สถาบันภาพยนตร์ ศิลปะและวิทยาศาสตร์ หรือ AMPAS ประกาศผลการพิจารณาลงโทษ วิลล์ สมิธ เป็นหนังสือเปิดผนึกเมื่อวันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2022 โดยระบุว่า “คณะกรรมการบริหารได้ลงมติว่า ก่อนจะครบ 10 ปี นับจากวันที่ 8 เมษายน 2022 คุณสมิธจะไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมงาน หรือโปรแกรมใดๆ ของทางสถาบันฯ ไม่ว่าจะด้วยตัวเอง หรือผ่านระบบออนไลน์ (virtually) รวมถึงงานประกาศผลรางวัลออสก้าร์ ด้วย”

ทั้งนี้ ในงานประกาศผลรางวัลออสก้าร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา วิลล์ สมิธ นักแสดงระดับหัวแถวของฮอลลีวูด ได้ตบหน้า คริส ร็อค เพื่อนนักแสดงที่มาประกาศและมอบรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม หลังจากที่ คริส ร็อค ได้กล่าวล้อเลียนภรรยาของเขา

และหลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะแล้ว วิลล์ สมิธ ยังตะโกนใส่ คริส ร็อค ถึงสองครั้งว่า “get my wife’s name out your F—ing mouth.”

หลังจากก่อเหตุสะเทือนวงการได้ไม่นาน วิลล์ สมิธ ก็ได้รับการประกาศชื่อให้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากบทบาทของเขาในเรื่อง King Richard ซึ่งขณะกล่าวสุนทรพจน์บนเวที วิลล์ สมิธ ได้กล่าวขอโทษผู้ร่วมงาน แต่ไม่ได้กล่าวขอโทษ คริส ร็อค แต่อย่างใด

เหตุการณ์ดังกล่าว ทางสำนักงานตำรวจเมืองลอส แอนเจลิส แถลงในเวลาต่อมาว่า คริส ร็อค ปฏิเสธที่จะแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ขณะที่ทางสถาบันภาพยนตร์ ได้แถลงผ่านทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาว่า ทางสถาบันฯ ไม่สนับสนุนเหตุการณ์รุนแรงทุกชนิด

อย่างไรก็ดี ทางสถาบันภาพยนตร์ฯ ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลออสก้าร์ และเป็นผู้จัดงานฯ ถูกตำหนิอย่างหนักจากประชาชนทั่วไป ที่ปล่อยให้ วิลล์ สมิธ อยู่ในงานจนเลิก จนต่อมา ทางสถาบันฯ ได้แถลงว่ามีการเชิญ วิลล์ สมิธ ให้ออกจากงานแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธ รวมถึงบอกว่า คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) กำลังพิจารณาบทลงโทษที่เหมาะสมกับวิลล์ สมิธ อยู่

หลังจากก่อเหตุที่กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกแล้วหนึ่งวัน วิลล์ สมิธ ก็ได้แถลงขอโทษ คริส ร็อค และต่อมาก็ได้แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากการเป็นสมาชิกของสถาบันภาพยนตร์ฯ รวมถึงบอกว่ายินดียอมรับบทลงโทษของสถาบันฯ ที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต

โดยในหนังสือเปิดผนึกของสถาบันภาพยนตร์ฯ ว่าด้วยบทลงโทษวิลล์ สมิธ นั้น ประธานสถาบันฯ เดวิด รูบิน และ ซีอีโอ ดอว์น ฮัดสัน ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชม คริส ร็อค ที่สามารถสงบอารมณ์และทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์ ภายใต้สถานการณ์กดดันอย่างรุนแรงเช่นนั้น

อย่างไรก็ดี ฮอลลีวูด รีพอร์ตเตอร์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า บทลงโทษของสถาบันภาพยนตร์ฯ ดังกล่าว ไม่รวมถึงการ “ยึดรางวัลออสก้าร์” ที่เขาได้รับจากเรื่อง King Richard คืน รวมถึงยังมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ และมีสิทธิ์ชนะรางวัลออสก้าร์ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานประกาศผลและมอบรางวัลฯ หากยังไม่พ้นระยะสิบปี

ทั้งนี้ วิลล์ สมิธ เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม มาแล้ว 3 ครั้ง คือจากเรื่อง Ali (2001), The Pursuit of happyness (2006) ก่อนจะประสบความสำเร็จจากเรื่อง King Richards

นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่าผู้สร้างภาพยนตร์อย่างน้อย 3 ราย ได้ประกาศระงับโครงการสร้างภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับ วิลล์ สมิธ ทั้งในฐานะนักแสดง และฐานะผู้สร้าง (โปรดิวเซอร์) คือ Fast and Loose ของค่ายเน็ตฟลิค, Bad Boy 4 ของโคลัมเบีย พิกเจอร์ และ Bounce ของพาราเมาท์ พิกเจอร์ ซึ่งมีบริษัท โอเวอร์บุ๊ค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ของ วิลล์ สมิธ เป็นผู้สร้าง.