ประกาศความเป็น “ใหญ่” อักษราภัค เกตุทอง อย่างชัดเจนทุกครั้ง โดย “อัตภาพ” แห่งตนเอง เป็น “เอกลักษณ์” อันพ่วงแฝงในเนื้องานทุกรูปแบบที่จับต้อง  บ่งบอก “เสรีภาพทางปัญญา” อันงดงาม...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดงานแฟชั่น...การเป็นแม่ค้าผ้าทอมือ...
   
ไม่สิ...ต้องเรียกเธอว่า “เจ้านาง” แห่งการครอบครองอาณาจักร “ผ้าทอมือ” ต่างหาก
   
หลายฉายาที่เธอได้รับ ไม่ว่าจะเป็น  “นักรบแห่งวัฒนธรรม” ..”เทพธิดาผ้าซิ่น”...”มาดามดัน” นางงาม...”แม่มดแห่งแพรพรรณ”...ล้วนเล่า “เรื่องสั้น” หลายตอนแห่งชีวิต “ตามความประสงค์” ในความเป็น “ดีไซเนอร์” ของเธอไว้แล้วเรียบร้อย
   
อักษราภัค เกตุทอง ใช่แค่ออกแบบเสื้อผ้าในระดับ “เป็นหน้าเป็นตาให้แก่ประเทศ”...การ “ออกแบบชีวิต” ของตัวเองโดยทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนัก ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอกลายเป็น “ผู้หญิงแถวหน้า” ที่มี “ความเข้มข้นในความคิด” 
   
เธอเป็นเจ้าของธุรกิจนวดแผนไทย “สวัสดี ไทย สปา”  ที่ “เวสท์วู้ด” อยู่นานปีแล้ว นอกเหนือไปจากการวิ่งวุ่นอยู่กับการจัดแฟชั่น และดูแล “เดอะ ภูเขา” เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอเปิด “ร้านนวด” แห่งที่ 2 บนถนนเวอร์มอนท์ อีกแห่ง ซึ่งกว่าจะเปิดร้านนี้ได้ ก็มีข่าวลือกันไปต่างๆ นาๆ ลือกันแรงถึงขั้นขนาดว่าร้านนี้เห็นทีจะเปิดไม่ได้เสียแล้ว...
   
แต่ “อุปสรรคคือการเทคคอร์ส ปัญหาคือยอดตำราในห้องเรียน” สำหรับ ใหญ่ อักษราภัค...เธอบอกตัวเอง “ทางสายกลางระหว่างทางขึ้น กับทางลง คือทางแห่งความไม่ประมาท” การให้กำลังใจตัวเองนำพาไปสู่เวทีแห่งการต่อสู้...
   
สถานที่อัน “ถูกใจ” ในการเปิด “สวัสดี ไทย สปา แอนด์ ซาลอน” แห่งนี้ ทำให้เธอต้องไปกู้เงินมาจาก 4 แบงค์ในคราวเดียวกัน เมื่อลงเงินแล้วก็เข้าไปดำเนินการรื้อถอน-เปลี่ยนแปลง แต่เนื่องจากยื่นแพลนไปแล้ว “ซิตี้” กลับไม่ให้ผ่าน เนื่องจากแอเรียนั้นเป็นเขต “สีแดง” คือห้ามทำธุรกิจ “นวด”...อาณาบริเวณที่เป็น “สีแดง” ดังกล่าวครอบคลุมไปเกือบมิดเมือง...จะทำอย่างไรให้ธุรกิจเปิดได้ อะไรคืออุปสรรค เธอฝ่าฟันปัญหาไปได้อย่างไร เธอชี้แจงแถลงไข และฝากให้กำลังใจคนที่เจอปัญหาเดียวกันมาด้วย ดังนี้...

