สถานีข่าว ฟ็อกซ์ 5 ของซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ รายงานข่าวที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานภายใต้นโยบายอิมมิเกรชั่นแบบแข็งกร้าวของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2025 โดยบอกเล่าถึงเรื่องราวของ อัลโด้ มาร์ติเนซ-โกเมซ ชาวอเมริกันในซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ ที่อาศัยอยู่ในย่านเซาท์เบย์มาตลอดชีวิตของเขา

“ผมเกิดที่โรงพยาบาลพาราไดซ์ แวลเลย์ ในเมืองเนชั่นแนล ซิตี้ และเติบโตมาในชูล่าวิสต้า” มาร์ติเนซ-โกเมซ กล่าว พร้อมแสดงสูจิบัตรเป็นเครื่องยืนยัน

โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 เขาได้รับอีเมล์จากกระทรวงความมั่นคงภายใน บอกว่าเขามีเวลา 7 วันในการเดินทางออกไปจากอเมริกา

อีเมล์ระบุว่า “หากคุณไม่ออกไปจากสหรัฐอเมริกาโดยทันที คุณอาจถูกจับกุมโดยผู้รักษากฎหมาย ซึ่งจะทำให้คุณถูกเนรเทศจากสหรัฐอเมริกา” และว่า “อย่าพยายามหลบหนีอยู่ในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจะตามหาคุณจนพบ”

มาร์ติเนซ-โกเมซ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรไม่หวังผลกำไร (เอ็นจีโอ) ที่ช่วยเหลือด้านกฎหมายกับผู้อพยพที่ต้องขึ้นศาลอิมมิเกรชั่น กล่าวว่า “จะให้ผมไปไหน ผมเกิดที่เนชั่นแนล ซิตี้ เติบโตและอยู่ในซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ ตลอดชีวิตของผม”

มาร์ติเนซ-โกเมซ กล่าวอย่างกังวลว่าอีเมล์ฉบับนั้น ทำให้เขาต้อง “ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา”

“เมื่อผมต้องไปช่วยลูกความในศาลอิมมิเกรชั่น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของไอซ์อยู่ใกล้ๆ ผมจะถูกกักตัวตอนนั้นหรือเปล่า หรือพวกเขาจะบุกไปที่บ้านของผม”

ฟ็อกซ์ 5 ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยังกระทรวงความมั่นคงภายใน ได้รับตอบว่า ซีบีพี (สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน) จะใช้อีเมล์ที่ได้รับจากคนต่างด้าว ในการส่งคำเตือนลักษณะดังกล่าวไปให้ แต่หากอีเมล์ที่ได้รับจากต่างด้าว เป็นของอเมริกันซิติเซ่น ก็ขอให้ทราบว่าคำเตือนนั้นถูกส่งไปถึงผู้รับโดยไม่มีเจตนา

แม้จะทราบว่าเป็นอีเมล์ขับไล่ไสส่งจากกระทรวงความมั่นคงภายใน เป็นความผิดพลาดของรัฐบาล แต่มาร์ติเนซ-โกเมซ ก็ยังไม่สบายใจนัก

“ผมต้องคิดแผนฉุกเฉินเอาไว้กับแม่ เป็นอะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำ ผมต้องป้องกันตัวเอง โดยการคุยกับผู้คน และให้สัมภาษณ์สื่อฯ ผมไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่ต้องการเน้นให้เห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่อยากเป็นหนึ่งในความผิดพลาดของรัฐบาล” มาร์ติเนซ-โกเมซ กล่าว.