้อที่สูงประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ตามดัชนีของกระทรวงแรงงาน กำลังส่งผลให้สินค้าที่จำเป็น พากันขึ้นราคาทั้งสิ้น เช่นนม ปรับขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว, เนยปรับขึ้นมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ กระทั่งขนมหวาน (แคนดี้) ก็ปรับขึ้นมากกว่า 7 เปอร์เซ็นต์

ข่าวอ้างข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ดัชนีราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต สามารถปรับขึ้นได้ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่งผลให้การรับประทานอาหารนอกบ้าน (eating out) ต้องแพงขึ้นอย่างน้อย 6 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือนธันวาคม เช่นกัน

ข่าวบอกด้วยว่าโรคหวัดนก ซึ่งระบาดมาจากฝูงนกที่อพยพตามฤดูกาลมาจากยุโรปและเอเชียนั้น กำลังส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในวงการปศุสัตว์ เช่นไก่ไข่ ไก่เนื้อ รวมถึงนกสวยงามในฟาร์มหรือในสวนสัตว์ด้วย.