ศูนย์เอเชียนอเมริกัน แอดแวนซิ่ง จัสติส (Asian Americans Advancing Justice-Los Angeles หรือ AAAJ-LA) ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่เน้นการทำงานเสริมความแข็งแกร่งในกับชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชาวเอเชียในลอส แอนเจลิส รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับผู้มีรายได้น้อย ได้ประกาศเลิกงานพนักงานถึง 18 คนเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ข่าวบอกว่าการเลิกงานพนักงาน 18 คน ถือว่ามีสัดส่วนถึง 1 ใน 5 ของพนักงานทั้งหมด เป็นเหตุมาจากการขาดดุลงบประมาณของศูนย์ ที่ข่าวระบุว่ามากถึงสองล้านดอลลาร์
โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างนั้น มีหลากหลายตำแหน่ง ตั้งแต่โฆษกของศูนย์ (อลิสัน วู), ทนายความผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายการจ้างงาน, ครูด้านการสอบเปลี่ยนสัญชาติ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่วยเหลือผู้อพยพ, เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่เป็นผู้อพยพ ฯลฯ รวมถึงพนักงานรับโทรศัพท์ฮอทไลน์ ภาษาต่างๆ ด้วย
ผู้บริหารขององค์กรไม่หวังผลกำไรแห่งนี้ ระบุในเอกสารเลิกจ้างว่า เป็นการตัดสินใจที่ผ่านการวิเคราะห์ และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนกับทีมงานและผู้บริหารขององค์กร เพื่อให้องค์กรมีความแข็งแรง และมีความยั่งยืนทางการเงินต่อไปในอนาคต
“แม้จะเป็นเรื่องที่ยาก แต่สิ่งที่ทำไปคือความจำเป็น ซึ่งจะทำให้เราสามารถปฏิบัติงานสำคัญในการช่วยเหลือชุมชน AANHPI (Asian American, Native Hawaiian, and Pacific Islander), ชุมชนผิวสีทั้งหมด, ผู้อพยพและกลุ่มผู้อพยพต่างๆ ให้เดินไปข้างหน้าได้”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้าง ได้ชุมนุมประท้วงกันที่หน้าสำนักงานในดาวน์ทาวน์ ตลอดวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมถึง อลิสัน วู อดีตโฆษกของศูนย์กฎหมายแห่งนี้ด้วย โดยเธอได้กล่าวว่า ในการประชุมเรื่องปัญหาการเงินขององค์กรในระยะที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารได้ยอมรับต่อที่ประชุมว่าเป็นความผิดพลาดของพวกเขา ที่ไม่ใส่ใจกับสถานภาพทางการเงินขององค์กรเท่าที่ควรในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา รวมถึงไม่เข้าใจในเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการต่างๆ ด้วย
อลิสัน วู บอกด้วยว่าพนักงานได้พยายามเสนอความช่วยเหลือ เช่นยอมหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง และลดเงินเดือน ฯลฯ แต่ข้อเสนอเหล่านั้นไม่ได้รับความสนใจ
ทั้งนี้ AAAJ-LA ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 35 ปีที่แล้วโดยนักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน ชื่อ สจ๊วต โกว เพื่อทำงานช่วยเหลือชาวเอเชียและชนกลุ่มน้อยที่มีปัญหาทางกฎหมาย หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงเน้นการทำงานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของชุมขนชาวเอเชีย เช่นสนับสนุนและช่วยเหลือให้เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกัน, สนับสนุนให้ชนกลุ่มน้อยมีส่วนร่วมทางการเมือง ฯลฯ เป็นต้น โดยกิจกรรมล่าสุดที่ทาง AAAJ-LA กำลังให้ความสนใจคือระเบียบใหม่ของการพิจารณาให้ใบเขียว ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกว่า public charge หรือการตัดสิทธิของผู้ยื่นขอใบเขียวที่เคยขอรับสวัสดิการของรัฐ
พนักงานที่ถูกเลิกจ้างบอกเหมือนๆ กันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์กรในวันนี้ จะส่งผลกระทบกับชุมชนที่ไม่พูดภาษาอังกฤษอย่างรุนแรง เพราะ AAAJ-LA มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาต่างๆ ได้มากที่สุด แต่การเลิกจ้างครั้งนี้ ทำให้บริการรับโทรศัพท์สายด่วน (hotline) ต้องลดไปถึงสามภาษา คือ เขมร, ตากาล็อค และเวียดนาม
“หมายความว่าถ้าคุณเป็นคนเวียดนาม จะไม่มีใครรับโทรศัพท์ของคุณ รับเรื่องราวปัญหาของคุณเพื่อส่งต่อให้ทนายความอีกต่อไป” อลิสัน วู กล่าว และว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ภาษาฮินดูก็เพิ่งลาออก และจะไม่มีการจ้างพนักงานคนใหม่เข้ามาแทนที่ ดังนั้น สายด่วนภาษาต่างๆ ที่ศูนย์กฎหมายเอเชียแห่งนี้ยังคงให้บริการในขณะนี้ คือภาษาไทย จีน และเกาหลีเท่านั้น.