กฎหมาย เอบี 645 ที่ผ่านความเห็นชอบและลงนามเป็นกฎหมายโดยผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 จะทำให้มีการติดตั้งกล้องจับความเร็ว หรือ Speed safety cameras ในหกเมืองใหญ่ของแคลิฟอร์เนีย คือลอส แอนเจลิส, ซานฟรานซิสโก, โอ๊คแลนด์, ซานโฮเซ่, ลองบีช และเกลนเดล โดยกล้องจับความเร็วจะถ่ายภาพรถยนต์ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกใบสั่งปรับในภายหลัง

โดยเมืองซานฟรานซิสโก เป็นเมืองแรกที่มีการติดตั้งกล้องจับความเร็ว โดยได้ติดตั้งไปแล้ว 33 กล้อง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

“การขับรถเร็วถือเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและบาดเจ็บในซานฟรานซิสโก” หัวหน้าสำนักงานขนส่งมวลชนของซานฟรานซิสโก กล่าว “นั่นคือเหตุผลที่เราเดินหน้าอย่างรวดเร็ว จนเป็นเมืองแรกของแคลิฟอร์เนีย ที่แนะนำเครื่องมือช่วยให้คนขับลดความเร็วลง ซึ่งจะลดการสูญเสียลงได้อย่างมาก”

ในส่วนของเมืองลอส แอนเจลิส ซึ่งจะเริ่มติดตั้งกล้องจับความเร็วในปี 2026 นั้น สำนักงานขนส่งมวลชนฯ ระบุบนเว็บไซต์ว่า สาเหตุ “หนึ่งในห้า” ของอุบัติเหตุรถยนต์ร้ายแรงระหว่างปี 2017-2021 คือการขับรถเร็ว และบอกว่า กล้องจับความเร็ว สามารถลดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันได้ถึง 19 เปอร์เซ็นต์ ทำให้จำนวนผู้บาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต ลดลงตามไปด้วย โดยเทศบาลเมืองแอลเอ ประเมินว่า กล้องจับความเร็วที่จะมีการติดตั้งตามถนนหลายสายในปีหน้า จะทำให้รถยนต์ 63 เปอร์เซ็นต์ลดความเร็วลงเฉลี่ย 10 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

โดยข้อมูลขณะนี้ บอกเพียงแต่ว่าจะมีการติดตั้งกล้องจับความเร็วใกล้โรงเรียน สวนสาธารณะ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และในย่านการค้า (commercial districts) แต่สำนักงานขนส่งมวลชนฯ ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะมีการติดตั้งกล้องจับความเร็วที่ไหนบ้าง

ส่วนค่าปรับนั้น เว็บไซต์ของสำนักงานขนส่งมวลชนฯ แอลเอ บอกว่าหากขับเร็วเกินกำหนดระหว่าง 11-15 ไมล์ต่อชั่วโมง ค่าปรับจะอยู่ที่ 50 ดอลลาร์, ขับเร็วเกิน 16-25 ไมล์ต่อชั่วโมง ค่าปรับจะขยับเป็น 100 ดอลลาร์, หากขับเร็วเกินระหว่าง 26-99 ไมล์ต่อชั่วโมง ค่าปรับจะอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ และหากขับเร็วเกินกำหนดมากกว่า 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ค่าปรับจะสูงถึง 500 ดอลลาร์

ทั้งนี้ หลังจากมีการติดตั้งกล้องจับความเร็วแล้ว เทศบาลจะให้เวลาผู้ใช้รถ 60 วัน เพื่อทำความเข้าใจกับระบบจ่ายตั๋วอัตโนมัติ ก่อนบังคับใช้กฎหมาย และว่าการทำผิดครั้งแรกของผู้ใช้ความเร็วเกินพิกัดระหว่าง 11-15 ไมล์ต่อชั่วโมงนั้น จะได้รับหนังสือเตือนแทนใบสั่ง

ในส่วนของการจ่ายค่าปรับนั้น สำนักงานขนส่งมวลชนฯ บอกว่า ผู้ได้รับใบสั่งสามารถสมัครเข้าโปรแกรมทำงานรับใช้ชุมชน หรือ community service แทนการจ่ายค่าปรับได้ และหากเป็นครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ก็สามารถยื่นเรื่องขอผ่อนจ่ายหรือลดค่าปรับลงได้.