เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2022 ทำเนียบขาวได้แถลงถึงรายได้ที่ยื่นเพื่อเสียภาษีประจำปี 2021 ของประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยระบุว่ารายได้ของประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง รวมกัน 610,702 ดอลลาร์ ส่วนรายได้ของรองประธานาธิบดีและสามีนั้น มากกว่า 1.65 ล้านดอลลาร์

โดยเอกสารของทำเนียบขาว ระบุว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน และภรรยา จ่ายภาษีรายได้ให้รัฐบาลกลาง (federal income tax) ในอัตรา 24.6 เปอร์เซ็นต์ และว่ารายได้ของผู้นำประเทศเพิ่มขึ้นจากปี 2020 หรือก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเล็กน้อย กล่าวคือทั้งสองมีรายได้ในปี 2020 ที่ 607,336 ดอลลาร์ และเสียภาษีรายได้ในอัตรา 25.9 เปอร์เซ็นต์

“พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีได้แบ่งปันเอกสารการเสียภาษีตลอด 24 ปีที่ผ่านมากับประชาชนชาวอเมริกันด้วย เป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจในการทำงานอย่างโปร่งใสกับประชาชนชาวอเมริกัน เกี่ยวกับสถานภาพการเงินของผู้นำสูงสุด” เอกสารของทำเนียบขาวระบุ

โดยเอกสารการเสียภาษีปี 2021 ระบุว่าประธานาธิบดีไบเดน มีรายได้จากตำแหน่งประธานาธิบดี  378,333 ดอลลาร์ ถือว่าน้อยกว่าเงินเดือนเต็ม (400,000 ดอลลาร์ต่อปี) เล็กน้อย เพราะเขาเริ่มทำงานในวันที่ 20 มกราคม 2021 ส่วน จิลล์ ไบเดน มีรายได้ 67,116 ดอลลาร์จากงานในตำแหน่งศาสตราจารย์ของ นอร์ธเทิร์น เวอร์จิเนีย คอมมูนิตี คอลเลจ

นอกจากนี้ ทั้งสองยังมีรายได้จากการเขียนหนังสืออีก 61,995 ดอลลาร์

ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง บริจาคเงินผ่านองค์กรการกุศล 10 แห่ง เป็นเงิน 17,394 ดอลลาร์ โดยยอดบริจาคสูงสุด คือ 5,000 ดอลลาร์ เป็นการบริจาคให้กับมูลนิธิโบ ไบเดน องค์กรช่วยเหลือเด็กที่ตกอยู่ในอันตรายหรือถูกทำร้าย ซึ่งตั้งขึ้นตามชื่อของบุตรชายประธานาธิบดี ที่เสียชีวิตไปแล้ว

นอกจากการเสียภาษีให้กับรัฐบาลกลางแล้ว ประธานาธิบดีไบเดน ยังเสียภาษีให้กับรัฐ (เดลาแวร์) อีก 30,765 ดอลลาร์ ส่วนสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เสียภาษี 2,721 ดอลลาร์ให้กับรัฐเวอร์จิเนีย (จากงานสอนที่วิทยาลัย นอร์ธเทิร์น เวอร์จิเนีย)

ในส่วนของรองประธานาธิบดี คามาร่า แฮร์ริส และสามี ดัค เอ็มฮอฟฟ์ นั้น มีรายได้ตลอดปี 2021 รวมกัน 1,655,563 ดอลลาร์ และจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางในอัตรา 31.6 เปอร์เซ็นต์ หรือ 523,371 ดอลลาร์

รายได้ปี 2021 ของ “ครอบครัวหมายเลขสอง" นั้น ข่าวบอกว่าไม่ต่างจากปีก่อนหน้านั้นมากนัก (1.7 ล้านดอลลาร์) โดยนางแฮร์ริส มีรายได้จากเงินเดือนในตำแหน่งรองประธานาธิบดี 215,548 ดอลลาร์ (จากเงินเดือนเต็ม 230,700 ดอลลาร์ต่อปี) และมีรายได้จากการเขียนหนังสือ 400,000 ดอลลาร์ ส่วนสามี มีรายได้จากอาชีพทนายความของสำนักงานทนาย ดีแอลเอ ไปเปอร์ แอนด์ เวนนาเบิล จำนวน 582,543 ดอลลาร์ (ซึ่งเขาลาออกเมื่อต้นปี 2021 หลังจากท่ีภรรยาเข้าพิธีสาบานตัวเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ) และมีรายได้อีก 164,740 ดอลลาร์จากการเป็นอาจารย์วิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์

เอกสารของทำเนียบขาวระบุด้วยว่า นางคามาร่า แฮร์ริสและ ดัค เอ็มฮอฟฟ์ บริจาคเงินเพื่อการกุศลรวมกัน 22,100 ดอลลาร์ และว่านางแฮร์ริส เสียภาษีรายได้ให้กับรัฐแคลิฟอร์เนีย 120,517 ดอลลาร์ และรัฐนิวยอร์ก 2,044 ดอลลาร์ ขณะที่สามี จ่ายภาษีรายได้ให้กับวอชิงตัน ดีซี 54,441 ดอลลาร์

ข่าวบอกว่า การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยหลักฐานการเสียภาษีต่อเนื่องกันสองปี ทั้งระหว่างหาเสียงและขณะดำรงตำแหน่งในปีแรกนั้น เป็นการพิสูจน์ความโปร่งใสตามธรรมเนียมที่อดีตประธานาธิบดีทุกคนต่างปฏิบัติสืบมา ถือว่าต่างอย่างสิ้นเชิงกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำทุกวิถีทางในการปกปิดหลักฐานการเสียภาษีของตัวเอง โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ (under audit) ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี รวมถึงไออาร์เอส ได้ออกมาให้ความกระจ่างว่า สามารถเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีได้ แม้จะอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบก็ตาม

อย่างไรก็ตาม นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่าโดนัลด์ ทรัมป์ แทบไม่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลกลางเลยตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เพราะแจ้งว่าทำธุรกิจขาดทุนต่อเนื่องเป็นจำนวนเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ จึงได้รับการยกเว้นภาษี หรือเสียภาษีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นิวยอร์กไทมส์ อ้างหลักฐานการเสียภาษีในปี 2017 ซึ่งเป็นปีท่ีมีหลักฐานว่า ทรัมป์เสียภาษีให้รัฐบาลกลางเพียง 750 ดอลลาร์ โดยเทียบกับหลักฐานการเสียภาษีในปีเดียวกันของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางถึง 3,553,249 ดอลลาร์.