ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ที่เมืองเบียร์ริตซ์ของฝรั่งเศสว่า "ทรัมป์ เนชันแนล ดอรัล ไมอามีคลับ" ของตนน่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับซัมมิต G7 ปีหน้าที่อเมริกาเป็นเจ้าภาพ
ทรัมป์ โฆษณารีสอร์ทหรูของตัวเองต่อไปแบบไม่คำนึงถึงความเหมาะสมว่า มีสถานที่กว้างใหญ่ร่มรื่น ใกล้สนามบิน มีห้องพักหรูหรา 50-70 ยูนิต พร้อมรองรับผู้นำและคณะเจ้าหน้าที่ของแต่ละชาติ ห้องประชุมและห้องอาหารคุณภาพเยี่ยม ทั้งยังคุยว่าเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่สำหรับการประชุม G7 ในปีหน้าชอบกอล์ฟคลับของตนที่ไมอามี หลังจากพิจารณาสถานที่ทั้ง 12 แห่งที่คัดเลือกไว้
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ทรัมป์ถูกวิจารณ์ทันทีว่า พยายามแสวงหากำไรจากตำแหน่งประธานาธิบดี
โนอาห์ บุ๊กไบเดอร์ ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มส่งเสริมความโปร่งใส ซิติเซน ฟอร์ เรสปอนซิบิลิตี แอนด์ เอทิกส์ อิน วอชิงตัน (ครูว์) แสดงความกังวลว่า ทรัมป์กำลังเปลี่ยนตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นหน่วยงานส่งเสริม "ทรัมป์ ออร์กาไนเซชัน" เพราะเขากำลังตำแหน่งสนับสนุนธุรกิจของตัวเองที่กำลังมีปัญหาอย่างโจ่งแจ้ง
มีรายงานว่า "ดอรัลรีสอร์ต" กำลังมีปัญหาทางธุรกิจ และแม้ได้รับคำติชมแง่บวกเป็นส่วนใหญ่บนเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ แต่มีปัญหาตัวเรือด หรือเบดบั๊ค ซึ่งถือว่าเป็นแมลงกินเลือดที่น่ากลัวอย่างมาก
ด้านไมอามี เฮรัลด์รายงานว่า รีสอร์ตของทรัมป์แห่งนี้ทำข้อตกลงยอมความกับผู้บริหารบริษัทประกันภัยคนหนึ่งจากนิวเจอร์ซีย์ ที่ถูกตัวเรือดกัดขณะเข้าพัก และฟ้องร้องช่วงก่อนที่ทรัมป์จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2017
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกวิจารณ์บ่อยครั้งว่า นำโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตนมาหากินกับรัฐบาล นับจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งต้นปี 2017 ทรัมป์เข้าพักในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนวันที่รับตำแหน่ง สถานที่โปรดคือ มาร์-อา-ลาโก รีสอร์ตในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ที่เขาเคยใช้เป็นสถานที่ต้อนรับการเยือนของผู้นำจีนและญี่ปุ่น
โดยทุกครั้งที่ทรัมป์ไปพักในรีสอร์ตเหล่านั้น รัฐบาลต้องจ่ายเงินหลายแสนดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงค่าเช่ารถกอล์ฟสำหรับหน่วยอารักขา
นอกจากน้ี ทรัมป์ยังถูกโจมตีว่า โกยกำไรจากนักธุรกิจและนักการทูตต่างชาติที่เข้าพักที่โรงแรมวอชิงตัน ทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล เพื่อเอาใจทรัมป์
พรรคเดโมแครตกล่าวหาทรัมป์หลายครั้งว่า ละเมิดรัฐธรรมนูญที่ห้ามใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากทรัมป์ไม่ยอมขายทิ้งธุรกิจระหว่างอยู่ในตำแหน่งเหมือนประธานาธิบดีคนก่อนๆ
แคเทอรีน คลาร์ก จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน วิจารณ์ว่า การเสนอรีสอร์ตของตัวเองเป็นสถานที่จัดประชุมผู้นำจี7 เป็นการละเมิดจริยธรรมและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในมิติใหม่ เนื่องจากบรรดาผู้นำเหล่านั้นจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้จ่ายเงินในรีสอร์ต
แม้ทรัมป์พยายามป้องกันคำครหาด้วยการประกาศก่อนเข้ารับตำแหน่งว่า จะบริจาคกำไรที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ของตนเองได้รับจากการทำธุรกิจกับรัฐบาลต่างชาติ แต่ที่ผ่านมามีการบริจาคเงินเพียง 340,000 ดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการระบุที่มาที่ไปของผลกำไรเหล่านั้น
เมื่อต้นปีนี้ อิริก ทรัมป์ ลูกชายประธานาธิบดี ยังบอกว่า บริษัทพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำธุรกิจกับหน่วยงานรัฐบาลต่างชาติ ด้านผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าที่เสนอจัดซัมมิต G7 ในรีสอร์ตของตัวเองนั้น ไม่ได้หวังหาเงินอย่างที่หลายคนวิจารณ์.