ขับรถในแคลิฟฯ แพงสุดในประเทศ
หลายเมืองในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ รวมถึงลอส แอนเจลิส ติดอันดับเมืองที่ผู้คนต้องจ่ายเงินมากที่สุดในประเทศ สำหรับการขับรถไปทำงาน (commute) จากผลการสำรวจของบริษัทให้กู้ออนไลน์ LendingTree ที่วิเคราะห์จากฐานข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานของบรรดาพนักงานในเมืองใหญ่ของอเมริกาจำนวน 100 เมือง โดยคำนวนจากระยะเวลาที่ใช้ และรายได้และจำนวนชั่วโมงทำงานของชาวเมือง
“สรุปง่ายๆ ว่าคุณจะมีรายรับเท่าไหร่หากคุณไม่ต้องเสียเวลากับปัญหารถติด” ผลการวิจัยระบุ
ผลวิจัยสรุปว่า ชาวเมืองฟรีมอนท์ ทางเหนือของแคลิฟอร์เนีย ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับปัญหารถติดสูงสุด กล่าวคือเกือบ 12,801 ดอลลาร์ต่อปี จากการใช้เวลาในการเดินทางเฉลี่ย 34.9 นาที (อันดับสี่ของประเทศ) ขณะที่รายได้เฉลี่ยของชาวเมืองอยู่ที่ 82,106 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 15.6 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก เมื่อเทียบกับตัวเลขเฉลี่ยทั่วประเทศ จำนวน 4,600 ดอลลาร์เท่านั้น
อับสองคือซานฟรานซิสโก ที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 80,812 ดอลลาร์ กับปัญหารถติดที่กินเวลาเฉลี่ย 33.8 นาที
ส่วนเออร์ไวน์ เป็นเมืองในแคลิฟอร์เนียที่ประชากรที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับปัญหารถติดสูงเป็นอันดับ 4 กล่าวคือเฉลี่ยประมาณ 9,818 ดอลลาร์ต่อปีจากการขับรถไป-กลับจากที่ทำานเฉลี่ย 26.8 ไมล์ เทียบกับรายได้เฉลี่ยของประชากรที่ 80,944 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12.1 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งปี
นอกจากนี้ยังมีเมืองในแคลิฟอร์เนียใต้อีกหลายเมืองที่ติดอันดับต้นๆ ของผลวิจัยฉบับนี้ เช่นลองบีช ติดในอันดับที่ 19 (6,515 ดอลลาร์, 31 นาที รายได้เฉลี่ยประชากร 46,318 ดอลลาร์ หรือ 14.1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี), ลอส แอนเจลิส ในอันดับที่ 22 (6,108 ดอลลาร์, 31.8 นาที รายได้เฉลี่ยประชากร 42,108 ดอลลาร์ คิดเป็น 14.5 เปอร์เซ็นต์ของรายได้) และริเวอร์ไซด์ อันดับที่ 23 (6,079 ดอลาร์, 30.9 นาที, รายได้เฉลี่ย 41,767 ดอลลาร์ คิดเป็น 14.6 เปอร์เซ็ต์ของรายได้)
โดยเมืองที่ประชากรต้องสูญเสียกับปัญหารถติดน้อยสุดในประเทศคือลับบ๊อค (Lubbock) รัฐเท็กซัส ที่ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 2,736 ดอลลาร์ หรือ 16.3 นาทีเมือเทียบกับรายได้ต่อปี 36,312 ดอลลาร์ หรือ 7.5 เปอร์เซ็นต์
เครื่องบินรบล่องหน “ไนท์ฮอล์ค” ที่ห้องสมุดเรแกน
เครื่องบินรบ F-117 Nighthawk เครื่องบินรบล่องหนลำแรกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกนำมาจัดแสดงเป็นการถาวร ณ ห้องสมุดเรแกน (the Ronald Reagan Presidential Library) ในเมืองเซมิ แวลเล่ย์ โดยลำเลียงมาถึงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เครื่อง เอฟ-117 ไนท์ฮอล์ค มีชื่อเล่นว่า “แขกไม่ได้รับเชิญ” เพราะใช้เทคโนโลยีล่องหน (Stealth technology) ที่เรดาห์ไม่สามารถตรวจจับได้ ซึ่งสมัยหนึ่งถือว่าเป็นความลับทางการทหาร เป็นเหตุให้เครื่องบินรบ เอฟ-117 ไนท์ฮอว์ค ซึ่งออกปฏิบัติการครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 1984 (สมัยที่โรนัลด์ เรแกน เป็นประธานาธิดีสหรัฐฯ) ถูกปิดเป็นความลับเรื่อยมา จนกระทั่งปี 1988
เครื่องบินรบ เอฟ-117 ไนท์ฮอว์ค มีชื่อเสียงมากจนเป็นที่กล่าวขวัญทั่วโลกในสงครามอ่าวเมื่อปี 1991
กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ปลดประจำการเอฟ-117 เมื่อเดือนเมษายน 2008 หลังจากออกปฏิบัติการต่างๆ รวม 78 ครั้ง ถือว่ามากกว่าปฏิบัติการของเครื่อง F-117 ทั้งหมดรวมกัน โดยสาเหตุหลักคือการปรากฏตัวของเอฟ-22 แร็พเตอร์ และบี-2 สปิริท ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
โดย เอฟ-177 ไนท์ฮอว์ค จะจัดแสดงอยู่เคียงข้างอากาศยานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกหลายลำ รวมถึง แอร์ฟอร์ซ วัน ด้วย โดยข่าวบอกว่าทางห้องสมุดเรแกน จะทำพิธีเปิดตัวเครื่องบิน ไนท์ฮอว์ค อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ธันวาคม ที่จะถึงนี้.
