ละครไทย
เรื่องย่อ “นายฮ้อยทมิฬ”

‘ พวกเฮาทั้งหลาย ถึงนาสิแห้ง ทำมาหากินสิลำบากมันก็บ่แม้นสิว่าฟ้าลงโทษผู้ใด ความทุกข์มันผ่านมาเดี๋ยวก็ผ่านไปแต่ย่ามใดถ้าพวกเฮาบ่ฮัก บ่สามัคคีกันก็พวกเฮานี่แหละสิตายเพราะความเห็นแก่โตก่อน ’

อำเภอสว่างแดนดินจังหวัดสกลนครก่อนปี 2500 เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ความแห้งแล้งได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนทำให้ผืนดินแตกระแหงความหวังเดียวที่จะผ่านพ้นความยากลำบากของชาวบ้านสว่างแดนดินจึงอยู่ที่นายฮ้อยเคนนายฮ้อยค้าควายที่มีชื่อเสียงมากผู้หนึ่งในแถบอีสานนายฮ้อยเคนเป็นนายฮ้อยหนุ่มที่ผ่านการค้าควายมานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะได้ชื่อว่าเป็น ‘นายฮ้อย’ ต้องมีความชำนาญพาทัพควายเดินทางผ่านที่ๆแสนกันดารที่แห่งไหนมีโจรชุกชุมนายฮ้อยต้องรู้จักหลบหลีกหรือรับมือ ที่ใดต้องผจญสิงสาราสัตว์นายฮ้อยก็ต้องพาทัพควายผ่านพ้นไปให้ถึงเมืองล่างให้ได้ นอกจากนั้นนายฮ้อยยังถูกนับถือว่าเป็นคนหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพันชาตรีแม้งูเงี้ยวเขี้ยวขอที่มีพิษก็ไม่กล้าเข้าใกล้ผีสางคางแดงไม่ว่าระดับไหนน้อยฮ้อยเป็นปราบได้หมดแม้เมื่อควายและลูกน้องทัพควายเจ็บป่วยนายฮ้อยก็มีความรอบรู้ใช้รากไม้สมุนไพรรักษาให้หายเป็นปลิดทิ้ง

แม้ว่าการค้าควายจะสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำช่วยเหลือให้ชาวบ้านหลายคนไม่ต้อง
อยู่ยากเร้นแสนเข็ญท่ามกลางความแร้นแค้นแต่สำหรับคำแพงเมียของนายฮ้อยเคนกลับรู้สึกว่าเป็นการทำบาปที่ต้องพาควายไปขายให้เขาเชือดเขาฆ่าคำแพงจึงขอร้องให้นายฮ้อยเคนเลิกค้าควายเพราะกลัวบาปกรรม นายฮ้อยเคนเห็นว่าคำแพงมีอาการป่วยกระเสาะกระแสะจึงรับปากว่าจะค้าควายเป็นครั้งสุดท้ายแต่นายฮ้อยเคนก็ไม่สามารถกลับมาดูใจเมียรักได้ทันเวลาคำแพงตายจากไปโดยทิ้งให้นายฮ้อยเคนต้องคอยดูแลคำแก้วน้องเมียนิสัยแก่นกะโหลกชอบเอาแต่ใจตัวเองเอาไว้ให้ นายฮ้อยเคนดูแลคำแก้วรักพี่สาวมากจึงมักแสดงความไม่พอใจทุกครั้งที่มีหญิงสาวมาแสดงตัวติดพันพี่เขย เพราะนายฮ้อยเคนทั้งหล่อมีชื่อเสียงและมีฐานะแต่นายฮ้อยเคนก็ไม่เคยสนใจหญิงสาวคนไหนเพราะต้องคอยทำหน้าที่ดูแลคำแก้วตามที่ได้รับปากคำแพงเอาไว้และที่สำคัญนายฮ้อยเคนไม่ไว้วางใจบักจันดีนักเลงหนุ่มจอมอันธพาลที่มาชอบพอและพยายามตีสนิทคำแก้ว สันดานของบักจันดีเป็นพวกหัวขโมยและสนิมทสนมกับเสือคำแสนหัวหน้าชุมโจรที่โหดเหี้ยมซึ่งคอยพาพวกดักปล้นควายจากพวกนายฮ้อยคนอื่นๆอยู่เนืองๆและเคยประกาศเป็นศัตรูไปชั่วชีวิตกับนายฮ้อยเคนเมื่อคราวที่เคยพยายามปล้นทัพควายแต่ถูกนายฮ้อยเคนสร้างบาดแผลเอาไว้บนหน้า