“...ให้ทุกคนระวังไว้นะคะ เรื่อง ทำสัญญาเช่า แล้วเขียนแพลนยื่น ซิตี้ พอเขาบอกไม่ให้ทำนวด เรียก ซึ่งกรณีนี้เขาเรียก “เร้ด โซน” เป็นแอเรียที่เขาไม่อนุญาตให้ทำธุรกิจนวด ห้ามเปิด  เราก็เถียงเขาว่าแล้วที่เปิดอยู่ล่ะ (ละแวกใกล้กันมีอยู่หลายที่) เขาบอกจะไล่ปิด ซึ่งบางร้านอาจเปิดก่อนจะมีกฎหมายระงับ เขาก็เปิดได้ พี่ใหญ่ก็กลับมานอนคิดอยู่สามสี่วัน

 ร้านนี้มัดจำไปหมื่นกว่าเหรียญ สี่ห้าพันเหรียญเป็นค่าแบบที่ เขียนแล้ว เราจะทำไงได้บ้าง เขาบอกต้อง “เชนจ์ ออฟ ยูส” (change of use)ต้องใช้เวลาในการยื่นเรื่อง ซึ่งต้องเสียค่ายื่นเรื่องหมื่นเหรียญ ได้ไม่ได้ไม่รู้ เขาไม่การันตี เสร็จพี่ใหญ่ก็ไปยื่นเรื่องเลย คนที่เขารับเรื่องบอกยูเหมือนแม่ไอเลย คือสู้ไม่ถอย ไม่ยอมแพ้...

พี่บอก please help me...เขาบอกงั้นยื่นเรื่องบอกทำสปาสิบเปอร์เซ็น แล้วทำ บิวตี้ ซาลอน เลยเสียอีกสี่พันเหรียญเพื่อเขียนแพลนใหม่ รออีกร้อยยี่สิบวัน ระหว่างนั้นพี่ใหญ่เลยไปทำแฟชั่นโชว์สามสิบเจ็ดชุด ที่อุบล พอกลับมาก็ผ่าน เราก็เอาช่างมาทำร้าน ตัวซิตี้ก็มาสั่งโน่นนี่  ฮู้ย..ไม่เสร็จเสียที...

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างป้ายหน้าห้องน้ำ พอถึงวันตรวจ คนนึงให้ทำเป็นสี่เหลี่ยม พออีกวันอีกคนมา บอกให้ทำเป็นแบบวงกลม...แบบแพลนต้องมีประตู พี่ก็บอกให้ช่างใส่ประตู อีกวันอีกคนพอมาก็ให้เอาประตูออก ให้ใส่ม่าน ...

ใส่ม่านแล้วก็ต้องถอดทิ้ง เสียไปอีกห้าพันเหรียญค่าม่าน  เพราะอีกสองวันส่งเรื่องไป คนใหม่มา ประตูที่ถอดออกไปไว้หลังร้านแล้ว เขาก็ให้เอามาใส่ใหม่ พี่ก็บอก I can put the doors, right?  แล้วให้เขาเซ็นด้วย เขาก็เซ็นว่าประตูใส่ได้  พี่ให้เขาเซ็นเพื่อป้องกันว่าอีกคนจะมาบอกให้ถอดอีก

...ส่วนห้องน้ำ ที่ต้องให้ใช้ป้ายสี่เหลี่ยมนี่เพราะมีอักษรเบลล์สำหรับคนตาพิการด้วย เพราะงั้นเขาให้ทำอะไรก็ทำ ตกลงพี่เลยมีมันสองแบบเลย ทั้งแบบสี่เหลี่ยมแล้วก็แบบกลม ติดอยู่ที่ประตูห้องน้ำ...ฝากบอกพี่น้องเรา เขาให้ทำอะไรก็ทำอย่าไปเถียงซิตี้เด็ดขาด ให้ทำโง่ๆ ซื่อๆ แล้วขอทำปรึกษา ถามเข้าไป เสร็จแล้วเขาก็จะยอมเราเอง

แล้วพอถึงวันเขานัดมาตรวจนะ แต่งตัวสวยๆ รอเลย แต่ถ้าไม่อยากสวยนะให้เอาเพื่อนสวยๆ มาด้วย มายืนรอรับ...วันที่เขามาตรวจเนี่ยพี่แต่งตัวสวยรอเลย พอมาถึงพี่ก็ยกมือไหว้ แสดงวัฒนธรรมของเราเข้าไป ให้เขารู้คนไทยอ่อนน้อม...