คูปอง 75 เหรียญของคอสท์โก้ แค่ “ของปลอม”
คอสท์โก้ ออกโรงเตือนผู้บริโภคอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า คูปองมูลค่า 75 ดอลลาร์ของคอสท์โก้ ที่มีการแชร์กันอย่างแพร่หลายทางโซเชียลมีเดียต่างๆ นั้น เป็นเพียงของปลอม ที่คนร้ายใช้หลอกลวง เพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่หลงเชื่อเท่านั้น
คอสท์โก้บอกด้วยว่า ผู้ที่ได้รับข้อความของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ให้ติดต่อขอคำแนะนำจากคอสท์โก้ ได้ที่อีเมล์ costcocare@costco.com หรือกรอกข้อความร้องเรียนที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ (the Federal Trade Comission) ที่ www.ftc.gov.
“จอห์น ลีเจนด์” หนุ่มเซ็กซี่ประจำปี 2019
จอห์น ลีเจนด์ นักร้องอาร์แอนด์บีระดับหัวแถว ได้รับเลือกให้เป็นชายหนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดของปี 2019 (the Sexiest Man Alive) โดยนิตยสาร พีเพิล โดยผลการคัดเลือกดังกล่าว ถูกเปิดเผยครั้งแรกในรายการ The Voice ของสถานี เอ็นบีซี ซึ่งจอห์น ลีเจนด์ เป็นหนึ่งในโค้ชด้วย เมื่อค่ำวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดย เบลค เชลตัน นักร้องคันทรีย์ ซึ่งร่วมเป็นโค้ชในรายการ และเคยได้รับเลือกให้รับตำแหน่งนี้เมื่อปี 2017 เป็นผู้ประกาศข่าวนี้ในรายการ โดยเขาบอกว่า จอห์น ลีเจนด์ ได้รับรางวัลสำคัญมาจนครบแล้ว ทั้ง EGOTSMA หมายถึงเขาได้รับแล้วทั้ง Emmy, Grammy, Oscar, Tony และล่าสุดคือ Sexiest Man Alive
นักร้องวัย 40 ผู้เป็นที่รักในฐานะ “เขยไทย” คนนี้ เคยคว้ารางวัลแกรมมี่มาแล้วถึง 10 รางวัลจากผลงานเพลงของเขา รับออสก้าร์ในปี 2015 จากเพลง Glory ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Selma, รับรางวัลโทนี่ ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับวงการละครเวที จากการร่วมเป็นโปรดิวเซอร์โชว์ Jitney และรับเอ็มมี่ ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับอุตสาหกรรมโทรทัศน์ จากการเป็นโปรดิวเซอร์ของการแสดงสด (live) ละครเรื่อง Jesus Christ Superstar ทาง เอ็นบีซี ซึ่งเป็นละครที่เขารับเป็น จีซัส ด้วย
เจ้าของเพลงฮิต All of me เป็นสามีของ คริสตี้ เทเก้น นางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ซึ่งสร้างชื่อเสียงเคียงข้างสามีจากการเป็นนางแบบ เจ้าของหนังสือคุ๊กบุ๊ก และพิธีกรรายการโทรทัศน์หลายรายการ โดยทั้งคู่มีลูกสองคน
จอห์น ลีเจนด์ กล่าวติดตลกว่า รางวัลนี้จะทำให้ภรรยาของเขาภูมิใจในตัวเขาเสียที.