อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
คอสท์โก้ประกาศขึ้นราคา รับ’สงครามการค้า’กับจีน





แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : “คอสท์โก้” ซูเปอร์สโตร์ขวัญใจเจ้าของร้านอาหาร ประกาศปรับราคาสินค้าต้อนรับ “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐ และจีน

คอสท์โก้ ถือเป็นร้านค้าปลีกรายล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ออกมายอมรับว่าการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศทำสงครามการค้ากับประเทศจีน จะส่งผลกระทบรุนแรงกับราคาสินค้าแทบทุกชนิด โดยซูเปอร์สโตว์ ยักษ์ใหญ่รายนี้ยอมรับว่า จำเป็นต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อ “ต้านทาน” ผลจากสงครามครั้งนี้

“ในที่สุดแล้ว ราคาสินค้าต่างๆ ก็จะต้องขยับสูงขึ้น” ริชาร์ด กาลันติ หัวหน้าฝ่ายการเงินของคอสท์โก้ กล่าวระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และว่าตนหวังว่าความสัมพันธ์แบบขึ้นๆ ลงๆ ของท้ังสองประเทศจะดีขึ้น เพื่อจะได้ไม่มีผลกระทบกับผู้บริโภคมากและยาวนานเกินไป

รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เริ่มต้นสงครามการค้ากับประเทศจีนอย่างจริงจัง โดยการขึ้นภาษีการค้า 10-20 เปอร์เซ็นต์กับสินค้านำเข้าของจีน มูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนนี้ แถมยังขู่ด้วยว่า จะขึ้นภาษีเพิ่มเติมอีก 25 เปอร์เซ็นต์กับสินค้าเกือบทุกชนิดที่เหลือ ซึ่งข่าวระบุว่ามีปริมาณถึง 325 พันล้านดอลลาร์ต่อไป

คอสท์โก้ แถลงว่ามาตรการตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลกระทบสินค้าหลายชนิด เช่นเฟอร์นิเจอร์ จักรยาน และกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น โดยวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างหนึ่งของคอสท์โก้ คือการมองหาแหล่งผลิตสินค้าในประเทศอื่น

“เรากำลังคุยกับทุกซัพพลายเดอร์ เพื่อดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อลดต้นทุนลง บางกรณี เราได้ลดจำนวนคำสั่งซื้อลง และขณะเดียวกัน เราก็ได้เปรียบกับสินค้าที่ผลิตในอเมริกาบางตัว ที่ได้รับผลกระทบแบบสวนทางกัน” ริชาร์ด กาลันติ กล่าว

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า สงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น จะส่งผลให้สินค้ามากมายมีราคาแพงขึ้น ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ ถึงเสื้อผ้าอาภรณ์ อีกทั้งยังเป็น ”ตัวเร่ง” ของการปิดกิจการของร้านค้าต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้บริการของคอสท์โก้ กล่าวว่า กำแพงภาษี ไม่ได้ทำให้ลูกค้า “กลัว” เสมอไป เช่นสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ยังคงทำยอดขายได้ดีมาก “มันเป็นเรื่องยากที่จะทำนายว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร” เขากล่าว

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรกที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 พฤษภาคม คอสท์โก้ รายงานว่ามีรายได้สุทธิ 906 ล้านดอลลาร์ (2.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น) ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ 750 ล้านดอลลาร์ (1.70 ดอลลาร์ต่อหุ้น) ค่อนข้างมาก.
.
.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข