เอพี รายงานข่าวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2023 ว่าโรงงานผลิตเนื้อจากพืช (The plant-based meat) ในเมืองเอลซีกันโด้ ชื่อ “บียอน มีท” ประกาศเลย์ออฟคนงานประมาณ 19 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 65 คน เพื่อปรับลดต้นทุน หลังผลประกอบการในไตรมาสที่ที่สาม อยู่ในสภาพย่ำแย่

ประเมินว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่สามของบียอน มีท ลดลงไม่ต่ำกว่า 8.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กล่าวคือมีรายได้เพียงประมาณ 75 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ขณะที่ตัวเลขประเมินของรายได้ตลอดทั้งปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 300-340 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงประมาณ 19-21 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นอกจากจะทำการลดคนงานแล้ว บียอน มีท ยังอาจจะระงับการผลิตสินค้าบางชนิด ปรับเปลี่ยนราคา รวมถึงย้ายโรงงานผลิตไปยังประเทศจีนด้วย

ข่าวบอกว่าความต้องการเนื้อเทียมจากพืช หรือ plant-based ในตลาดอเมริกาลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ โดยข้อมูลจากบริษัทสำรวจตลาดชื่อ Circana บอกว่าสินค้าเนื้อเทียม เช่นซอสเซส และเบอร์เกอร์ มียอดขายลดลงถึง 21 เปอร์เซ็นต์ (นับถึงวันที่ 5 ตุลาคม) ขณะที่เนื้อเทียมแช่แข็ง เช่น เทนเดอร์ และนักเก็ต ลดลง 6 เปอร์เซ็นต์

ผู้บริหารของ บียอน มีท บอกว่าผลกระทบที่ได้รับนั้น ส่วนหนึ่งมาจากสภาวะเงินเฟ้อครั้งรุนแรง เป็นเหตุให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจำเป็นต้องกลับไปบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งราคาต่ำกว่าอีกครั้ง ขณะเดียวกัน บริษัทก็ต้องเผชิญกับกลยุทธการตลาดของคู่แข่ง ที่พยายามสร้างข่าวว่าเนื้อจากพืชต้องผ่านกระบวนการผลิตซับซ้อน ถือเป็นอาหารแปรรูปที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

ข่าวบอกว่าการประกาศเลย์ออฟคนงานครั้งล่าสุดของ บียอน มีท นี้ ถือเป็นการเลย์ออฟครั้งที่สองของปีนี้ โดยครั้งแรกมีการเลย์ออฟคนงานประมาณ 240 คน โดยอ้างว่าเป็นผลมาจากสภาวะเงินเฟ้อ และการแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรงมากขึ้น

แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในตลาดอเมริกา แต่บียอน มีท บอกว่ายอดขายในทวีปยุโรป กำลังไปได้ดี โดยเฉพาะสินค้าประเภท เบอร์เกอร์ และนักเก็ต ที่กลายเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของ แม็กโดนัลด์ ด้วย ส่วนแม็กโดนัลด์ ในอเมริกา ซึ่งเคยมีการทดลองเมนูเนื้อจากพืชไปแล้วนั้น ผลปรากฎว่าไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากนัก จึงยังไม่ได้บรรจุลงเมนูของทางร้านถาวรเหมือนในยุโรป.