มหานครซานฟรานซิสโก ถือเป็นเมืองใหญ่เมืองแรกของอเมริกา ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าพฤติกรรมของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ หรือ เอ็นอาร์เอ (the National Rifle Assn.) ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ ที่มีอิทธิพลทางการเมืองมากที่สุดในอเมริกา คือพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อการร้ายในประเทศ (a domestic terrorist organization) โดยการผ่านข้อมติ หรือ resolution ของคณะกรรมการบริหารเมือง (Board of Supervisors) จากการประชุมเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา โดยหวังว่าเมืองใหญ่อื่นๆ จะร่วมด้วย
ข่าวบอกว่า ซูเปอร์ไวเซอร์ แคทเทอรีน สเตฟานี เป็นผู้เสนอญัตติดังกล่าวนี้เข้าสู่ที่ที่ประชุม หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงขึ้นที่ในเทศกาลกระเทียมของเมืองกิลรอย ทางเหนือของแคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสามราย เป็นเด็กสองราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 17 คน โดยให้เหตุผลว่า ข้อมติดังกล่าวจะเป็นการแสดงออกในเชิงสัญญลักษณ์ว่า การกระทำของ เอ็นอาร์เอ ที่โหมกระพือข้อมูลที่ไม่เป็นจริง เพื่อปิดบังสาธารณชนไม่ให้เห็น หรือเข้าใจถึงอันตรายจากอาวุธปืน, ส่งเสริมกลุ่มขวาจัด จนมีคดีเหยียดผิวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมีส่วน “ติดอาวุธ” ให้กับบุคคลที่ได้ลงมือทำการก่อการร้าย หรือกำลังคิดจะลงมือก่อการร้ายด้วย
ข่าวบอกด้วยว่า หลังจากมีการเสนอญัตติเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารเมือง ได้เกิดเหตุการณ์กราดยิงขึ้นอีกหลายครั้ง เช่นที่ เอลปาโซ่ เท็กซัส มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ้ มีผู้เสียีวิต 9 ราย และที่เมืองโอเดสซ่า รัฐเท็กซัส มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ถือว่าเป็นกดดันให้เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการบริหารฯ ลงมติเห็นชอบกับข้อมตินี้
“ผู้คนในประเทศนี้ถูกยิงเสียชีวิตทุกวัน” แคทเทอรีน สเตฟานี กล่าวเมื่อวันอังคารที่ 3 กันยายน หลังญัตติของเธอผ่านความเห็นขอบจากที่ประชุม และว่า “การอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร ไม่ใช่ตัวเลือก แต่นั่นคือสิ่งที่ เอ็นอาร์เอ พยายามจะทำ”
.
.