หลังจากนั้นเขาก็มาตรวจท่อ ดันไปเจอรอยแตก รอยแตกนี่ยาวไปถึงทางถนนโน่นเลยนะ...แคร้ก (cracked)  มันถูกเจาะ เพราะเชนจ์ ออฟ ยูส ที่เจ้าของเก่าเขาทำไว้ พี่ก็เจออีกสองหมื่นเหรียญ  แล้วไหนจะเรื่องแอร์อีก แลนด์ลอร์ดเขาไม่คอเปอเรทกับเราเท่าไหร่  ที่สำคัญคือการกู้แบงค์ด้วย  พี่ใหญ่กู้สี่แบงค์พร้อมกันเลย ต้องมีเทคนิค อย่าไปกู้ทีละแบงค์...ก็ได้มาร่วมแสนเหรียญ หมดปัญหาไป เรื่องไลเซ่นส์ พี่ใหญ่ได้แล้ว คนที่พูดกันว่าผิดกฎหมาย ฝากบอกว่า พี่ใหญ่ทำได้ ไม่ได้โกหก พี่ใหญ่มีครบทุกอย่างค่ะ...”

ร้านของเธออยู่เลขที่  1754 North Vermont Ave. Los Angeles, CA90027 โทร.นัดล่วงหน้าจองเวลาส่วนตัวได้ที่ 323-522-6632 หรือเข้าเฟซบุ๊คได้ที่ sawadeethaispaandsalon ร้านเปิดทุกวัน สิบโมงเช้า-สองทุ่ม (หลังสองทุ่ม ใครไปเป็นคู่ อาจต่อรองได้)

“สวัสดี ไทย สปา แอนด์ ซาลอน” วันนี้มีครบวงจร เมื่อ “พ่วง” คำว่า “ซาลอน” เข้าไป การดำเนินธุรกิจ “เสริมหล่อ-สวย” ก็ปรากฎขึ้นเป็นจริง ด้วยช่าง “มืออาชีพ” ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิง-นางแบบมาร่วมสิบปี เธอคือ พรลภัส พิมพ์สมบูรณ์ หรือ “กีกี้” ที่เดินทางเปลี่ยน “เวทีชีวิต” จากเมืองไทยมาอยู่ในอ้อมกอด “เมืองนางฟ้า”

“...กี้มาเที่ยวก่อนค่ะ มาเจอแฟน ก็เลยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ก่อนมาเจอพี่ใหญ่กี้ก็ไปทำงานที่อื่นมาบ้าง  มาเจอกันก็เพราะงานเสริมสวยพามานี่ล่ะค่ะ  พี่ใหญ่ชวนมาดูก่อน บอกเป็นร้านนวด แต่มีห้องที่ทำ “ซาลอน” โดยเฉพาะ แตกต่างจากร้านนวดทั่วไป ก็ให้กี้มาดู กี้ก็ชอบ พี่ใหญ่ยังไม่มีประสบการณ์ว่าจะจัดอะไรตรงไหน ต้องซื้อผลิตภัณฑ์อะไร กี้ก็ไปซื้อของเข้าร้านกับพี่ใหญ่เลย ช่วยกันเซ็ทอัพ ของในซาลอน กี้เลือกแต่ของดีมีคุณภาพทั้งนั้นค่ะ รับรองว่าไม่ใช้แชมพูที่ใส่มาในแกลลอนใหญ่ๆ แล้วเอามาเทแบ่งใส่ขวดสระผมให้ลูกค้า สเปรย์ ครีมนวด ครีมบรุง กี้เลือกแต่ของดีมีชื่อมาทั้งนั้น...