แต่คำสัญญาที่เคยให้ไว้กับคำแพงก็ทำให้นายฮ้อยเคนต้องคิดหนัก เมื่อพวกชาวบ้านพากันมา รวมตัวขอให้นายฮ้อยเคนช่วยเอาควายไปขายก่อนที่จะพากันอดตายเพราะปีนี้ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นแล้วไหนจะต้องคอยรับมือกับพวกโจรที่พยายามจะมาลักควายเอาไปอีกนายฮ้อยเคนจำเป็นต้องรับปาก

ชาวบ้านว่าจะไปค้าควายเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการค้าควายที่ใหญ่สุดที่เคยทำมา เพราะมีชาวบ้านจากหมู่อื่นๆพาควายมาให้นายฮ้อยเคน ไปขายมากกว่าทุกครั้งนับรวมได้ 300 กว่าตัว นั่นจึงทำให้นายฮ้อยเคนจำเป็นต้องรวบรวมลูกน้องเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมไปกับการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องผจญกับอันตรายมากมายทั้งจากภัยธรรมชาติ และพวกกลุ่มโจร ที่จ้องปล้นตาเป็นมัน หลายคนในหมู่บ้านสนใจอบยากร่วมทัพควายครั้งนี้ แต่นายฮ้อยเคนต้องการคนที่ไว้ใจได้ และมีฝีมือซึ่งในที่สุดก็ได้พรรคพวกร่วมทัพควายอย่างที่ต้องการโดยประกอบไปด้วย 

ผู้ช่วยโทน - หนุ่มฉกรรจ์รุ่นน้องของนายฮ้อยเคนที่เคยติดตามเป็นผู้ช่วยนายฮ้อยเคนมา
หลายปี หลงรักคนง่าย อกหักบ่อย คิดอะไรตัดสินใจอะไรมักใจร้อนต้องมีนายฮ้อยเคนคอยปรามประจำสนิทสนมนับถือนายฮ้อยเคนเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่บางครั้งก็มักขัดใจและไม่ลงรอยกันบ้าง มีหน้าไม้อายยาพิษเป็นอาวุธ

ผู้ช่วยถึก - ผู้ช่วยคนที่ 2 ของนายฮ้อยเคนสุขุมใจเย็นคอยเป็นกาวใจให้ผู้ช่วยโทนกับนายฮ้อยเคนเวลาที่ไม่ลงรอยกันมีหน้าที่ซ่อมแซมเกวียนและอาวุธปืนผาหน้าไม้

บักจ่อย - เด็กหนุ่มตัวเล็กหุ่นขี้ก้างแต่มีความปรารถนาอยากเป็นนายฮ้อยที่เก่งกาจ อย่างน้อยฮ้อยเคน เคยถูกปฏิเสธไม่ให้ร่วมทัพควาย แต่เพราะความตั้งใจและเคยแอบหนีตามทัพควายไปสู้โจรจนนายฮ้อยเคนเห็นความตั้งใจจึงยอมให้ร่วมทัพควายครั้งนี้ด้วย

บักสีโห - ชอบร้องลำทำเพลง พกแคนที่มีมีดเล็กๆซ่อนอยู่ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด 
ทิดสุบิน - บ้าพลังมีอีดาบเล่มโตเป็นอาวุธ บุ่มบ่าม ชอบลุยไม่คิดหน้าคิดหลัง

ทิดจันทา - นักมวยฝีมือดี เชิงมวยดุดัน คู่บู๊ขาลุยคู่กับทิดสุบิน

ทิดแสง - พ่อครัวประจำทัพควาย ฝีมือปรุงอ่อม ปรุงปลาแดก ลาบกะปอม ทำเอาทุกคนติดใจ มีปังตอสับ ปลาแดกเป็นอาวุธประจำตัว

บุญเพ็ง - ผู้ช่วยทิดแสงคอยคุมเกวียนเสบียง ซื่อๆบื้อๆไม่ทันคน อาศัยว่าตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ใครเห็นก็กลัวหัวหด แต่ใจมันกลับเล็กกว่าปลาซิว

อาจารย์เม้า - เชี่ยวชาญพิธีกรรม รู้จักคุณไสยทุกประเภท เพราะเคยบวชเรียนมานาน

จ้อน- บักหำน้อยน้องชายวัยซนของบักจ่อย แอบตามทัพควายไปด้วยเพราะความอยากรู้อยากเห็น

นอกจากนี้ก็ยังมีอีก 4 เฒ่าทำหน้าที่ขับเกวียนที่คอยสร้างเสียงเฮฮาให้กับทัพควายสม่ำเสมอ เฒ่าอ่วม - เฒ่าแต้ม - เฒ่าเข่ง- เฒ่าอ่ำและ มืด ลูกมือของ 3 เฒ่าที่ติดตามไปกับขบวนทัพควาย

เมื่อถึงฤกษ์งามยามดีแก่เวลาที่นายฮ้อยเคนจะนำเอาความหวังของชาวบ้านไปแลกเป็นเงิน บักจันดีวางแผนจะปล้นควายของนายฮ้อยเคน จึงไปลักขโมยควายของชาวบ้านมาจากที่อื่นแล้วขอร่วมขบวนทัพควายไปเมืองล่างด้วย แต่นายฮ้อยเคนปฏิเสธไม่ให้บักจันดีเข้าร่วม บักจันดีจึงประกาศว่าจะพาเดินทัพควายเองไปพร้อมๆกับนายฮ้อยเคน โดยหวังตามประกบหาจังหวะช่วงชิงควายเมื่อนายฮ้อนเคนเผลอ คำแก้วซึ่งถูกพี่เขยปฏิเสธไม่ให้ร่วมเดินทางไปกับทัพควาย เพราะไม่อยากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวและกลัวว่าพี่เขยจะไปยุ่งกับผู้สาวอื่นระหว่างเดินทางไปเมืองล่าง จึงหันไปขอร้องบักจันดีให้ช่วยตามทัพควายของนายฮ้อยเคน บักจันดียอมตกลงให้คำแก้วไปกับ ทัพควายของตนเพราะหวังจะเอาชนะใจคำแก้วในระหว่างทาง แต่กว่าคำแก้วจะรู้ว่าบักจันดีเป็นคนเลวก็เกือบเพลี่ยงพล้ำเสียท่าให้บักจันดีกับพวก จนนายฮ้อยเคนต้องเข้าช่วยเหลือ และจำเป็นต้องยอมให้คำแก้วร่วมเดินทางไปกับทัพควายครั้งนี้ 

เมื่อขบวนทัพควายของนายฮ้อยเคนเดินทางไปถึงทุ่งกุลาร้องไห้ นายฮ้อยเคนต้องเผชิญกับเล่ห์กลของ เฒ่าโสม อดีตนายฮ้อยที่หวังใช้ แสงโสม ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่คล่องแคล่วและฝีมือดีเพราะโตมากับพวกนักเลงอันธพาล เพื่อเป็นเครื่องมือแก้แค้นที่จะทำให้ทัพควายของนายฮ้อยเคนต้องล่มจมและวิบัติ เพราะอดีตเกี่ยวกับชาติกำเนิดของนายฮ้อยเคนที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฒ่าโสมได้ร่วมมือกับเสือคำแสนคู่อาฆาตของนายฮ้อยเคน รวมทั้งบักจันดีที่ยังแค้นนายฮ้อยเคนไม่หายเรื่องคำแก้ว แต่สุดท้ายนายฮ้อยเคนก็ผ่านพ้นอันตรายจากเฒ่าโสมมาได้เพราะความช่วยเหลือจากแสงโสมที่เปลี่ยนใจมาร่วมมือและขอเดินทางไปกับนายฮ้อยเคน หลังรู้ ว่าพ่อโกหกตัวเองมาตลอดเรื่องความเลวของนายฮ้อยเคน

การเดินทางของทัพควายต้องบุกป่าฝ่าดงมุ่งหน้าสู่เมืองล่างต่อไป เมื่อทัพควายเดินทางมาถึงทุ่งสัมฤทธิ์ทัพควายของนายฮ้อยเคนก็ต้องประสบปัญหากับพวกกลุ่มโจรผีปอบ ที่มักเข้ามาลักปล้นวัวควาย แล้วสังหารวัวควายเอาเนื้อไปกินดิบๆอย่างโหดร้ายทารุณ โดยมีหัวหน้าโจรดุดันอย่าง เสือเปล่ง และ เสือปราย จอมโหดผู้เป็นลูกชายคอยติดตามไล่ล่าฉุดพวกผู้หญิงในทัพควาย กว่าจะผ่านพ้นและจัดการสองเสือผู้ชั่วร้ายรวมทั้งได้ช่วยเหลือ บัวเขียว หญิงสาวที่ถูกพวกเสือเปล่งจับตัวเอาไว้ได้ ทัพควายก็ต้องเสียทั้งคนและควายไปไม่น้อย ทำให้ขวัญและกำลังใจของทัพควาย นายฮ้อยเคนเริ่มระส่ำต่างคนต่างกลัวว่าจะเอาชีวิตไม่รอดถึงเมืองล่าง หน้าลูกเมียก็คงจะไม่ได้กลับไปเจอ แต่นายฮ้อยเคนก็พยายามให้คำมั่นสัญญาว่าจะต้องไม่มีการสูญเสียอีก แม้ว่าหนทางข้างหน้า ที่ต้องเผชิญคือด่านสุดท้ายที่จะต้องฝ่าฝันอย่างหนักหนาสาหัสก็ตาม

ที่แห่งนั้นคือเขาใหญ่หรือดงพญาเย็น ขุนเขาแห่งความตายสุดท้ายที่นายฮ้อยเคนต้องพาทัพควายผ่านไปให้ได้ แต่แม้ว่านายฮ้อยเคนจะเพิ่มความระมัดระวังทั้งจากเสือคำแสนและบักจันดีที่ยังตามไล่ล่าพวกตนไม่หยุดแล้ว นายฮ้อยเคนก็ยังไม่พ้นต้องเผชิญกับ เสือคูน คอยดักปล้น ชื่อเสียงของเสือคูนนั้นได้ชื่อว่าทั้งเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหดไม่มีใครเกิน ผู้บูชาไฟเป็นขุนโจรร้ายเมื่อครั้งที่นายฮ้อยเคนยังเป็นผู้ช่วยนายฮ้อยติดตามทัพควายนายฮ้อยคนอื่น ไม่เคยมีนายฮ้อยคนไหนที่เอาชนะเสือคูนได้ หัวกะโหลกของนายฮ้อยที่พ่ายแพ้แก่เสือคูนนั้นถูกเรียงเป็นแถวไว้ที่ชุมเสือ

ของเสือคูน คือเครื่องแสดงความเก่งกาจและโหดเหี้ยมเป็นอย่างดี แต่ถ้านายฮ้อยเคนผ่านพ้น
ดงพญาเย็นและเสือคูนนี้ไปได้ นายฮ้อยเคนก็จะสามารถไปถึงเมืองล่างนำความหวังของชาวบ้านสว่างแดนดินให้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง 

นั่นหมายความว่า..นายฮ้อยเคนต้องแก้ปัญหาความสามัคคีในทัพควายที่กำลังร้าวฉานมากขึ้น ทั้งจากเรื่องความรักที่นายฮ้อยเคนเริ่มมีใจกับคำแก้ว แต่นั่นคือการผิดคำสัญญาว่าจะไม่รักใครอีกที่มี ต่อคำแพง ความร้าวฉานระหว่างนายฮ้อยเคนกับผู้ช่วยโทนที่เริ่มแตกคอเพราะความหึงหวงที่โทนเข้าใจว่าแสงโสมไปรักนายฮ้อยเคน และการทะเลาะเบาะแว้งกันของชาวคณะทัพควายที่เริ่มแบ่งพรรค

แบ่งพวก แตกแยกความคิดเรื่องการค้าควาย และเรื่องที่นายฮ้อยเคนปล่อยให้คำแก้ว แสงโสมกับ
บัวเขียวซึ่งเป็นผู้หญิงเดินทางมากับทัพควาย เพราะถือเป็นลางวิบัติ โดยมีบักจันดีกับเสือคำแสน
เข้ามายุยง

ความยากเย็นแสนเข็ญครั้งสุดท้ายกลางป่าดงพญาเย็นขุนเขาแห่งความตายนี้จึงเป็นการตัดสินชีวิตครั้งสำคัญของนายฮ้อยเคน การต่อสู้ระคนไปกับความรัก การสู้รบ ความบ้าคลั่งของขุนโจร ความผูกพันทั้งคน และสัตว์ การพลัดพรากเพราะความตาย ทุกอย่างล้วนประเดประดังเข้ามาจนในที่สุดนายฮ้อยเคนก็สามารถผ่านพ้นอันตรายทั้งปวงมาได้ด้วยความสามัคคีของชาวคณะทัพควาย ที่นายฮ้อยเรียกกลับคืนมาได้อีกครั้ง 

ทัพควายสามารถเดินทางบรรลุถึงจุดหมายที่เมืองล่างหลังจากได้เผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆมากมายอย่างโชกโชนชอกช้ำ ชาวทัพควายขายควายได้เงินพร้อมกลับคืนสู่อ้อมกอดของผู้คนอันเป็นที่รัก ผู้ช่วยโทนกับแสงโสมได้เปิดใจกันและกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด

ส่วนนายฮ้อยเคนกับคำแก้วที่มีคำว่าพี่เขยน้องเมียค้ำคออยู่ แต่เมื่อผ่านพ้นการเดินทาง 
ที่ต้องช่วยเหลือกันมาตลอดทาง ทั้งสองก็ก้าวพ้นกำแพงที่สร้างขึ้นมากีดกันความรักที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ นายฮ้อยเคนบอกรักคำแก้วและเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคำแก้ว

โดยการประกาศเลิกเป็นนายฮ้อยและเลิกค้าควายด้วย เพราะยุคสมัยได้เปลี่ยนไปเมื่อการคมนาคมขนส่งสะดวกมากขึ้น อาชีพนายฮ้อยหมดความจำเป็นอีกต่อไป

ตัวละคร นายฮ้อยทมิฬ

- ตัวละครฝั่งนายฮ้อย -
นายฮ้อยเคน 
นายฮ้อยหนุ่มหล่อวัย 25 รูปร่างกำยำเก่งกาจในทุกศาสตร์ทุกแขนง มีความรู้มากกว่าชาวบ้านทั่วไป เพราะผ่านการฝึกฝนมาตลอดชีวิตที่เคยเป็นผู้ช่วยนายฮ้อย จนมีความชำนาญพาทัพควายเดินทางผ่านที่ๆแสนกันดารที่แห่งไหนมีโจรชุกชุมก็รู้จักหลบหลีกหรือรับมือ ที่ไหนต้องผจญสิงสาราสัตว์ก็ต้องพาทัพควายผ่านพ้นไปให้ถึงเมืองล่างให้ได้ นอกจากนั้นยังถูกนับถือว่าเป็นคนหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพันชาตรีแม้งูเงี้ยวเขี้ยวขอที่มีพิษก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ผีสางคางแดงไม่ว่าระดับไหนเป็นปราบได้หมด เมื่อควายและลูกน้องทัพควายเจ็บป่วย ก็มีความรอบรู้ใช้รากไม้ สมุนไพรรักษาให้หายเป็นปลิดทิ้ง เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่เข้าข้างใครยึดความถูกต้องมาก่อน รักเดียวใจเดียว 

คำแก้ว 
สาวสวยวัย 20 แก่นกะโหลก กระโดกกระเดกไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงทั่วไป ลุยเป็นลุย ต่อปากต่อคำเก่ง มั่นใจตัวเองสูงชอบเอาแต่ใจตัวเองเพราะพ่อแม่ตายแต่เล็กเลยมีพี่สาวคอยเลี้ยงดูและเอาใจมาตลอดจึงรักพี่สาวเหมือนแม่เมื่อคราวที่พี่สาวแต่งงานกับนายฮ้อยเคนเคยเกลียดขี้หน้าไม่ชอบนายฮ้อยเคนเพราะคิดว่าจะมาแย่ง

พี่สาวไป แต่พอนายฮ้อยเคนดูแลตนและพี่สาวจนมีชีวิตที่ดีก็ไว้ใจและรักพี่เขยอย่างพี่ชายมาตลอด
จนเมื่อพี่สาวตายความใกล้ชิดที่ต้องเดินทางไปกับพี่เขยก็ทำให้ตัวเองรู้ใจว่ากำลังรักพี่เขยเหมือนอย่างที่หญิงสาวพึงรักชายหนุ่ม

ผู้ช่วยโทน 
หนุ่มฉกรรจ์รุ่นน้องของนายฮ้อยเคนอายุ 25 เคยติดตามเป็นผู้ช่วยนายฮ้อยเคนมาหลายปี ไม่ค่อยประสีประสา เรื่องความรักเพราะทำแต่งาน หลงรักคนง่าย อกหักบ่อย คิดอะไรตัดสินใจอะไรมักใจร้อนต้องมีนายฮ้อยเคนคอย ปรามประจำ สนิทสนมกับนายฮ้อยเคนเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่บางครั้งก็มักขัดใจและไม่ลงรอยกันบ้าง มีหน้าไม้อายยาพิษเป็นอาวุธ

