อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
Dr Peper ขายดีเท่า Pepsi แล้ว

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : การทำตลาดเจาะกลุ่ม “เจน-ซี” ส่งผลให้ยอดขาย “ด็อกเตอร์เป็ปเปอร์” ทะยานขึ้นสู่อันดับสอง เทียบเท่าน้ำดำยอดฮิตอย่าง “เป็ปซี่” แล้ว

วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2024 ว่า น้ำอัดลมแบรนด์ ด็อกเตอร์เป็ปเปอร์ กลายเป็นน้ำอัดลมที่มียอดขายมากเป็นอันดับสองในอเมริกา โดยครองตำแหน่งคู่กับ เป็ปซี่ เป็นครั้งแรกหลังจากวางขายมาตั้งแต่ปี 1885 หรือ 139 ปีที่ผ่านมา

โดยในปี 2023 ที่ผ่านมานั้น ทั้งสองแบรนด์ ถือครองส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลม (carbonated soft drink) ของอเมริกาแบรนด์ละ 8.3 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน โดยส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวนี้ นับจากยอดขายทั้งที่เป็นขวดและกระป๋องตามร้านค้าปลีก และยอดขายจากเครื่องกด (soda fountains) ตามฟาสฟู้ดและสเตเดี้ยมต่างๆ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี ส่วนแบ่งตลาดของด็อกเตอร์เป็ปเปอร์และเป็ปซี่ ยัง “ห่างไกล” จาก โคคา-โคล่า ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่ 19.2 เปอร์เซ็นต์อยู่มาก

หัวหน้าฝ่ายการตลาดของบริษัท คูริก ด็อกเตอร์ เป็ปเปอร์ ให้สัมภาษณ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นของ ด็อกเตอร์ เป็ปเปอร์ เป็นผลมาจากความพยายามทางการตลาดที่ได้ผล และรสชาติใหม่ ที่เอาใจเอฟซี กลุ่ม “Gen Z”

“บวกกับกระแสนิยมทาง TikTok ที่มีการผสม ด็อกเตอร์เป็ปเปอร์กับแตงกวาดอง (pickeles or pickle juice) ซึ่งมีคลิปที่เป็นไวรัลหลายตัว แต่ละตัวมียอดวิวหลายล้าน ก็มีส่วนช่วยได้มาก” ข่าวระบุ

นอกจากนี้ การเป็นเครื่องดื่ม “นอกสายตา” ของแบรนด์ใหญ่อย่างโค้ก และเป็ปซี่ ก็มีส่วนช่วย เพราะขณะที่เชนฟาสฟู้ดใหญ่ๆ หรือสเตเดี้ยมต่างๆ ต้องเลือกทำสัญญากับโค้ก หรือเป็ปซี่ เท่านั้น เครื่องดื่ม ด็อกเตอร์เป็ปเปอร์ กลับสามารถอยู่ได้ทั้งกับเป็ปซี่ และโค้ก

โดยอีก 7 แบรนด์ ใน “ท็อปเท็น” น้ำอัดลมที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดของอเมริกา ในปี 2023 คือ สไปรซ์ (8.1%), ไดเอ็ดโค้ก (7.8%), เมาเท่นดิว (6.3%), โค้ก ซีโร่ (3.8%), ไดเอ็ดเป็ปซี่ (3.5%), แฟนต้า (2.9%) และแคนาดา ดราย จินเจอร์ เอล (2.2%).




 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข