เอ็นบีซี รายงานข่าวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ถึงความคืบหน้าในคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก อีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เทสลา โดย เวอร์นอน อันส์เวิร์ธ นักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจถ้ำ ฐานที่มัสก์กล่าวหาว่าเขาเป็นพวก “ตุ๋ยเด็ก” อันเป็นเหตุการณ์ที่ยื้อเยื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วนั้น
ข่าวบอกว่าข้อพิพาทเริ่มต้นจากเดือนกรกฎาคม 2018 หลังจากซีอีโอเทสลาเผยว่า ทีมงานของเขากำลังพัฒนาเรือดำน้ำจิ๋ว ให้เข้าไปช่วยทีมหมูป่าได้อย่างปลอดภัย แต่นายอันส์เวิร์ธ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมดำน้ำช่วยเหลือทีมหมู่ป่า กลับให้สัมภาษณ์สวนทางว่า เรือดำน้ำจิ๋วนั้นช่วยไม่ได้ เป็นเหตุให้อีลอน มัสก์ โกรธ และระเบิดอารมณ์ตอบโต้ผ่านโลกออนไลน์หลายระลอก
ล่าสุด เอ็นบีซี ได้เปิดเผยเอกสารคำฟ้องของนายอันส์เวิร์ธที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม อ้างตามคำให้การของพยานและอีเมลที่ทนายได้รับ ระบุว่า นายมัสก์และบริษัทในเครือจ้างทีมนักสืบเอกชน ให้พยายามขุดหาเรื่องฉาวของนักดำน้ำคู่อริ
นอกจากนี้ นายมัสก์ยังสั่งการให้ทีมกดดันเจ้าหน้าที่ของไทย ให้พูดแต่เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับตัวเขาและเรือดำน้ำจิ๋ว ด้วย
โดยในส่วนนี้ เอกสารคำฟ้อง ข่าวให้รายละเอียดว่า ต้นเหตุเกิดจากข่าวของ บีบีซี ที่ได้ถ่ายทอดความเห็นของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รายหนึ่ง ซึ่งบอกว่าอุปกรณ์เรือดำน้ำขนาดจิ๋วของเขานั้น มีเทคโนโยลีที่ซับซ้อน แต่ไม่เหมาะกับปฏิบัติการในถ้ำ และมันไม่เหมาะสม (not practical) ซึ่งมัสก์ไม่พอใจอย่างยิ่งกับปฏิกิริยาเหล่านั้น
“เราต้องทำเต็มที่เพื่อให้ชายคนนี้ถอนคำพูด” เอกสารระบุว่า มัสก์กล่าว
เอกสารฟ้องอธิบายต่อไปว่า คนของมัสก์ ได้ใช้กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส (ซึ่งในขณะนั้นคือนายธานี แสงรัตน์) เป็นตัวกลางในการกดดันรัฐบาลไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีไทย ให้ออกแถลงการณ์เพื่อ “ถอน” ความเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐท่านดังกล่าว
โดยผู้ที่ทำงานนี้ให้กับอีลอน มัสก์ นั้น เอกสารระบุว่าคือ สตีฟ เดวิส ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัท บอร์ริง คอมปานี และสเปซเอ็กซ์ เอ็นจิเนียร์ กับ แซม เทลเลอร์ ซีอีโอของ สเปซเอ็กซ์, เทสลา, Neuralink และบอร์ริ่ง คอมปานี โดยทั้งสองได้พยายามกดดันให้รัฐบาลไทย “ถอนคำพูด” อีกทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ออกมากล่าวว่า เรือดำน้ำขนาดเล็กของเขานั้น จะต้องทำงานได้ดีและเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว นายมัสก์ขอให้ศาลตัดสินว่า นายอันส์เวิร์ธไม่มีเหตุผลอันสมควรฟ้องคดีหมิ่นประมาท เพราะเขาใช้คำสแลง ไม่ได้หมายความว่าคู่กรณีเป็นพวกชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็กจริง ๆ แต่ทีมกฎหมายนายอันส์เวิร์ธโต้ว่า คดีต้องดำเนินต่อไป เพราะนายมัสก์ให้การเท็จเพื่อปกป้องตนเองหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่สาบานตนไปแล้ว.