แสงโสม 
หญิงสาววัย 20 ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเฒ่าโสม มีฝีมือทางการต่อสู้หลายอย่าง ฝึกฝนทั้งมือเปล่าและปืนผา หน้าไม้ จนคล่องแคล่วและฝีมือดีเพราะโตมากับพวกนักเลงอันธพาลที่แวดล้อมอยู่รอบตัวพ่อ แต่ไม่เคยออกปล้น หรือทำตัวระรานใคร มีแต่ทำให้พวกอันธพาลเกรงใจเพราะฝีมือดีเอาชนะผู้ชายได้สบาย หลงเข้าใจผิดเรื่องนาย 

ฮ้อยเคนมาตลอด จนโดนพ่อหลอกใช้ให้ไปเล่นงานนายฮ้อยเพื่อแก้แค้นเรื่องในอดีตของพ่อ แต่เมื่อมารู้ความจริง ว่าพ่อตัวเองต่างหากที่ผิด ก็หันมาช่วยเหลือนายฮ้อยเคนและขอตามไปเมืองล่างจนได้พบรักกับผู้ช่วยโทน 

บัวเขียว 
หญิงสาววัย 30 ถูกพวกเสือเปล่งฉุดมาจากหมู่บ้านแล้วขังเอาไว้ พวกมันฆ่าพ่อแม่ตายหมดจึงไม่เหลือใคร เมื่อนายฮ้อยเคนช่วยเหลือเอาไว้ได้จึงเป็นหนี้บุญคุณ และขอติดตามรับใช้นายฮ้อยกับทัพควายเพื่อตอบแทนบุญคุณ อาชีพดั้งเดิมอยู่ที่บ้านคือเป็นหมอลำ จึงร้องเพลงเก่ง

คำแพง (รับเชิญ) 
เมียนายฮ้อยเคน อายุ 24 ปี เรียบร้อย เป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว ชอบทำบุญสุนทาน แต่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง

ผู้ช่วยถึก 
ผู้ช่วยคนที่ 2 ของนายฮ้อยเคนอายุ 50 ปี สุขุมใจเย็นคอยเป็นกาวใจให้ผู้ช่วยโทนกับนายฮ้อยเคนเวลาที่ไม่ลงรอยกันมีหน้าที่ช่อมแซมเกวียนและอาวุธปืนผาหน้าไม้

บักจ่อย 
เด็กหนุ่มตัวเล็กหุ่นขี้ก้าง อายุ 20 ปี มีความปรารถนาอยากเป็นนายฮ้อยที่เก่งกาจอย่างน้อยฮ้อยเคน เคยถูกปฏิเสธไม่ให้ร่วมทัพควายแต่เพราะความตั้งใจและเคยแอบหนีตามทัพควายไปสู้โจรจนนายฮ้อยเคนเห็นความตั้งใจจึงยอมให้ร่วมทัพควายครั้งนี้ด้วย

บักสีโห 
อายุ 35 ปี ชอบร้องลำทำเพลง พกแคนที่มีมีดเล็กๆซ่อนอยู่ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด 

ทิดสุบิน 
อายุ 40 ปี บ้าพลังมีอีดาบเล่มโตเป็นอาวุธ บุ่มบ่าม ชอบลุยไม่คิดหน้าคิดหลัง

ทิดจันทา 
อายุ 45 ปี นักมวยฝีมือดี เชิงมวยดุดัน คู่บู๊ขาลุยคู่กับทิดสุบิน

ทิดแสง 
พ่อครัวประจำทัพควาย อายุ 40 ปี ฝีมือปรุงอ่อม ปรุงปลาแดก ลาบกะปอม ทำเอาทุกคนติดใจ มีปังตอสับปลาแดกเป็น อาวุธประจำตัว

บุญเพ็ง 
ผู้ช่วยทิดแสง อายุ 35 ปี คอยคุมเกวียนเสบียง ซื่อๆบื้อๆไม่ทันคน อาศัยว่าตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ใครเห็น ก็กลัวหัวหดแต่ใจ มันกลับเล็กกว่าปลาซิว

อาจารย์เม้า 
อายุ 55 ปี เชี่ยวชาญพิธีกรรม รู้จักคุณไสยทุกประเภท เพราะเคยบวชเรียนมานาน

จ้อน 
บักหำน้อยน้องชายวัยซนของบักจ่อย อายุ 10 ปี แอบตามทัพควายไปด้วยเพราะความอยากรู้อยากเห็น 

เฒ่าอ่วม - เฒ่าแต้ม - เฒ่าเข่ง และ ไอ้มืด 
ลูกมือของ 3 เฒ่าที่ติดตามไปกับขบวนทัพควาย

คำม่วน 
สาวแสบประจำบ้านสว่างแดนดิน อายุ 24 ปีชอบมาให้ท่านายฮ้อยและอยากจับนายฮ้อยเป็นผัว
ตั้งแต่รู้ว่าคำแพงเริ่มป่วยใกล้ตาย จึงเป็นคู่ปรับกับคำแก้วที่ลงไม้ลงมือตบตีกันเป็นประจำ 

น้อย
น้องสาวของมืด อายุประมาณ22-23 ปี เป็นเพื่อนของคำแก้ว น้อยจะเป็นคนเชื่อคนง่าย เคยถูกหลอกจากคนเมืองล่างให้ไปขายตัว แต่ถูกช่วยกลับมาได้

ย่าเฒ่า
ผู้เฒ่าผู้แก่อีกคนหนึ่งของหมู่บ้านสว่างแดนดินอยู่กับหลานสุดที่รักบักจ่อยกับจ้อน

หลวงพ่อ
เป็นหลวงพ่อประจำหมู่บ้านสว่างแดนดิน อายุประมาณ 40-45 ปี

เฒ่าอ่ำ
ผู้ติดตามไปกับทัพควาย อายุ40 ปี เป็นผู้มีความรู้ เชี่ยวชาญพิธีกรรม เคยบวชเรียนมา

ทิดแก้ว
คนในขบวนทัพควาย อายุ 40-45 ปี อยู่ติดกับขบวนทัพควายตลอดชอบร้องรำทำเพลง เชื่อเรื่องผีสางเทวดา กลัวผีเป็นที่หนึ่ง

ทิดเขียว
ชาวบ้านในหมู่บ้านสว่างแดนดิน อายุ 25-26 ปี เคยถูกบักจันดีขโมยควาย แต่ได้คืนเพราะนายฮ้อยเคนได้เอากลับคืนมาให้ แต่พอนายฮ้อยเคนจะออกค้าควายครั้งใหญ่จึงขอติดขบวนควายเพื่อนำควายตัวเองไปขายด้วย จะยึดถือขนบธรรมเนียมเป็นหลักและไม่ชอบให้พวกผู้หญิงมาร่วมกับขบวนควาย

- ตัวละครฝั่งผู้ร้าย -

บักจันดี 
นักเลงหนุ่มหล่อวัยเดียวกับนายฮ้อยเคน อายุ 25 ปี เป็นจอมอันธพาลที่มาชอบพอและพยายามตีสนิทคำแก้ว สันดานเป็น พวกหัวขโมย เจ้าเล่ห์ เจ้าชู้ ตลบตะแลง ตีสองหน้าเก่ง ชอบใช้ให้คนอื่นทำแทน ถ้าได้ดีก็เอาหน้า เห็นแก่ตัวสุดๆ

คำสร้อย 
สาวสวยอีกคนหนึ่งของบ้านสว่างแดนดิน อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ตัวคนเดียวมีความสวยเป็นเครื่องมือล่อหลอกผู้ชายให้มาเลี้ยง ดู แต่ไม่เคยตกลงปลงใจกับใครง่ายๆ โดยเฉพาะบักจ่อยที่มาหลงรักคำสร้อยหัวปักหัวปำ แต่ก็ถูกคำสร้อยหลอก กินหลอกใช้ จนคำสร้อยไปรักชอบพอจริงๆกับบักจันดีก็คิดว่าบักจันดีจะเอาเป็นเมีย แต่พอรู้ว่าบักจันดีอยากได้คำแก้วเป็นเมียก็ไปตามหึงหวงเสนอหน้าไปกับทัพควายของบักจันดีเพื่อกีดกันจันดีกับคำแก้ว