...กี้จบด้านคอมพิวเตอร์มาค่ะ ก็ไปทำงานด้านนี้อยู่ระยะหนึ่ง คุมคอมพิวเตอร์ที่คอนโทรลโรงงานอีกที อยู่ฝ่ายบริหาร คุมพวกบัญชีด้วย ทำสักพักก็เก็บเงินไปลงทุนเปิดร้านเสริมสวย แม่กี้เขาก็เป็นห่วง เรียนจนจบคอมพิวเตอร์ แต่จะมาทำงานเสริมสวย แต่กี้รักงานเสริมสวยมาก พอเปิดร้านก็มีนักศึกษาเขามาให้แต่งหน้าวันรับปริญญาบ้าง แต่งหน้าทำผมไปงานปาร์ตี้บ้าง ต่อมาก็เป็นที่รู้จักของเด็กๆ ในมหาวิทยาลัย มีงานอะไรเขาก็เรียกมา...”

“กีกี้” ช่างสนทนา เธอถูกส่งมาศึกษาต่อในด้านความงาม โดยบริษัทผลิตภัณฑ์บำรุงความงามชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง อันมีตัวแทนในประเทศไทย แม้จนปัจจุบัน เธอก็ยังต้องไปศึกษาต่ออยู่เรื่อยๆ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และพัฒนาตาม “แฟชั่น” แห่ง หน้า-ผม ให้อยู่ในระดับเป็น “เอก” ในสไตล์ต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทำสีผม หรือเทคนิคการตัด ดัด ซอย, สไตล์การแต่งหน้าที่นำสมัย ใหม่เสมอ

“สวัสดี ไทย สปา แอนด์ ซาลอน” จึงมีบริการครบสมบูรณ์แบบทุกอย่าง พร้อม “ไลเซ่นส์” ประกอบธุรกิจแขนงนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ใครเปิดประตูเข้าไปจะเห็นเด่นชัด ติดอยู่ที่ข้างฝาด้านซ้ายมือ ที่เค้าน์เตอร์มีราคาค่าบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนวดหน้า ขัดหน้า บำรุงผิวพรรณ สำหรับผิวมัน ผิวแห้ง นวดเท้า นวดตัว แต่ละเรื่องมีค่าบริการด้วยเลข “สามหลัก”

แต่ขณะนี้กำลังโปรโมทเรื่องของการ “นวดหน้า” รีบไปคว้าโอกาสไว้ เธอลดให้เหลือแค่ “สองหลัก”...คืนไหนใครจะไปงานอะไร เข้าร้านเธอแบบ “เซอๆ” ขากลับออกมาก็ “เช้งกะเด๊ะ” แถมตัวสบาย คลายเครียด หลังบริการมีผลไม้แจกแถมอีกด้วย ห้องนวดตัวแต่ละห้องก็มีม่านกั้นสวยสนิทมิดชิด  ใครจะไปเป็นคู่ก็ไม่ต้องดู “วันคู่” ไป “วันคี่” เขาก็มีเบาะสองรองรับ

บรรยากาศภายใน “สวัสดี ไทย สปา แอนด์ ซาลอน” กว้างใหญ่ สวยงาม มีทั้งความเป็นล้านนา สากลร่วมสมัย ผนวกกลิ่นไอแห่งความเป็นยุโรปนิดๆ ตกแต่งเป็น “เอกลักษณ์” ให้หลงรัก “สปา” มากยิ่งขึ้น

โคมระย้าที่สั่งทำพิเศษ บอก “ความนัย”แห่งตัวตนของผู้ดำเนินการ คือตระหนักใน “หน้าที่”  ซึ่ง “หาใช่” จะให้ใคร “ยอมจำนน” เพียงเพราะ “หยดระย้า” แห่งโคมงาม ที่สยบสายตาไว้ด้วยความแพรวพราวระยิบระยับ ดุจ “เสน่ห์” อันลึกลับแห่งเจ้าของ...หากแต่ให้ยอมรับด้วยว่า มีประโยชน์โภชน์ผล ด้วยแสงเนิบนวลจริงๆ

นักสู้ “คลื่นชีวิต” คนนี้มีนามว่า อักษราภัค เกตุทอง ประสบความสำเร็จแล้วในการเป็น “มนุษย์นักสู้” คนหนึ่ง  รางวัลของเธอคือ ได้ยืนในจุดที่ “พอดี” ของชีวิตแล้ว...ชีวิตในโลกที่เหมือนห้องเรียนห้องหนึ่ง

ทุกย่างมี “วิถี” ของมันเอง.