เว็บไซต์ข่าว เดอะฮิลล์ รายงานเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2024 ถึงความคืบหน้าของคดีฟ้องร้องหมู่ (class action) ที่กล่าวหาว่าแอปเปิลไม่รับผิดชอบปัญหาของ ไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2016 ทั้งที่รู้ดี ถึงปัญหาดังกล่าว

โดยคำฟ้องในนามผู้บริโภคบอกว่า ไอโฟนรุ่นดังกล่าว มีปัญหากับ ออดิโอ้ ไอซี (the audio integrated chip) ทำให้สปีกเกอร์ และไมโครโฟนของเครื่องรุ่นนี้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ, เครื่องค้าง (unresponsive) หรือรีสตาร์ทเครื่องเอง, ขณะที่ฟีเจอร์ที่ต้องใช้ไมโครโฟน ไม่ว่าจะเป็น สิริ หรือปุ่มบันทึกเสียง (voice memos) ทำงานติดขัด เสียงขาดๆ หายๆ ฯลฯ ผู้ใช้บางคนไม่สามารถคุยโทรศัพท์ผ่านสปีกเกอร์ได้ หรือไม่ได้ยินเสียงจากคลิปวิดีโอ หรือภาพยนตร์ที่สตรีมผ่านไอโฟนรุ่นนี้ได้ ฯลฯ

คำร้องระบุว่า แอปเปิล ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยการคิดค่าซ่อมแซมจากลูกค้าตามปกติ

การฟ้องร้องครั้งนี้ แอปเปิลปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และเสนอให้ยุติการฟ้องร้องด้วยเงิน 35 ล้านดอลลาร์

เดอะฮิลล์บอกว่ายอดเงิน 35 ล้านดอลลาร์นั้น หลังจากหักค่าแรง และค่าดำเนินงานของกลุ่มทนายความแล้ว ส่วนที่เหลือจะกลายเป็นกองกลางสำหรับแบ่งให้กับเจ้าของไอโฟนรุ่นที่มีปัญหาทั้งหมด

ในส่วนของผู้มีคุณสมบัติในการรับส่วนแบ่งของเงินยอมความก้อนนี้นั้น ข่าวบอกว่ามีสองข้อ คือต้องเป็นเจ้าของไอโฟน 7 หรือ ไอโฟน 7 พลัส ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2016 ถึงมกราคม 2023 และต้องเคยแจ้ง (reported) ถึงปัญหาเกี่ยวกับ ออดิโอ้ ชิป กับแอปเปิลด้วย (ซึ่งข้อมูลการแจ้งปัญหา สามารถตรวจสอบได้จากข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้บนเว็บไซต์ของแอปเปิล)

“ยอดเงินที่เจ้าของไอโฟนได้รับจะแตกต่างกัน เช่นหากคุณเคยนำเครื่องไปซ่อมและจ่ายเงินค่าซ่อมเอง ยอดเงินชดใช้จะอยู่ระหว่าง 50 - 349 ดอลลาร์ แต่หากเคยแจ้งกับแอปเปิล แต่ไม่เคยนำเครื่องไปซ่อม เงินชดใช้จะอยู่ที่ประมาณ 125 ดอลลาร์” ข่าวระบุ

การยื่นขอรับส่วนแบ่งครั้งนี้ สามารถทำได้ผ่าน เว็บไซต์ (คลิก) ภายในวันที่ 3 มิถุนายน นี้ หากไม่แน่ใจว่ามีสิทธิ์รับส่วนแบ่งจากเงินยอมความก้อนนี้หรือไม่ สามารถปรึกษาคณะทำงานได้ที่หมายเลข 1-833-633-0343.

อย่างไรก็ดี การจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งฯ จะเริ่มขึ้นภายหลังจากที่ศาลคดีแพ่ง เห็นชอบและอนุมัติข้อเสนอของทั้งสองฝ่ายในวันที่ 18 กรกฎาคม แล้วเท่านั้น.