เสือคำแสน 
หัวหน้าชุมโจร อายุ 28 ปี โหดเหี้ยมซึ่งคอยพาพวกดักปล้นควายจากพวกนายฮ้อยคนอื่นๆอยู่เนืองๆ เคยประกาศเป็นศัตรูไปชั่วชีวิตกับนายฮ้อยเคน เมื่อคราวที่เคยพยายามปล้นทัพควายแต่ถูกนายฮ้อยเคนสร้างบาดแผลเอาไว้บนหน้า สันดานมักใหญ่ใฝ่สูงแต่ไม่เจ้าชู้ ชอบกินแต่เหล้าและดูคนตีกัน ชอบเห็นเลือดมากกว่าดูผู้สาว

จันแดง
เป็นลูกสาวคนโตของเฒ่าโสม และเป็นพี่สาวของบุญตา แต่ลักษณะนิสัยแตกต่างจากน้องสาวอย่างสิ้นเชิง เป็นคนเรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่เรือน เคยรู้จักนายฮ้อยเคนมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะนายฮ้อยเคนเคยช่วยชีวิตไว้

บุญตา 
น้องสาวของเสือคำแสน อายุ 22 ปี เป็นเสือสาวที่มีฝีมือแพรวพราว ออกร่วมปล้นกับพี่ชายได้อย่างถึงไหนถึงกัน แต่เสียท่าให้ บักจันดีเพราะติดใจความหล่อและคารม จนถูกบักจันดีหลอกใช้เล่นงานหักหลังพี่ชายตัวเอง

กุลา 
ลูกน้องมือขวาของเสือคำแสนที่ถูกส่งไปช่วยเหลือบักจันดีเพื่อขโมยควายมาสร้างทัพควาย เดินทางประกบตามนายฮ้อยเคน คอยทำหน้าที่ส่งข่าวให้เสือคำแสนเพราะไม่ไว้ใจบักจันดี

กะปอม - กาเหว่า 
2 ลูกน้องฝีมือร้ายกาจของเสือคำแสน ฝีมือดุดันเอาเรื่อง พูดน้อยต่อยหนัก ภักดีกับเสือคำแสน สั่งให้ไปตายก็ไป

เฒ่าโสม 
อดีตนายฮ้อยค้าควายแห่งบ้านเสือโฮกอายุ 60 ปีนายฮ้อยเคนให้ความเคารพเพราะเคยเป็นผู้ช่วยเฒ่าโสมมาก่อนเฒ่าโสมเป็นผู้กุมความลับเรื่องพ่อแม่ของนายฮ้อยเคนสร้างเรื่องโกหกว่าพ่อแม่นายฮ้อยเคนตายเพราะ

ฝีมือโจร แต่ตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าเพื่อแย่งชิงสมบัติของน่านเมืองพ่อของนายฮ้อยเคน เมื่อนายฮ้อยเคนเริ่มระแคะระคาย สงสัยเรื่องในอดีตของตนก็หลอกใช้ลูกสาวตัวเองและพวกโจรเพื่อเล่นงานนายฮ้อยเคน 

เสือเปล่ง 
หัวหน้าชุมโจรผีปอบผู้เหี้ยมโหด อายุ 50 ปี ชอบเล่นไสยศาสตร์ชอบกินเนื้อวัวควายดิบๆนับถือผีปอบจนใครๆก็คิดว่าเสือเปล่งเป็นผีปอบ

เสือปราย 
ลูกชายของเสือเปล่งอายุ 30 ปีเจ้าชู้เหี้ยมโหดไม่ผิดพ่อพยายามฉุดหญิงสาวในทัพควาย

เสือคูน 
มหาโจรแห่งดงพญาเย็น อายุ 50 ปี ผู้บูชาไฟเป็นครู ได้ชื่อว่าอยู่ยงคงกะพัน มีไฟเป็นอาวุธที่เรียกใช้ได้ตลอดเวลา เป็นขุนโจรร้ายที่สุดที่คอยดักปล้นพวกนายฮ้อย ชื่อเสียงของเสือคูนนั้น ได้ชื่อว่าทั้งเจ้าเล่ห์

และเหี้ยมโหดไม่มีใครเกิน เวลาที่ฆ่าเหยื่อตายแล้วมักจะตัดหัวเอากะโหลกมาวางเรียง
อวดศักดาว่าไม่เคยมีใครพ้นเงื้อมมือตน 
















 




นำเสนอข่าวโดย : Kittisuda .,
แหล่งที่มาข่าวโดย : ผู้จัดการ

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข