เดอะฮิลล์ รายงานเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า การปราบปรามผู้อพยพของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำให้ “ปัญหาการขาดเรียน” ในโรงเรียนของอเมริกา ซึ่งถือว่ามีปัญหาอยู่แล้ว ทวีความรุนแรงขึ้น 

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ระบุว่าอัตราการขาดเรียนของนักเรียนในห้าเขตการศึกษาในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ หรือหลังจากทรัมป์ประกาศใช้นโยบายเนรเทศแบบแข็งกร้าว เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนๆ 

โดยการขาดเรียนเพิ่มขึ้นมาที่สุดในกลุ่มนักเรียนเชื้อสายลาติน โดยเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับนักเรียนก่อนวัยเรียน (pre-K), 27 เปอร์เซ็นต์สำหรับนักเรียนอนุบาลถึงเกรด5, 17 เปอร์เซ็นต์สำหรับนักเรียนมิดเดิลสกูล และ 8 เปอร์เซ็นต์สำหรับนักเรียนไฮสกูล

อย่างไรก็ดี แม้ว่าทรัมป์จะประกาศยกเลิกระเบียบที่ห้ามไม่ให้ ไอซ์ ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่เปราะบาง เช่นโบสถ์ และสถาบันการศึกษาระดับอนุบาลถึงเกรด 12 ก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ปรากฎว่ามีปฏบัติการบุกจับกุมในโรงเรียน โดยเจ้าหน้าที่ ไอซ์ เกิดขึ้น

นอกจากแคลิฟอร์เนียแล้ว ข่าวบอกว่าตัวเลขเด็กขาดเรียนได้เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ เช่นเท็กซัส, นิวเจอร์ซี่ และนิวยอร์ก ฯลฯ

ข่าวอ้างความเห็นของ ทารา โทมัส จากสมาคมผู้บริหารโรงเรียน (the Schools Superintendents Associatio) ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โรงเรียนต่างๆ ต้องจัดทำแผนรับมือโดยเร่งด่วน ก่อนเปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง

“การสื่อสารคือกุญแจสำคัญ เพื่อให้เขตการศึกษาสามารถเข้าใจปัญหาของครอบครัว เข้าใจความกลัวของพวกเขา จากนั้นจึงอธิบายมาตรการคุ้มครองและระเบียบปฏิบัติทั้งหมดที่เขตการศึกษา มีไว้เพื่อคุ้มครองไม่ให้นักเรียนถูกกักตัวที่โรงเรียน หรือเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา”

โดยปัญหาเด็กขาดเรียน กลายเป็นปัญหาของระบบการศึกษาของอเมริกาที่เรื้อรังมาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 โดยข้อมูลของ Future Ed องค์กรวิชาการอิสระชี้ว่า อัตราการขาดเรียนเรื้อรังอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์ในปีการศึกษา 2021-2022, 25 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2022-2023 และ 23 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023-2024 และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นแบบ “น่าตกใจ” ในปีการศึกษานี้ (2024-2025).

พร้อมกับข่าวนี้ โลกออนไลน์ ได้มีการเผยแพร่ “จดหมายถึงเพื่อนรัก” ของนักเรียนจากครอบครัวผู้อพยพฉบับหนึ่ง ที่ให้ความรู้สึก “บีบหัวใจ” จนกลายเป็นไวรัล โดยข้อความในจดหมายที่เขียนด้วยลายมือโย้เย้ของเด็กประถม ระบุว่า 

"ถ้า ICE จับฉันไป อย่าลืมฉัน ฉันจะอยู่ที่เอลซัลวาดอร์ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน คือพี่ชายที่ฉันไม่เคยมี ฉันร้องไห้ทุกคืนเพราะคิดว่าพวกเขาจะมาจับฉันที่โรงเรียน" 

ในจดหมายยังมีการวาดภาพใบหน้าพร้อมหยดน้ำตาหลายรูปด้วย.