เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2025 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไอกรน หรือ Whooping cough ซึ่งเป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรงในกลุ่มทารก โดบบอกว่านับจากต้นปี จนถึงวันที่ 26 เมษายน 2025 มีผู้ป่วยจากโรคนี้มากถึง 9,047 ราย หรือเกือบสองเท่าของจำนวนผู้ป่วยตลอดปี 2024 ซึ่งมีเพียง 4,700 ราย

จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายชนิดนี้แล้ว 4 ราย เป็นทารกในหลุยเซียน่า 2 ราย ที่เหลือเป็นทารกจากนอร์ธ ดาโกต้าและไอดาโฮ่

โรคไอกรน ระบาดหนักในช่วงสปริงและฟอลล์ โดยปกติจะติดต่อผ่านละอองน้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยที่ไอตลอดเวลา  หรือผ่านการหายใจหากอยู่ใกล้ชิดกัน ส่วนอาการของโรคจะคล้ายกับอาการของไข้หวัด (cold) แต่จะมีการไอที่รุนแรงจนแทบหายใจไม่ทัน โดยซีดีซีบอกว่าโรคนี้มันอันตรายมากในกลุ่มเด็กทารกที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า โรคที่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน เช่นโรคหัด, ไอกรน กำลังเพิ่มขึ้นตามกระแสต่อต้านวัคซีน หรือ anti-vaccine sentiment ในอเมริกา ทำให้สัดส่วนของการปฏิเสธวัคซีนสำหรับเด็กด้วยเหตุผลด้านสุขภาพและความเชื่อทางศาสนา (vaccine exemptions) เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ซีดีซีแนะนำให้ฉีดวัคซีนที่เรียกว่า Pertussis vaccine (ซึ่งนอกจากจะป้องกันไอกรนแล้วยังสามารถป้องกันโรคคอตีบและบาดทะยัก) ให้ทารกวัยสองเดือน สี่เดือนและหกเดือน อีกทั้งแนะนำให้สตรีมีครรภ์รับการฉีดวัคซีนชนิดนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันกับทารกแรกเกิดด้วย ส่วนผู้ใหญ่ทั่วไป ซีดีซีแนะนำให้ฉีดวัคซีนทุกๆ สิบปี

ข้อมูลของซีดีซี บอกว่ารัฐทางฝั่งตะวันตกของประเทศ มีการระบาดของไอกรนสูงกว่าภูมิภาคอื่น เช่นรัฐวอชิงตัน มีผู้ป่วยไอกรน (ที่ได้รับการยืนยันแล้ว) มากกว่า 1,000 ราย, โอเรก้อน 663 ราย และแคลิฟอร์เนีย 590 ราย

รัฐอื่นๆ ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงมากก็เช่น มิชิแกน 537 ราย, โอไฮโอ้ 494 ราย, ฟลอริด้า 468 ราย, วิสคอนซิน 346 ราย และอิลลินอยส์ 319 ราย.