ในวันที่ 1 ตุลาคม 2019 นี้ ร้านอาหาร และร้านค้าทุกประเภท ที่จำหน่ายเครื่องดื่มในเขตเมืองลอส แอนเจลิส  จะไม่สามารถยื่นหลอดดูดพลาสติกให้กับลูกค้าได้อีกต่อไป ทั้งลูกค้าที่รับประทานอาหารในร้านและลูกค้าทูโก (นำอาหารไปรับประทานเองที่บ้าน) รวมถึงไม่สามารถจัดวางหลอดดูดพลาสติกเอาไว้ให้ลูกค้าหยิบเองได้

โดยร้านค้าจะยื่นหลอดดูดพลาสติกให้ลูกค้าได้ก็ต่อเมื่อได้รับการร้องขอเท่านั้น

แต่สำหรับลูกค้าไดร์ฟทรู หรือสั่งให้ไปส่งที่บ้าน (delivery) กฎหมายอนุญาตให้ร้านค้า “ถาม” ลูกค้าได้ว่าต้องการหลอดดูดหรือไม่ แต่ห้ามให้ หากไม่ได้ถามลูกค้าเสียก่อน

โดยเทศบัญญัติที่เรียกว่า Straws on request ซึ่งผ่านสภาเมืองแอลเอ มาด้วยเสียงเอกฉันท์ 12-0 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 ได้แบ่งช่วงบังคับใช้ออกเป็นสองระยะ ระยะแรก มีผลกับร้านอาหารขนาดใหญ่ มีพนักงานตั้งแต่  26 คนขึ้นไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ซึ่งเป็นวัน Earth Day ที่ผ่านมา

ส่วนระยะสอง ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีผลกับร้านอาหารทุกขนาด ทุกประเภท รวมถึงร้านฟาสฟู้ด ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงรถทรัค-รถเข็นจำหน่ายอาหาร ด้วย

บัญญัติควบคุมหลอดดูดพลาสติก มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก ซึ่งเป็นขยะที่ไม่ย่อยสลาย และกำลังเป็นปัญหากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ โดย มิช โอ’ฟาร์เรลล์ สมาชิกสภาเมืองเขต 13 (ไทยทาวน์) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้มาตั้งแต่ต้น กล่าวว่าการควบคุมขยะพลาสติกที่ไม่มีวันย่อยสลาย ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน “ถ้าเราไม่ลงมือเสียแต่ตอนนี้ พลาสติกในมหาสมุทรจะมีปริมาณมากกว่าปลา ภายในปี 2050"

ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ Lonely Whale ระบุว่าชาวอเมริกันทิ้งหลอดพลาสติกวันละ 500 ล้านหลอด และหลอดดูดพลาสติก ติดอันดับ “ท็อป 10” ขยะในทะเลที่มีปัญหาไปทั่วโลก

ทั้งนี้ ในระดับรัฐนั้น แคลิฟอร์เนียมีกฎหมายคล้ายๆ กับเทศบัญญัติของเมืองแอลเอ แต่จะมีผลเฉพาะร้านอาหารประเภท dine-in เท่านั้น ไม่รวมถึงร้านประเภทฟาสฟู้ดหรือร้านอาหารประเภทอื่นๆ.