เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากกรณี พริตตี้สาวที่ต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาลหลังถูกหลอกให้กินบราวนี่และตรวจพบกัญชานั้น โดยกัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ออกฤทธิ์แบบผสมผสาน ทั้งกระตุ้นประสาท กดประสาท และหลอนประสาท ซึ่งในกัญชามีสาร Tetrahydrocannabino (THC) ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาท เมื่อเสพกัญชาสาร THC จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วและเข้าสู่สมอง ซึ่งจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 นาที และออกฤทธิ์นานถึง 3-5 ชั่วโมง การเสพกัญชาเพียงครั้งเดียวในปริมาณมากอาจต้องใช้เวลาถึง 1 เดือน กว่าที่ร่างกายจะกำจัดได้หมด อาการของผู้เสพหากเสพในปริมาณน้อย จะทำให้เคลิบเคลิ้ม ปากแห้ง ตาแดง เห็นภาพหลอน หัวเราะมากกว่าที่เคยเป็น หากเสพในปริมาณมาก จะทำให้กระสับกระส่าย ตื่นเต้น หวาดกลัวประสาทหลอน สูญเสียความทรงจำระยะสั้น พูดไม่มีเหตุผลการเคลื่อนไหวไม่สมดุล หูแว่วและสับสน



นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวว่า จากสถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ในปี 2560 พบผู้ป่วยกัญชามากเป็นอันดับ 3 รองจาก ยาบ้าและสุรา การเสพกัญชาแม้เพียงในระยะสั้นทำให้ผู้เสพบางรายสูญเสียความทรงจำ เพราะฤทธิ์ของกัญชาจะทำให้สมองและความจำเสื่อม เกิดความสับสน หากผู้เสพมีอาการของโรคจิตเภทหรือเป็นโรคซึมเศร้า จะมีความเสี่ยงและอาการรุนแรงมากกว่าคนปกติทั่วไป กัญชามีการแพร่ระบาดในหมู่ผู้ใช้ยาเสพติด เตือนภัยนักเที่ยวยามค่ำคืนต้องเที่ยวอย่างมีสติ ไม่ควรดื่มจนเมามายเพราะจะดูแลตัวเองไม่ได้ และอาจเกิดอันตรายตามมา ถ้าลุกไปเข้าห้องน้ำ ให้กลับมาสั่งเครื่องดื่มแก้วใหม่ทันทีและที่สำคัญที่สุดอย่ารับอาหารหรือเครื่องดื่มจากบุคคลที่ไม่รู้จักเพราะอาจถูกหลอกให้ดื่มเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีสารเสพติดผสมอยู่ ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติของร่างกายหรือสงสัยว่ารับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสารเสพติดเข้าไปแนะนำให้รีบออกจากสถานที่นั้นและพบแพทย์ให้เร็วที่สุด